คำว่า “ตองปุ” เป็นภาษามอญ แปลว่า ที่ชุมนุมพลก่อนออกรบ วัดจะตั้งอยู่หลังโรงเรียนพิบูลวิทยาลัย ตำบลทะเลชุบศร จังหวัดลพบุรี 200 เมตรจะอยู่ไม่ไกลจากพระปรางค์สามยอดและศาลพระกาฬ วิ่งตรงมาตามทางรถไฟก็จะเจอวัดตองปุเลย
วัดตองปุ จึงเป็นวัดโบราณที่มีความสำคัญในฐานะเป็นศาสนสถานสมัยอยุธยา ที่คงสภาพค่อนข้างสมบูรณ์และยังเป็นวัดที่มีพระภิกษุจำวัดและปฏิบัติศาสนกิจอยู่จนถึงปัจจุบันพระอุโบสถหันหน้าไปทางทิศตะวันออก เดิมมีกำแพงแก้วเตี้ย เจาะซุ้มเล็กๆสำหรับวางตะเกียงไว้รอบฐานอาคารเป็นฐานปัทม์ หย่อนท้องช้าง ด้านหน้าอาคาร มีประตูทางเข้า 2 ช่อง กับช่องหน้าต่าง 1 ช่อง ช่องหน้าต่างทางด้านหน้าและด้านข้าง เจาะเป็นช่องสี่เหลี่ยม ซุ้มหน้าต่างมีลักษณะเหมือนกับซุ้มบัญชรของพระที่นั่งในวังพระนารายณ์ฯ ประดิษฐานพระพุทธรูปหินทรายนาคปรกปางสมาธิ ศิลปะสมัยลพบุรี อายุราวต้นพุทธศตวรรษที่ 19
ด้านหลังโบสถ์มีกลุ่มเจดีย์สร้างสมัยกรุงศรีอยุธยา รูปแบบมีทั้งเจดีย์ทรงปรางค์ เจดีย์เพิ่มมุมแบบระฆังกลม และเจดีย์เพิ่มมุมแบบระฆังเหลี่ยม นอกกำแพงแก้วมีเจดีย์ทรงสูงชลูด มีเรือนธาตุซ้อนกัน 2 ชั้น แต่ละด้านของเรือนธาตุมีซุ้มทิศวัดตองปุเป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช สังเกตจากศิลปกรรมที่พบส่วนหนึ่งมีรูปแบบเป็นของกลุ่มชาวมอญ ซึ่งได้แก่ หลักไม้จำหลักเก็บพระคัมภีร์ในพระอุโบสถ์ และลายรดน้ำบานประตูพระวิหาร ภาพนี้ที่คุณต้องมาชมความงามให้ได้นะครับ
เมื่อครั้งสมเด็จพระนารายณ์ฯ ทรงสร้างเมืองลพบุรี ทรงสร้างวัดตองปุขึ้น และนิมนต์พระภิกษุมอญจากวัดตองปุ ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้ทรงสร้างไว้ที่กรุงศรีอยุธยามาจำพรรษาที่วัดนี้ด้วยพระวิหาร สร้างขนานกับโบสถ์ อาคารไม่มีช่องหน้าต่าง หลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผาเช่นเดียวกับหลังคาพระอุโบสถ์ ประตูทางเข้าเจาะเป็นช่องโค้งมนที่ผนังด้านหน้าและด้านหลัง ด้านละ 1 ช่อง บันไดทางขึ้นโบสถ์เป็นรูปวงโค้ง เชื่อมกับยกพื้นที่มีแท่นอาสนะสำหรับพระภิกษุนั่งสวดในงานบุญบางโอกาส ซุ้มประตูหน้า-หลัง สร้างเพิ่มเมื่อคราวบูรณะเมื่อพ.ศ. 2491 ภายในวิหารมีพระพุทธรูปหินทรายปางสมาธินาคปรกศิลปะลพบุรี อายุราวต้นพุทธศตวรรษที่ 19 หลายองค์ หอไตรและหอระฆัง หอไตร หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ตั้งอยู่บนลานประทักษิณ มีบันไดทางขึ้นสู่ลานประทักษิณขนาดเล็ก อาคารมีทางเข้าด้านหน้า 1 ประตู เหนือกรอบประตูมีซุ้มปูนปั้น ด้านข้างเจาะช่องหน้าต่างสี่เหลี่ยมข้างละ 2 ช่อง หน้าบันมีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ปั้นด้วยปูนทั้งหมด ที่น่าสนใจคือ หางหงส์ทำเป็นเศียรนาค 5 เศียร ที่เรียกว่า นาคเบือน ภายในหอไตร มีพระพุทธรูปนาคปรก หอระฆังตั้งอยู่ถัดจากหอไตร
ส่วนบนเป็นทรงปราสาทห้ายอด ศาลาพระศรีอาริยเมตไตรย เดิมเป็นที่ประดิษฐานพระศรีอาริยเมตไตรย์ แต่ปัจจุบันประดิษฐานพระปางนาคปรกปูนปั้น ศาลาการเปรียญหลังเก่า หันหน้าไปทางทิศตะวันตก สถาปัตยกรรมเป็นแบบสมัยสมเด็จพระนารายณ์ฯ นั่นคือ ฐานแอ่นโค้ง เจาะช่องหน้าต่างโค้งแหลม เดิมหลังคามุงด้วยกระเบื้อง บัวหัวเสาเป็นบัวกลีบยาว ประตูและหน้าต่างทางด้านหน้า ศาลาการเปรียญหลังเก่าปัจจุบันกรมศิลปากรกำลังบูรณปฏิสังขรณ์
ถ้ามาลพบุรีแล้ว ไม่ได้ไปชมทุ่งทานตะวัน ก็เท่ากับมาไม่ถึงลพบุรี ช่วงนี้จังหวัดลพบุรี จะมีสีเหลืองของทานตะวันเต็มไปหมด วันนี้เลยพามาเที่ยวชม ทุ่งทานตะวัน ที่กำลังเบ่งบานที่ ไร่วิชาญ บ้านหนองหอย ที่จังหวัด ลพบุรี วันนี้ ที่ไร่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มากันแบบไม่ขาดสายเหมื่อนกับอัดอั้นที่ไม่ได้ออกนอกบ้านมานานเพราะเจ้าโควิค 19 ที่ไร่วิชาญ ตั้งอยู่ติดริมถนนบริเวณ ตำบล โคกตูม อำเภอ เมืองลพบุรี จังหวัด ซึ่งอยู่ห่างจาก ทุ่งทานตะวัน เขาจีนแลตอนนี้ยังรอวันบานคาดว่าต้นเดือนธันวาคมจะบานรอรับนักท่องเที่ยวอีกหลายไร่ ไร่วิชาญอยู่ห่างจากตัวเมือง ลพบุรี ประมาณ 20 กิโลเมตร ทุ่งทานตะวัน ไร่วิชาญ บ้านหนองหอย มีเนื้อที่ประมาณ 18 ไร่ มีความยาวกว่า 400 เมตร แบ่งพื้นที่ปลูก ต้นทานตะวัน ออกเป็นสองฝั่งแล้วมีทางเดินยาวอยู่ตรงกลาง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ศุกร์ (สุข) ละวัด ที่วัดอัปสรสวรรค์ วัดเก่าแก่ปากคลองภาษีเจริญ
- ศุกร์ (สุข) ละวัด วัดนาคกลาง ไหว้หลวงพ่อโคนสมอมหาลาภ
- ศุกร์ (สุข) ละวัด ที่วัดสาขลา – ลอดโบสถ์ปากราหู ไหว้พระสองพี่น้อง