เน็ตไอดอลสาว เล่านาทีทรมาน ถูกไฟคลอกจากคลินิก ได้รับบาดเจ็บสาหัสแผลไฟไหม้ระดับ 3

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 6 ธันวาคม 2566

เน็ตไอดอลสาว เล่านาทีทรมาน ถูกไฟคลอกจากคลินิก ได้รับบาดเจ็บสาหัสแผลไฟไหม้ระดับ 3 สู้มา 1 ปีเต็ม แต่ยังไม่ได้รับการรับผิดชอบที่เพียงพอ

จากเหตุการณ์ของ น้องหมวยเล็ก อินฟลูเอนเซอร์-เน็ตไอดอลสาว ที่ได้ไปทำการถ่ายคอนเทนต์รีวิวให้กับคลินิกแห่งหนึ่ง ด้วยการทำหัตถการเผายาสมุนไพรบนหน้าท้อง แต่ระหว่างนั้นก็เกิดทำแอลกอฮอล์ไหลซึมออกจากบริเวณที่ทำหัตถการ จนไฟลุกคลอก เผาตามร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส แผลไฟไหม้ระดับ 3 สู้มา 1 ปีเต็ม แต่ยังไม่ได้รับการรับผิดชอบที่เพียงพอ

เน็ตไอดอลสาว เล่านาทีทรมาน ถูกไฟคลอกจากคลินิก ได้รับบาดเจ็บสาหัส

ล่าสุด (5 ธ.ค.) ในรายการ โหนกระแส ได้เชิญ น้องหมวย สาวนักรีวิวออนไลน์ มาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เห็นประกาศจากคลินิกแห่งนี้ อยู่ย่านรามอินทรา ลงประกาศหาคนไปรีวิวการจัดกระดูก ได้คิวถ่ายรีวิวตั้งแต่ 10 ธันวาคม 2565 เป็นการรีวิวแลกกับ Voucher ของทางคลินิก ก็ไปถ่ายการจัดกระดูกจนเสร็จเรียบร้อย ทางพนักงานของคลินิกบอกว่า ไม่อยากให้ถ่ายแค่จัดกระดูกอย่างเดียว มันธรรมดาไป อยากให้ถ่ายอย่างอื่นเพิ่ม มีให้เลือก 3 อย่าง คือ ฝังเข็ม ครอบแก้ว และเผายาหน้าท้อง

ตนเพิ่งฉีดโบท็อกซ์มา ทำให้ฝังเข็มใบหน้าไม่ได้ ครอบแก้วก็ไม่ได้ เพราะจะต้องใส่ชุดเปิดหลังออกงาน ถ้าครอบแก้วจะเป็นรอยแดงจ้ำ ๆ จึงต้องถ่ายรีวิวเผายาหน้าท้อง โดยมีหมอของคลินิก เป็นหมอผู้หญิง อายุประมาณ 30 กว่า ๆ เป็นคนทำให้

โดยวิธีการคือเราต้องนอน เปิดหน้าท้อง เอาผ้ารอง 1 ชั้น แล้วเอาผ้าม้วนเป็นกรอบสี่เหลี่ยม ใส่สมุนไพรตรงกลาง ฉีดแอลกอฮอล์ลงไป แล้วจุดไฟเผา หมอยืนยันว่าทำแบบนี้ปลอดภัย ไม่อันตราย ลูกค้าหลายคนมาทำ 5-6 รอบก็ทำได้ปกติ มันจะช่วยเรื่องประจำเดือน ช่วยขับลม ทำแล้วดีกับร่างกาย

เราไว้ใจหมอ เราก็ยอมทำ ต้องฉีดแอลกอฮอล์จุดไฟทั้งหมด 5-6 ครั้ง โดยครั้งที่ 2 เริ่มผิดปกติคือ แอลกอฮอล์มันไหลซึมออกนอกจุดที่เขาวางผ้าไว้บนหน้าท้อง ไหลซึมลงมาตามร่างกาย เปียกไปที่แขน ที่กางเกงชั้นใน ที่หลัง ซึ่งเราก็แจ้งหมอตลอดว่าแอลกอฮอล์มันไหลลงไปโดนส่วนอื่นนะ พอจุดไปประมาณครั้งที่ 3-4 เรารู้สึกร้อนมาก และแอลกอฮอล์เริ่มเปียกเยอะขึ้น แต่เราไม่ได้บอกให้เขาหยุดทำ

จนตอนจุดไฟรอบที่ 5 มีเสียงระเบิดดัง ไฟลุกพรึ่บไหม้ทั้งตัว จนน้องหมวยกรี๊ดลั่น แฟนของหมวยดึงเธอลงมาจากเตียงที่ไฟลุกไหม้ ตากล้อง และแฟนของหมวย ช่วยกันดับไฟที่ลามตามร่างกาย ส่วนหมอวิ่งหนีออกจากห้องตั้งแต่แรก

สุดท้ายหมวยได้รับบาดเจ็บถูกไฟคลอกตามร่างกาย เจ็บปวดทรมานมาก เดินไม่ได้ นั่งยังนั่งไม่ไหว ต้องเรียกรถกู้ภัยมารับ ตอนที่ขึ้นรถกู้ภัยไป เจ้าหน้าที่ก็พูดกับเราไม่ค่อยดี ถามว่าเราจะร้องอะไรนักหนา ขึ้นรถกู้ภัยไปแล้วยังไม่ได้โรงพยาบาล ต้องไปจอดรถรอข้างถนน กว่าจะหาโรงพยาบาลที่รับรักษา หมวยต้องแอดมิตในโรงพยาบาลนานกว่า 2 เดือน อาการทรุดหนักในช่วงแรก เป็นแผลไฟไหม้ระดับ 3 ต้องนอนคว่ำตลอดเวลา หายใจแรงก็ไม่ได้เพราะแผลจะฉีก กว่าจะดีขึ้นใช้เวลานานมาก

ตลอดเวลาที่รักษาในโรงพยาบาล ค่ารักษาตอนแรกที่อยู่ในโรงพยาบาลคือ 1.4 ล้านบาท ทางคลินิกรับผิดชอบค่ารักษา โดยหมวยใช้ประกันของตัวเอง 3.8 แสนบาท ทางคลินิก และหมอ ช่วยกันจ่ายให้ครบในตอนนั้น

แต่หลังจากออกจากโรงพยาบาลมา หมวยต้องจ่ายค่ารักษาเยียวยาตัวเอง รวมกับเงินประกันไปประมาณ 7 แสนกว่าบาท หากรวมกับค่าศาล ค่าทนาย น่าจะถึงล้านแล้ว พอเราออกมาจากโรงพยาบาลแล้ว ทางคลินิกไม่ติดต่อมาอีก ต้องเป็นเราที่ไปติดต่อ พูดเรื่องเงินไป เขาก็จะพูดว่ากับแฟนเราว่า “ใจเย็น ๆ เราไม่ทิ้งกัน”

ส่วนไปแจ้งความไว้ที่ สน.บางเขน เขาก็เหมือนรับแจ้งไว้ แต่ก็ไม่ได้ดำเนินการทางอาญา เอาแต่บอกว่าเดี๋ยวจะเรียกมาเจรจากัน ตอนนี้ผ่านมากำลังจะครบปีแล้ว ไม่รู้ว่าอายุความจะเหลืออีกนานหรือไม่
ขณะที่ศัลยแพทย์ตกแต่ง ของโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งดับเบิ้ลยู ประเมินจะร่องรอยบาดแผลที่เกิดขึ้นของน้องหมวย บอกว่า การจะแก้ไขให้ผิวหนังกลับไปเหมือนเดิมก่อนเกิดเหตุ 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นไปได้ยากมาก ๆ จนแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

ตอนนี้บาดแผลทั้งหมดตามร่างกายของน้องหายสนิทแล้ว ที่เหลือเป็นปัญหาก็คือรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ตามจุดต่าง ๆ ที่จะส่งผลทั้งร่างกายและจิตใจ ส่วนจะรักษาอย่างไร ต้องตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนทางโรงพยาบาลดับเบิ้ลยู จะดูแลค่ารักษาให้ทั้งหมด

ขณะที่ทนายความของน้องหมวย บอกว่า ในส่วนของคดีอาญา ได้ยกให้ทาง สน.บางเขนจัดการ ส่วนทางตนได้ดำเนินการในทางแพ่ง และได้เสนอตัวเลขค่าเสียหายไป 20 ล้านบาท แต่ทางคลินิกไม่ได้ตอบรับ และไม่ได้เสนอตัวเลขต่อรองกลับมาแต่อย่างใด พอไกล่เกลี่ยกันมานานแต่ไม่ได้ข้อสรุป สุดท้ายจึงตัดสินใจยื่นฟ้องต่อศาล และเบิกความต่อศาลว่า หากทางคลินิกจริงใจจะรับผิดชอบจริง เรื่องค่าเสียหายเดี๋ยวค่อยว่ากัน แต่ขอให้รับผิดชอบจ่ายเงินตามจริง ตามที่น้องมีใบเสร็จค่ารักษาก่อนได้ไหม เพื่อให้น้องมีเงินมารักษาตัวเองต่อไป เพราะได้ใช้เงินเก็บที่มีอยู่จนหมดแล้ว

แต่สุดท้ายก็ไม่มีการรับผิดชอบ จะไปคุยที่ศาลอย่างเดียว ไม่มีความคืบหน้าทั้งที่เราให้โอกาสเขามาเป็นปีแล้ว ทำให้ทางครอบครัวตัดสินใจ เข้ามาร้องกับกัน จอมพลัง และไปร้องกับกระทรวงต่าง ๆ เพราะรู้สึกว่า เขาไม่มีความตั้งใจจะรับผิดชอบเลย

ขณะที่ อาจารย์แพทย์แผนไทย คมสัน ทินกร ณ อยุธยา ยืนยันว่า การเผายาสมุนไพร มีการระบุไว้ตามหลักวิชาชีพแพทย์แผนไทย การทำหัตถการมันดี เป็นการรักษาอาการเจ็บป่วย ณ ปัจจุบันทันด่วน แต่วิธีการที่เห็นในคลิป ที่เขาทำให้น้อง มันผิดโดยสิ้นเชิง การจะเผายาต้องเอาผ้าชุบน้ำวางทับบนสมุนไพร แล้วพรมแอลกอฮอล์ แล้วจุดไฟบนผ้า ไม่ใช่จุดไฟบนสมุนไพรโดยตรง แล้วแอลกอฮอล์ก็ต้องใช้น้อยลงเรื่อย ๆ ในแต่ละครั้ง เพราะเวลาการจุดแต่ละครั้ง มันจะเกิดความร้อนสะสมบนร่างกาย แพทย์ที่ทำใหน้อง อายุเพิ่งจะ 23 ปี ไม่มีความรู้แล้วไปทำ ทำโดยประมาท แล้วมันทำให้แพทย์แผนไทยเสียชื่อกันทั้งประเทศ

สุดท้ายทางทนายของน้องหมวย เสนอว่าขอคลินิกรับผิดชอบเรื่องค่ารักษาที่น้องสำรองจ่ายไปก่อน 3 แสนกว่าบาท เอาบิลไปเบิกตามจริงได้เลย ส่วนเรื่องค่าเสียหายต่าง ๆ ก็ให้เข้าไปพูดคุยกัน ซึ่งทางคลินิกได้ติดต่อมาให้ทางทนายของหมวยติดต่อไปได้เลย