11 เมษายน “วันโรคพาร์กินสันโลก” กรมการแพทย์ ชวนทำความรู้จักโรคทางสมอง เกิดจากอะไร พบแพทย์เร็ว ชะลอความรุนแรง
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคพาร์กินสัน หรือโรคสั่นสันนิบาต เป็นโรคทางสมองที่เกิดจากเซลล์สมองในบางตำแหน่งมีการตายโดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด จึงทำให้สารสื่อประสาทในสมองที่มีชื่อว่า “โดพามีน” (Dopamine) ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายมีการตายและลดจำนวนลง
ทั้งนี้ จะทำให้ร่างกายของผู้ป่วยเกิดอาการสั่น แขนขาเกร็ง เคลื่อนไหวร่างกายช้า และสูญเสียการทรงตัว ซึ่งอาการเหล่านี้จะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป และทวีความรุนแรงขึ้นอย่างช้า ๆ
ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคนี้ให้หายขาดได้ หากได้รับการวินิจฉัยโรคและรับการดูแลตั้งแต่เนิ่น ๆ จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยชะลออาการของโรคและทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
โรคพาร์กินสัน เป็นโรคที่พบได้บ่อยในผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป และจะพบได้มากขึ้นเรื่อย ๆ โรคนี้พบได้ในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงประมาณ 1.5 เท่า สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากความเสื่อมของกลุ่มเซลล์ประสาทในสมองไม่สามารถสร้างสารโดพามีน
สาเหตุที่ทำให้เซลล์สมองมีการตายหรือมีจำนวนลดลง สันนิษฐานว่าเกี่ยวข้องกับพันธุกรรม และสิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่มีผลร่วมกัน หากมีอาการบ่งชี้ของโรคพาร์กินสันควรไปพบแพทย์ เพราะหากรู้เร็วจะรักษาได้ไว และการรักษาจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการ สถาบันประสาทวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า อาการแสดงของโรคจะแสดงออกมากน้อยแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละราย ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุ ระยะเวลาของการเป็นโรคภาวะแทรกซ้อน
อาการสำคัญของโรคพาร์กินสัน คือ อาการแต่ละอาการจะค่อยๆ ปรากฏแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างฉับพลันทันที แต่อาการจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยจะมีอาการเกี่ยวกับระบบประสาทสั่งการ ซึ่งเป็นอาการหลักของโรค
อาการส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะเกิดอาการสั่นที่นิ้วมือก่อน แล้วตามด้วยข้อมือและแขน ในระยะแรกอาการสั่นจะเกิดขึ้นเพียงข้างเดียวก่อน แล้วต่อมาขาและเท้าอีกข้างจะเริ่มมีอาการสั่นตามมา และในที่สุดจะเกิดอาการสั่นทั่วร่างกาย
การรักษาโรคพาร์กินสัน
1. การรักษาด้วยยา จะเป็นการรักษาหลักในระยะเริ่มต้น และระยะกลางของโรค จะช่วยบรรเทาอาการให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
2. การรักษาด้วยกายภาพบำบัด เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยเคลื่อนไหวได้ถูกต้อง แก้ไขภาวะแทรกซ้อน
3. การรักษาด้วยการผ่าตัด โดยจะได้ผลดีกับผู้ป่วยที่อายุน้อยและมีอาการไม่มาก ผู้ป่วยที่มีอาการแทรกซ้อนจากยาที่ใช้มาเป็นระยะเวลานาน
สถาบันประสาทวิทยา ได้เล็งเห็นความสำคัญของโรคพาร์กินสัน จึงได้จัดกิจกรรมให้ความรู้ประชาชนเนื่องใน วันโรคพาร์กินสันโลก 11 เมษายน ในหัวข้อ ติด ๆ เกร็ง ๆ สั่น ๆ ใช่พาร์กินสันหรือเปล่า?” โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ผ่านรายการ NIT Talk EP.80 ทาง Facebook Live สถาบันประสาทวิทยา
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- แชร์ว่อน!! สระผมก่อนอาบน้ำ เสี่ยงเส้นเลือดสมองแตก ฟังความจริงจากหมอ ที่นี่!!
- วิจัยพบดื่ม ‘กาแฟ-ชา’ อาจลดเสี่ยง ‘สโตรก-สมองเสื่อม’
- ภัยเงียบถึงชีวิต ปวดศีรษะ ‘รุนแรงเฉียบพลัน’ เสี่ยงเส้นเลือดสมองโป่งพอง พบแพทย์ด่วนที่สุด