เปลือยเส้นทางชีวิต เชฟเอียน ตัดสินใจเป็นเชฟเพราะทุนเรียนฟรี! เผยวิธีเลี้ยงลูกสุดโหด ถ้าไม่เรียนเชฟก็หาเงินเรียนเอง
เปิดเส้นทางชีวิตเชฟซุป’ตาร์แห่งยุค เชฟเอียน ที่เพราะอะไรทำไมพี่สาวของ เชฟเอียน กลัวน้องชายเป็นสาวสอง ถึงขั้นเตรียมจัดผู้หญิงไว้ให้ พร้อมเปิดเผยมุมมองส่วนตัวอยู่ในโอวาทภรรยาขั้นสุด แถมมีวิธีเลี้ยงลูกสุดโหด ถ้าลูกไม่เรียนเชฟ ต้องหาเงินเรียนเอง ผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง One 31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ เป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
- เซ็นเซอร์เป็นเหตุ แมท ภีรนีย์ ตอบกลับอย่างไว หลังโดนถาม หรือหัวใจไม่ว่างแล้ว?
- คุณแม่เอส กันตพงศ์ เคลื่อนไหว ขอบคุณคนสำคัญที่ช่วยชีวิตลูกชาย หลังปาฏิหาริย์มีจริง
- มือที่ 3 รู้สึกผิด อยากขอโทษ หนิง ปณิตา ฝาก ธัญญ่า ช่วยประสาน ขำสามีสอน จิน จรินทร์
เชฟโตมาในครอบครัวมีพี่น้อง 8 คน เชฟเป็นผู้ชายคนเดียว?
“ครับ เป็นคนที่ 7 มีน้องสาวคนหนึ่ง ตอนโตพี่สาวบอกว่า มีของเล่นเยอะมาก คุณพ่อคุณแม่ซื้อของให้เล่นเยอะมาก เพราะเป็นผู้ชายคนเดียว”
ทีมงานบอกว่าตอนเด็ก ๆ เชฟเอียนไม่พูด ?
“ตอนช่วงประถม คุณแม่กลับมา การบ้านก็ทำ แต่ว่าลูกชายไม่เคยพูด เขาเลยพาผมกลับไปที่โรงเรียนว่า เนี่ย ไม่พูด เป็นใบ้หรือเปล่า เราไม่ค่อยพูด ไม่รู้จะพูดอะไร ก็เลยเงียบ ๆ แทบจะไม่พูดเลย”
แล้วครอบครัวมีธุรกิจอาหารที่ซิดนีย์เมื่อไร ?
“คิดว่าก่อนที่ผมไป 2 ปี ตอนอายุ 16”
ตั้งแต่เกิดถึง 16 ปี อยู่เมืองไทย ?
“อยู่เมืองไทย เสร็จแล้วหลังจาก 16 ผมตามเพื่อนไปอังกฤษ ก่อนหน้านั้นที่บ้านย้ายไปหมดแล้วที่ออสเตรเลีย แต่ผมไม่อยากไปกับเขาด้วย เราอยู่กับเขามา 16 ปี ก็อยากไปทำอะไรของเราเอง เลยบอกคุณแม่ ขอไปอังกฤษ พี่สาวก็ไม่ยอมให้ไปกัน เขาบอกถ้าไปอังกฤษมันติดยาแน่นอน แต่เราเป็นผู้ชาย แล้วเป็นลูกชายคนเดียว แม่ก็ยอมทุกอย่างเลยให้ไป แต่ไปถึง 3 วันแรก พูดภาษาอังกฤษไม่เป็นเลย ได้ไปทำงานในโรงแรม ล้างหม้อ ที่บ้านเพื่อน ๆ ก็ถามว่าทำงานอะไร ผมบอกคุมเครื่องทำความสะอาด”
นั่นคือสิ่งที่เราอยากทำ ?
“ไม่ใช่ครับ คือคุณแม่ไปกู้เงินมาเพื่อจ่ายค่าเล่าเรียนให้เรา อันนี้เริ่มต้นก่อน คือเรียนภาษาอย่างเดียวอย่างที่สอง จ่ายเงินให้เรา 6 เดือน เป็นที่พัก อย่างที่สามคือจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินให้เรา เพราะเราได้วีซ่านักเรียน อันนี้เป็นแบบเริ่มต้น ยังไม่รวมกิน ไปถึงปุ๊บ เพื่อนบอกมีงานให้ทำ ผมเลยได้ทำ เสร็จปุ๊บเราก็มีเงินแล้ว แต่เราเป็นนักเรียน เราทำงานได้แค่ 4 วันต่ออาทิตย์ ตอนนั้นชีวิตเราอยู่อังกฤษ แต่ครอบครัวทั้งหมดย้ายไปอยู่ซิดนีย์ เพราะว่ามีธุรกิจอาหารที่ซิดนีย์”
ถ้าคนข้างนอกมองเชฟชีวิตคุณหนูมากอยู่แล้ว พ่อแม่ได้เงินมาส่งให้ลูก ๆ เป็นอย่างนั้นไหม ?
“จริง ๆ ไม่เลยนะครับ เหมือนกับคุณแม่ตั้งปณิธานไว้ว่าลูกทุกคนจะส่งให้จบปริญญาตรี คุณแม่ทุกคนเป็นอย่างนี้ พอจับพลัดจับผลูได้งานทำ คราวนี้มันไม่ใช่ทางเราแล้ว เพราะเราไม่เคยใช้ภาษาเลย พูดก็ไม่เป็น คือไม่ต้องพูดเลย ล้างอย่างเดียว หลังจาก 3 เดือนผ่านไป ผมลาออกไปเป็นคนเสิร์ฟ ตอนนั้น 3 เดือน เรายังพูดอะไรไม่เป็น ฟังก็ไม่รู้เรื่อง ผมเป็นคนเสิร์ฟกาแฟกับชา เหมือนบนเครื่องบิน”
แล้วชีวิตเรามาเป็นเชฟได้ยังไง ?
“พอหลังจากที่จบเซอร์วิช ผมเรียนภาษาเที่ยงถึงบ่ายสาม ได้ทำงานเช้า ทำงานเสร็จประมาณ 10 โมง ผมเข้าไปฝึกภาษากับเชฟคนหนึ่งอยู่หลังครัว วันหนึ่งเขาบอกผมให้เข้าไปช่วย เพราะวันนี้ผู้หญิงอีกคนไม่มา ไออยู่คนเดียว กลางวันมีจองอยู่ 120 คน ผมทำอะไรไม่เป็นเลย เราเสิร์ฟอย่างเดียว เขาบอกเดี๋ยวเขาโชว์ให้ดู อาหารมีไม่กี่อย่าง แต่ว่าจะเป็น A la carte ส่วนใหญ่จะมี 3-4 อย่างที่แขกสั่งประจำ เสร็จแล้วเข้าไป”
“ผมไม่ทันได้ช่วยเลย เมเนเจอร์เข้ามา เพราะผมใส่ชุดเสิร์ฟเสื้อขาว กางเกงดำ เขาบอกว่าเอียนเข้ามาทำอะไรที่นี่ เชฟที่ให้เรามาช่วยก็บอกไป เขาเลยถามว่าเราอยากเป็นเชฟ เราจะส่งคุณไปโรงเรียน ดีใจมาก ไม่ต้องจ่ายเงิน ดีใจมาก สตันต์ไปพักนึง เขาบอกไปคิดดูก่อน หลังจากนั้นทำงานเสร็จผมก็ไปโรงเรียน เสร็จกลับบ้าน ก็เจอผมอีก เขาถามยูคิดหรือยังว่าจะไปเรียนไหม ผมบอกเลยว่าไป คิดอย่างแรกเลย แม่ไม่ต้องส่งเงินให้เราแล้วนะ เรียนฟรี แต่ที่ไหนได้ ปีนึง 55 ปอนด์ เพราะเป็นโรงเรียนรัฐบาล เพราะแต่ก่อนโรงเรียนที่แพง ๆ ไม่มี”
เชฟอยู่อังกฤษกี่ปี ?
“2 ปี เราใช้ชีวิตไม่เป็น เราใช้ชีวิตแบบวัยรุ่น เด็ก ๆ เพื่อนนอนอยู่ในห้องนอนเดียว 30 คนเป็นคนไทยทั้งนั้นเลย รู้สึกว่าเราเนี่ย ถ้าสมมติโดดเรียน ไม่ไปทำงาน มาทำไมที่นี่ เพื่อนเยอะก็เลยไม่เอาดีกว่า ส่วนใหญ่โดดเรียนไม่ได้ไปไหน ไปวัดไทย”
ช่วงนี้คือไปเรียนหรือยัง ?
“เรียนแล้ว แต่เกิดอุบัติเหตุโดนมอเตอร์ไซค์สอย เดินไม่ได้ เจ็บขา แต่ไม่มีอะไรหักเลย แล้วก็หยุดเรียนไป ก็หมดสิทธิ์สอบ ก็เลยเริ่มคิดแล้ว เราน่าจะไปอยู่กับพี่สาวดีกว่า ที่นี่หนาวก็หนาว”
พี่สาวของเชฟกลัวว่าเชฟจะเป็นสาวสอง เพราะอะไร ?
“ตอนนั้นไว้ผมยาวถึงเอว ไปอยู่ออสเตรเลีย ที่บ้านผู้หญิง 7 คน ทุกคนไว้ผมยาวหมด ผู้ชายเขาไม่ไว้ผมยาว เราไม่ต้องการผู้หญิงอีกหนึ่งคนในบ้านแล้วนะ ไม่ใช่อะไร ผมขอเขาเจาะหูด้วย เขาถามว่าเราจะเจาะข้างซ้ายข้างขวา ผมบอกข้างซ้าย เขาบอกดีแล้ว ถ้าข้างขวาจะเป็นอีกเพศนึง เสร็จแล้วไว้ผมยาว ไหนจะเจาะหูอีก เราไม่ต้องการผู้หญิงอีกคนในบ้านแล้วนะ”
สุดท้ายพี่สาวก็ยังไม่ไว้ใจเชฟอยู่ดี จนต้องจัดหาผู้หญิงมาให้ กะจะคลุมถุงชน ?
“เขากลัวว่าเราจะเป็นผู้หญิง เขาเลยไปหาแฟนมาให้ บอกจะแนะนำผู้หญิงให้รู้จัก ตอนนั้นหัวสมองเขามีแต่กีฬาอย่างเดียว ผมเลิกงานเที่ยงคืนไปวิ่ง กว่าจะได้นอนก็ตีสาม ตื่นเช้ามาว่ายน้ำต่อ”
แล้วระหว่างทางที่พี่สาวบอกจะแนะนำผู้หญิงให้รู้จัก เชฟเคยมีแฟนมาก่อนไหม ?
“ตอนที่เรียนอยู่ที่เมืองไทย มีแฟน ชอบคนนั้นคนนี้ แต่ไม่ได้เป็นแฟนจริงจัง พอไปต่างประเทศก็เลิกติดต่อกัน ตอนไปอังกฤษก็ไม่มี อยู่กับเพื่อนตลอด ซิดนีย์ก็ไม่มี มีแต่เชฟที่เป็นหัวหน้าเรา”
พี่สาวจัดให้กี่คน ?
“3-4 คนเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ทุกอาทิตย์”
ภรรยาสุดสวยคือคุณซาร่าไปเจอได้ยังไง ?
“เจอที่ร้านอาหารผมเองที่นิวยอร์ก แล้วมีพนักงานคนหนึ่งบอกว่าฉันมีเพื่อน เดี๋ยวขึ้นไปเซย์ฮัลโหลหน่อยนะ”
แล้วทำไมเขาถึงหลุดเข้ามาในใจเราได้ ?
“ผมบอกผมดื่มอยู่ที่บาร์ เดี๋ยวจะกลับไปดื่มที่บ้าน เดี๋ยวฉันบอกไปด้วย เสร็จแล้วทีนี้ร้านปิด ไม่รู้จะไปไหนต่อ อยู่ที่นั่นมาไม่เคยไปไหนเลย แต่มันมีอีกร้านนึงอยู่ใกล้ ๆ เราไม่รู้เหมือนกันว่าร้านเป็นยังไง แต่เปิดเข้าไปปุ๊บ เป็นดีเจเล่นเพลง ตอนนั้นเหมือนสาวออกเลย ผมชอบดิสโก้ เต้นกันจนถึงตี 5 ร้านปิด พาไปที่บ้าน เช้ามาผมก็พาเขาไปส่ง”
คุยกันนานไหมถึงตัดสินใจแต่งงานกัน ?
“อยู่ด้วยกันมา 3 ปี เขาบอกว่าถึงเวลาแล้วที่จะแต่งงาน ผมไม่เป็น ดูแหวนเพชรก็ไม่เป็น ทำงานอย่างเดียวเลย เขาเลยกลายเป็นคนแพลนชีวิตเรา”
เชฟเอียนเวลาอยู่บ้านเป็นยังไง ?
“ผมเวลาเห็นสิ่งสกปรกที่พื้นบ้าน ก็ถามซาร่า ยูอยู่บ้านหยิบไม้กวาดกวาดก็ได้ เขาบอกว่าไงรู้ไหม ฉันจับไม้กวาดไม่เป็น ผมช็อกเลย”
เชฟเอียนเกรงใจภรรยาขั้นสุดกี่เปอร์เซ็นต์ ?
“น่าจะ 99% นะ”
ตอนนี้มีลูก 2 คน ?
“ใช่ครับ”
อันนี้จริงไหม ถ้าลูกไม่เรียนเชฟไปหาเงินเรียนเอง ?
“จริงครับ ตอนที่เขาจบไฮสคูล ผมบอกว่าเรียนอะไรก็เรียนได้ แต่ถ้าเรียนทำอาหารผมจ่ายให้ แต่ถ้าอยากเรียนอย่างอื่น ผมตามใจ ทำงาน หาเงิน แล้วไปจ่ายค่าเรียนเอง”
ตอนนี้ทุกคนเรียนเชฟไหม ?
“คนโตเรียนเกี่ยวกับอาหาร แต่ไม่ใช่เชฟ แต่ผมก็จ่าย มันยังอยู่ในเครือโรงแรม บริหาร ส่วนคนเล็กยกมือเลย จะไปเรียนทำอาหาร ผมบอกไม่เชื่อ ต้องไปทำงานให้ผมดูก่อน 6 เดือน แต่ไม่ใช่ร้านผม เลยไปอยู่ที่ภูเก็ต เขาบอกเขาไม่กลับแล้ว ไปทำงานที่อื่นต่อ ผมบอกไม่ได้ ยูต้องกลับมา มาเตรียมวีซ่า เตรียมอะไรก็แล้วแต่ แล้วส่งเขาไปเรียนที่ฝรั่งเศส ตอนนี้อยู่ที่สิงคโปร์”
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- จับตาสาวมือที่ 3 คู่กรณี หนิง ปณิตา เคลื่อนไหว IG หลังเบี้ยวนัดศาล เจอสวนกลับมีสะดุ้ง
- เจ๊มอย 108 สร้างเรื่องอีก! โพสต์ลอย ๆ มูฟออนไวหลังเลิกแป๊บเดียว จับตาคู่ไหนในวงการ?
- ดราม่าชาวลาวเดือด ตั๊ก ศิริพร แจงปมร้อน แต่งตัวไม่เหมาะสม ร้องเพลงเสียงดังในวัด