หายไป 2 ปี อาบี เปิดใจครั้งแรก ยันตกเป็นเหยื่อ ถูกปั่นหัวโลก 2 ใบสามีนางเอกดัง

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 13 มีนาคม 2566

ไม่เคยเล่าที่ไหน อาบี ปกชนม์ เปิดใจครั้งแรก หลังหายไปนาน 2 ปี ยืนยันตกเป็นเหยื่อ ถูกปั่นหัวโลก 2 ใบสามีนางเอกดัง วันนี้ขอทวงความยุติธรรม!

จากมหากาพย์ดราม่าระหว่างนักแสดงสาวชื่อดัง กับอดีตผู้จัดการส่วนตัว ที่ตอนนี้คดีจบสิ้นกระบวนการทุกอย่าง หลังดาราสาวตัดสินใจฟ้องร้องในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กรณีสร้างเรื่องเท็จเกี่ยวกับแฟนหนุ่ม ล่าสุด อาบี ปกชนม์ ดิษยบุตร เปิดใจเป็นครั้งแรกกับ อีจันบันเทิง เกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น

วันนี้อยากมาขอโทษ คุณเค วัฒนา เจริญศักดิ์วัฒนา สามีของดาราสาว อีกครั้ง จากเรื่องที่ก่อนหน้านี้ทำให้เกิดความเสียหาย และได้มีการฟ้องร้องกัน

“บีได้แชทจริง ผิดจริงค่ะ เคยโพสต์ขอโทษเค คุณจั่น และครอบครัว รวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบในเรื่องนี้ไปแล้วในเฟซบุ๊กและไอจีของบี ตอนเจอเคในห้องพิจารณาคดีก็ได้ยกมือไหว้ขอโทษเคไปอีกครั้งหน้าบัลลังก์ ต่อหน้าท่านผู้พิพากษา วันนี้อยากขอโทษอีกครั้งค่ะ เคไม่ได้เป็นแบบที่บีบอกเล่าบุคคลที่ 3 ไม่ได้มีโลกใบที่ 1 ที่ 2 ไม่มีเรื่องธุรกิจผิดกฎหมายใด ๆ สิ่งที่บีทำ ทำผิดกับเค อันนี้ยอมรับ น้อมรับจากใจจริง ขอโทษอีกครั้งนะคะ”

“มีเรื่องที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน บีไม่ได้เป็นคนกุเรื่องสร้างเรื่องตาลหรือโลกใบที่ 1 รวมถึงข้อมูลทั้งหมดนี่ขึ้นมา บีได้ข้อมูลทั้งหมดนี้มาจาก นางสาว ก. ซึ่งเธอคนนั้น เป็นแฟนคลับดาราสาวมานานหลายปี นางสาว ก. เริ่มให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีแค่คนในบ้าน หรือเพื่อนสนิทดาราสาวเท่านั้นที่รู้ สร้างตัวละครขึ้นมา ทั้งตาลทิพย์ และอีกหลายคน สร้างสถานการณ์เท็จขึ้นมา จนบีเริ่มคิดว่า หรือตาลมีตัวตนจริง เราตัดสินใจเก็บเงียบไม่บอกใคร แม้กระทั่งดาราสาวเอง เพราะไม่ชัวร์ในข้อมูล

จนกระทั่งมีการณ์ที่ นางสาว ก. สร้างขึ้นมาว่า ตาลโกรธแค้นดาราสาวมาก จะทำลายชื่อเสียงน้องด้วยการส่งข่าวไปให้สื่อ ทำนองว่าแย่งสามีตัวเองไป แต่บีไม่เชื่อ จนมีสื่อหลักช่องหนึ่งเล่นข่าวนี้จริง ๆ ช่วงนี้แหละที่บีทำผิดพลาด ติดต่อไปหาพิธีกรท่านหนึ่งเพื่อขอให้ช่วยน้อง หากข่าวนี้เป็นเรื่องจริง น้องไม่รู้เรื่องมาก่อน จุดนี้แหละค่ะ ที่บีให้ข้อมูล คุณเค ตามที่ถูก นางสาว ก. หลอก จนเกิดเป็นคดี”

“วันหนึ่ง นางสาว ก. มาบอกว่า ตอนนี้ ตาล กำลังจะบุกไปทำร้ายร่างกาย ดาราสาว ที่ห้าง ปรากฏว่าน้องอยู่ที่ห้างนั้นจริง ๆ บี และ นก จึงรีบขับรถไปหาน้องเพื่อเตือนและบอกเล่าเรื่องที่รับรู้มาในรถส่วนตัว คุณเค ได้ปฏิเสธเรื่องราวที่ได้รับฟัง ซึ่งนั่นก็ถูกแล้วเพราะมันไม่ใช่เรื่องจริง หลังจากนั้นมาก็บานปลายแบบที่เห็น ตลอดเวลา นางสาว ก. ยังคงส่งข้อมูลอย่างต่อเนื่องทุกวัน วันละหลาย ๆ ครั้ง แทบจะทั้งวันทั้งคืน มีการบอกว่า คุณเคแค้นพวกเรามาก ถึงขนาดส่งคนมาเก็บ หลังจากนั้นชีวิตของ บีกับนก ก็เจอเรื่องแปลก ๆ รถถูกติดจีพีเอส ติดถึง 2 ครั้ง มีผู้ชายขับรถวนเวียนรอบบ้าน นก หลายชั่วโมง มีคนมาด้อม ๆ มอง ๆ ถ่ายภาพบ้านแม่บี ซึ่ง นางสาว ก. บอกว่า ทั้งหมด คือ ฝีมือคู่กรณี จะจัดการบีกับนกให้ได้ อาจดูเหมือนละครนะคะ ใครอ่านถึงตอนนี้อาจจะขำ แต่บีกับนกและครอบครัวขำไม่ออกค่ะ เราสองคนต้องหลบไปนอกพื้นที่ ไปอยู่ที่ไหนได้ไม่นานก็จะมีคนแปลกหน้าขับรถบุกเข้าไปที่เราอยู่แบบแปลก ๆ เราต้องย้ายจังหวัดหลบอยู่ตลอดเวลา”

“เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ มีพยานบุคคลรู้เห็นหมดนะคะ บีไม่ได้เอ่ยอ้างลอย ๆ ตลอดเวลานางสาว ก. ติดต่อให้ข้อมูลพวกเราตลอด นางบอกว่าคู่กรณีจะทำอะไรเรา สิ่งเหล่านั้นมันก็เกิดขึ้นจริงทุกอย่าง”

“นางสาว ก. อาศัยจังหวะที่ บี สับสนกับเรื่องทั้งหมดที่เจอ หลอกลวงเงินบีไปอย่างอำมหิตหลายครั้ง รวมแล้วหลักสิบล้าน ทุกครั้งเขาจะหยิบยกเรื่องความปลอดภัยของดาราสาว ความตายของคนที่บีรัก บีห่วง เช่นแม่และน้องชาย รวมถึงตัวนกและครอบครัวนกก็โดนด้วย หยิบมาอ้างเป็นเครื่องมืออย่างเลือดเย็น เมื่อไม่นานมานี้บีทนเรื่องพวกนี้ไม่ไหว ตัดสินใจเล่าทุกอย่างตั้งแต่ต้นให้ทนายความและนายตำรวจชั้นใหญ่กลุ่มหนึ่งฟังอย่างละเอียด

พร้อมแสดงหลักฐานทุกอย่างที่ไปกู้มาจากมือถือที่โดนแฮก คลิปเสียงที่ นางสาว ก. โทรมาเล่ามาให้ข้อมูลตั้งแต่ต้น ตำรวจก็สืบเชิงลึกให้ จนพบว่าทั้งหมดมาจาก นางสาว ก. คนเดียวตั้งแต่ต้นเรื่อง มีการนำบัญชีบุคคลอื่นมาใช้ มีการปลอมแปลงบัญชีโซเชียลมากมาย ทั้งเฟซบุกและไอจีรวมถึงไลน์ก็น่าจะถึงร้อยบัญชี ได้เอาหลักฐานทั้งหมดแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.ปักธงชัย แล้ว ตอนแรกตำรวจเตรียมขอศาลออกหมายจับ แต่เขาไหวตัวทันชิงเข้ามอบตัวก่อน และเซ็นรับสภาพหนี้ พร้อมกำหนดวันผ่อนชำระหนี้ที่โกงไปต่อหน้า พนักงานสอบสวน แล้วเขาก็เบี้ยวหนี้ ไม่ยอมชำระแถมยังติดต่อหามือปืนมาเก็บ บี อีก เอาเป็นว่ารายละเอียดและหลักฐานทั้งหมดตอนนี้อยู่ในมือตำรวจแล้ว สอบพยานบุคคลเพิ่มไปแล้วหลายปาก บางเรื่องจึงมาเล่าตรงนี้ไม่ได้ในตอนนี้ เร็ว ๆ นี้บีกับนกก็จะเข้าแจ้งความนางสาว ก. เพิ่มในข้อหาอื่น ๆ ตามหลักฐานความผิดอีกหลายข้อหา”

“ขอยืนยันเจตนาในการมาพูดวันนี้อีกครั้งนะคะ ความผิดพลาดที่บีทำให้ คุณเค ได้รับความเสียหายและรำคาญใจ อันนี้ผิดจริง ยอมรับและน้อมรับผลของการกระทำจากใจจริงค่ะ บีกับนก ไม่มีเจตนาทำร้ายใคร บีไม่ได้สร้างเรื่องตาลอะไรนี่ขึ้นมา นางสาว ก. เป็นคนสร้างเรื่องขึ้นมาทั้งหมด เป็นขั้นเป็นตอน สร้างสตอรี่ หาข้อมูลวงใน จัดฉากสร้างสถานการณ์ ทำหลักฐานปลอม หลอกลวง ฉ้อโกง บีกับนกไม่ปล่อยไว้แน่ค่ะ กฎหมายกำลังจัดการอยู่ ปล่อยคนแบบนี้ไว้ก็ไปทำกับคนอื่นอีก

สุดท้ายนี้ กราบขอโทษเคและครอบครัว ขอโทษดาราสาวและครอบครัว รวมถึงเพื่อนใกล้ชิด คนรอบข้างที่อาจได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ทุกคน ขอโทษนะคะ ผิดส่วนผิดค่ะ ที่พลั้งเผลอทำผิดไปน้อมรับทุกอย่าง ส่วนอะไรที่บีกับนกไม่ได้ทำไม่ได้เป็น ก็ขอใช้โอกาสนี้ชี้แจงตามที่ได้พูดไปค่ะ

ถ้าถามว่าทำไมตั้งนานไม่ออกมาพูด ตอบเลยว่า เพิ่งถอดเขาควายออกจากหัวได้ค่ะ เพิ่งจับโป๊ะ นางสาว ก. ได้ไม่นานมานี้ แล้วใช้เวลาให้ เจ้าหน้าที่สืบเช็กเชิงลึกอีกระยะหนึ่ง ตอนที่เป็นข่าวไม่อยากออกมาพูดไปมา ฝั่งนั้นพูดทีฝั่งนี้พูดที บีมองว่าเราคนกันเองทั้งนั้น ถ้าเรายอมเงียบฝ่ายหนึ่งน่าจะดีกว่า แต่มันไม่ใช่ สังคมพิพากษาให้เราเป็นจำเลยสังคมทั้งประเทศ วันนี้ถึงเวลาที่ต้องพูดความจริงบ้างแล้ว จากนี้ก็จะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ เดินหน้าต่อทั้งในส่วนคดีที่ถูกฟ้องและคดีที่เป็นโจทย์ฟ้องเขา”