Entertainment

ปราปต์ปฎล ช้ำ ถูกพิพากษาไปแล้ว สูญรายได้ เงินเก็บไม่เหลือ เตรียมหันหลังให้วงการ

ปราปต์ปฎล โอดผลกระทบจากคดีฟอกเงิน Forex-3D เหมือนถูกสังคมพิพากษาไปแล้ว สูญรายได้ เงินเก็บไม่เหลือ เตรียมหันหลังให้วงการบันเทิง

กรณีที่ ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง นักแสดงรุ่นใหญ่ ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน เกี่ยวพันธ์คดี Forex-3D ล่าสุด เจ้าตัวเปิดใจว่าข่าวที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบเต็ม ๆ ละครใหม่และภาพยนตร์ที่ติดต่อไว้ก็ยกเลิก เหมือนกับว่าตนถูกพิพากษาไปแล้วในโลกโซเชียล ส่งผลกระทบถึงชีวิตส่วนตัว เพราะตนมีภาระ มีรายจ่ายที่ต้องดูแลรับผิดชอบอยู่ ตอนนี้เงินเก็บก็หมด ทำได้เพียงประคับประคองชีวิตให้รอดไปวัน ๆ เตรียมหันหลังให้วงการบันเทิง

13ปราปต์ปฎลเปิดใจ 1

“ปกติชีวิตผมถ่ายละครประมาณ 5-6 เรื่องต่อสัปดาห์ ละครใหม่ ๆ และภาพยนตร์ที่เข้ามาที่ติดต่อไว้ก็ยกเลิก ผลกระทบจากข่าวที่นำเสนอไป 2 เดือนช่วงนั้นแหละครับ (ยิ้ม) เหมือนกับว่าผมถูกพิพากษาไปแล้วในโลกของโซเชียล ตัวอย่างของผมมันชัดเจนว่าเมื่อเราไม่ผิดเราก็พยายามต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรมให้กับตัวเอง”

“ถ้านับการสูญเสียรายได้ช่วงเวลาที่ผ่านมาที่ผมโดนผลกระทบเวลา 6 เดือนได้ ซึ่งนั่นก็คือล็อตหนึ่งของละคร ก็หลายล้านอยู่ครับ (ยิ้ม) ภาระประจำเดือนของผมจะมีการผ่อนทุกอย่าง ไม่ได้มีธุรกิจอื่น เพราะฉะนั้นรายจ่ายประจำเดือนของผมมีรถ คอนโดฯ ตัวเอง บ้านที่ลูก ๆ ผมอยู่ พ่อที่อยู่นครสวรรค์ แล้วก็ครอบครัวคุณแม่น้องกี๋ (แฟนสาว) ที่จันทบุรีที่ผมต้องดูแลรับผิดชอบอยู่ ตอนนี้คุณพ่อผมก็ดูแลไม่ได้แล้วต้องปล่อยให้ตามมีตามเกิด คุณแม่กี๋ก็ต้องปล่อย บ้านของลูก ๆ ผมก็ไม่ได้ส่งให้ 3-4 เดือนแล้ว ตอนนี้ก็ประคับประคองชีวิตตัวเองให้รอดไปวัน ๆ ก่อนครับ”

“เงินเก็บไม่เหลือแล้วครับ ละครที่ทยอยปิดไปเขาจ่ายมา คือลักษณะการทำงานของละครมันจะเป็นแบ่งจ่าย 5% 10% เป็นงวด ๆ ซึ่งนั่นคือค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน ละครเก่าปิดไปเรื่อย ๆ มันเหมือนหมุนไปเรื่อย ๆ ตอนนี้ไม่มีงานใหม่เข้ามาทดแทนเพราะถูกแคนเซิลไป จะนัดวันถ่ายแล้วอะไรแล้วก็ถูกยกเลิกไป โดยเฉพาะที่ผมเสียใจมาก ๆ คือภาพยนตร์ ผมรักภาพยนตร์มาก ผมมีการติดต่อจากค่ายใหญ่ หนังน่าเล่นมากก็ตกลงเรื่องคิวถ่าย เริ่มทุกอย่างเรียบร้อยไปแล้ว เหตุผลหลัก ๆ เขาเห็นข่าวนี้เขากลัวว่าถ่าย ๆ อยู่จะมีเรื่อง”

13ปราปต์ปฎลเปิดใจ 2

“คนไม่รู้ความจริงคืออะไร ทีนี้การนำเสนอบ้านเราเป็นระบบการกล่าวหา คือกล่าวหาไปก่อนถ้าไม่ผิดก็ไปแก้ตัวเอาเอง แต่ผมเข้าใจว่าสื่อได้รับข้อมูลมาจากหน่วยงานราชการก็เลยมั่นใจว่านั้นคือข้อมูลจริงเลยนำเสนอไป มันคือการพิพากษาผมว่าผมโดนแบบนี้ พอถูกจ้างงานก็บอกให้ไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อน วันนี้เลยไปทวงถามว่าเมื่อไหร่จะจบ ชีวิตผมพังมาครึ่งปีแล้ว ถ้าเกิดแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เราจะทำยังไงต่อ”

“ผมไม่เคยคาดเดาว่าชีวิตผมจะเป็นแบบนี้ จากคนที่มีงานตลอดมันยังเกิดวิกฤติแบบนี้กับผมเลย (วางแผนอะไรไว้ต่อไหมถ้างานยังไม่มี?) ไปแล้วครับ ผมก็คิดว่าวงการมันคงไม่เหมาะกับผม (ทำไมถึงมีความคิดนี้?) ผมมาจากลูกชาวไร่ชาวนาเด็กบ้านนอกคนหนึ่ง ก็ไม่เป็นไรที่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม ข่าวที่นำเสนอออกไปพิพากษาผมแบบนี้แล้ว ผมรู้สึกว่ามันโหดร้ายจัง 30 กว่าปีแสดงว่าความดีงามที่เราทำมาตลอดมันปกป้องเราไม่ได้ เราก็ต้องไปอยู่ในมุมที่…ไม่ต้องไปอยู่ในสังคมกว้าง ๆ ก็ได้ ไปอยู่ที่แคบ ๆ ก็ได้”

“ไม่แน่ใจว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการพิสูจน์ตนเอง คนที่กำหนดว่านานไม่นานได้ คือคนที่มีอำนาจในมือครับ เพราะเขาเป็นคนกล่าวหาผม และก็มีคนส่งข้อความให้ผมทั้ง ๆ ที่วันนี้ผมเพิ่งคุยไปนะครับ จริง ๆ มันมีการชี้แจงมาอย่างชัดเจนตลอดเวลาอยู่แล้ว”

“ผมเบื่อจะพูดเรื่องนี้แล้ว คนอย่างผมคือถ้าไม่สาหัสจริง ๆ ผมไม่ค่อยพูด ผมเป็นคนนิ่ง ๆ ผมรู้ว่าผมเหมาะกับอะไรมากกว่า ผมเหมาะกับการอยู่นิ่ง ๆ และทำงานไป ผมเหมาะกับการที่จะแอบทำงานที่ผมทำมาตลอด 30 กว่าปี ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าผมทำอะไร ผมไม่เหมาะกับการที่จะต้องมาเป็นกระแส มาเป็นข่าว ผมไม่ถนัดครับ”

13ปราปต์ปฎลเปิดใจ 3
13ปราปต์ปฎลเปิดใจ 5

คลิปจาก วันบันเทิง oneบันเทิง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo