Lifestyle

คิง เพาเวอร์ คิกออฟ เปิดเวที ‘TIWSC’ ปี 2

คิง เพาเวอร์ จับมือคณะดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดการแข่งขันวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติแห่งประเทศไทย ประจำปี 2562 เปิดเวทีให้เยาวชนไทยแสดงความสามารถด้านดนตรี พร้อมยกระดับทักษะ และศักยภาพด้านดนตรีของคนไทยสู่ระดับสากล

king6

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ภายใต้โครงการ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ร่วมกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเวทีประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติ ประจำปี 2562 “Thailand International Wind Symphony Competition 2019 “ หรือ TIWSC ปีที่ 2  โดยมีนายอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์  ศ.นพ.บรรจง มไหสวริยะ รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล  ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล  อาจารย์ ศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบันวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล รวมถึงคณะกรรมการจัดการประกวด และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วม ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ รางน้ำ

king1

นายอภิเชษฐ์ กล่าวว่า ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมากลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เดินหน้าโครงการต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนสร้างการเปลี่ยนแปลงต่อสังคมไทยอย่างจริงจัง ภายใต้กิจกรรม  “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย”  ( KING POWER THAI POWER)  แบ่งเป็นทั้งหมด 4 ด้าน ได้แก่  SPORT POWER  MUSIC POWER COMMUNITY POWER และ EDUCATION & HEALTH POWER   แต่ละกิจกรรมมุ่งเน้นส่งเสริมศักยภาพคนไทย และทำให้สังคมไทยดียิ่งขึ้น

ในด้านกีฬาปีนี้ กลุ่มคิง เพาเวอร์ ได้มอบสนามฟุตบอลให้กับโรงเรียน และชุมชนต่างๆไปแล้ว 20 แห่งและจะทำให้ครบ 100 แห่งในปีต่อๆ ไป รวมถึงการมอบลูกฟุตบอล 1 ล้านลูกให้กับเยาวชนและโรงเรียนต่างๆ

สำหรับด้านของดนตรี เป็นโครงการที่คิง เพาเวอร์เข้ามาสนับสนุน เพราะมีความเชื่อว่า ดนตรีจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ นอกจากทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์แล้ว ยังกระตุ้นให้เกิดการทำกิจกรรมที่ดีร่วมกันของเยาวชน

กิจกรรมในปีนี้จะเป็นการต่อยอดโครงการด้านดนตรี ผ่านการประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติ ประจำปี 2562 หรือ “Thailand International Wind Symphony Competition 2019 “ เป็นปีที่ 2 โดยร่วมมือกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อเป็นเวทีให้เยาวชนไทย ตลอดจนคนไทยได้แสดงความสามารถด้านดนตรีอย่างแท้จริง บนเวทีระดับนานาชาติ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทักษะด้านดนตรี ให้เยาวชนตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาคุณภาพและการฝึกฝนทักษะการเล่นดนตรีแบบรวมวงผ่านเวทีประกวด เพื่อเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ

“ที่ผ่านมา มีคนไทยทั้งเยาวชนที่เป็นเด็กเล็ก นักเรียนนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยที่มีความสามารถไปแข่งขันในต่างประเทศและคว้ารางวัลกลับมาได้ในหลายรายการ สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อม และความสามารถด้านดนตรีของคนไทย ซึ่งตรงกับแนวคิดของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ที่ให้ความสำคัญในการสืบสานศิลปะทางดนตรีมาอย่างยาวนาน จึงมุ่งสนับสนุนให้คนไทย และเยาวชนไทยได้มีเวทีระดับโลกในการโชว์ศักยภาพ จึงเป็นที่มาในการจัดการแข่งขันในครั้งนี้”

king2

นายอภิเชษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการประกวด  “Thailand International Wind Symphony Competition 2019”  นอกจากมีถ้วยรางวัลมอบให้แล้ว คิง เพาเวอร์ ยังมอบเงินรางวัลสำหรับผู้ชนะการประกวดทั้ง 8 Class รวม 4.43 ล้านบาท  โดยเชื่อว่าเวทีนี้จะเป็นอีกเวทีแสดงความสามารถรวมถึงจุดประกายให้เด็กเยาวชนไทยพัฒนาศักยภาพทางดนตรีไปสู่ระดับโลก ขอเพียงมีการฝึกซ้อมและฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้บริษัทจะขยายไปจัดประกวดดนตรีไทยด้วย เพื่อสร้างเวทีแสดงศักยภาพด้านดนตรีไทย นับเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมและสนับสนุนศิลปวัฒนธรรมไทยให้โดดเด่นในเวทีโลก

ทางด้าน ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ กล่าวว่า รอคอยที่จะให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดประกวดวงดุริยางค์นานาชาติมานาน จนได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และเกิดโครงการประกวด “Thailand International Wind Symphony Competition” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2

หลังจากปีแรกประสบความสำเร็จอย่างสูง ด้วยมาตรฐานการตัดสินที่มีคณะกรรมการที่มีชื่อเสียงหลากหลายประเทศทั่วโลกมาเป็นกรรมการ จึงเป็นเวทีประกวดที่ไม่มีการร้องเรียนการตัดสิน ได้รับการยอมรับจากนานาชาติรวมถึงประชาชนทั่วไป และการประกวดครั้งนี้ ยังมีการแข่งขันรุ่นไม่จำกัดอายุด้วย เพื่อเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปได้เข้าร่วมการแข่งขันด้วย

“นับเป็นการยกระดับให้วงดุริยางค์เครื่องเป่าไทยได้เข้าร่วมประกวดในระดับนานาชาติ กระตุ้นบรรยากาศทางด้านศิลปวัฒนธรรมดนตรี ส่งเสริมให้เยาวชนไทยและบุคคลทั่วไปได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ รวมทั้งขยายโอกาสในการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทยทางด้านดนตรีในเวทีระดับนานาชาติที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย”

king5

ดร.ณรงค์ กล่าวต่อว่า ด้วยมาตรฐานของการจัดประกวดแข่งขัน และการที่โครงการดูแลเด็กเยาวชนไทยที่ไม่ชนะการประกวดด้วย เพื่อให้มีโอกาสพัฒนาศักยภาพเป็นผู้ชนะในปีถัดไป ทำให้ปีนี้มีโรงเรียนต่างๆให้ความสนใจเข้าร่วมประกวดจำนวนมากกว่าปีแรก ร่วมถึงประเทศต่างๆ อาทิ ฮ่องกง สเปน และสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากเป็นเวทีเดียวในแถบอาเซียนที่เปิดรุ่นสำหรับประชาชนทั่วไป ในการแข่งขันแบบเครื่องลม

สิ่งสำคัญที่สุดของการจัดการประกวดในครั้งนี้ เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและเพื่อเฉลิมพระเกียรติของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ในฐานะที่พระองค์ทรงเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยและชาวโลก ซึ่งแต่ละวงจะต้องบรรเลงเพลงบังคับที่ทางผู้จัดการประกวดได้ระบุไว้ เพื่อเป็นมาตราฐานในเรื่องของเทคนิคการบรรเลง และได้แสดงถึงศักยภาพ คุณภาพ ของวงได้ชัดเจนยิ่งขึ้น รวมทั้งต้องบรรเลง เพลงประจำชาติ และเพลงเลือกอื่นๆ อีกด้วย

ทั้งนี้ หวังว่าการประกวดครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นให้ไทยพัฒนาเป็นศูนย์กลางการประกวดดนตรีระดับนานาชาติในอนาคต ซึ่งไม่เพียงสร้างศักยภาพทางดนตรีให้คนไทยอย่างเดียว แต่ยังพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างดี จากการดึงวงดนตรีจากต่างประเทศมาประกวด ทั้งโรงแรม และการท่องเที่ยวต่างๆ

king3

ขณะที่เสียงของเยาวชนไทยอย่าง นายภาณุวัตร พงษ์สะพัง หรือน็อต นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนราชวินิต บางแก้ว หนึ่งในนักดนตรีทรัมเป็ต ของ Ratwinit Bangkaeo Wind Symphony ที่คว้ารางวัลชนะเลิศ ประเภท Class B เมื่อปีที่แล้ว เล่าว่า มีความภาคภูมิใจ และขอบคุณที่มีเวทีนี้เกิดขึ้น นับเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กเยาวชนได้แสดงความสามารถ โดยไม่ต้องออกไปประกวดต่างประเทศที่มีค่าใช้จ่ายสูง

นอกจากนี้ ยังกระตุ้นให้เด็กมีความสนใจด้านดนตรี ซึ่งต้องผ่านการฝึกฝน ทำให้มีวินัย และแบ่งเวลาเป็น นับเป็นพื้นฐานในการเรียนที่ดี นำไปสู่หน้าที่การงานที่ดีในอนาคต ซึ่งแม้ตนเองจะจบการศึกษาไปแล้ว แต่ก็จะมีการส่งต่อความรู้ด้านดนตรีให้กับรุ่นน้องๆต่อไป เพื่อให้โรงเรียนครองแชมป์ในปีถัดไป และคว้ารางวัลในประเภทอื่นๆเพิ่มเติมด้วย

สำหรับการประกวด “Thailand International Wind Symphony Competition 2019” สมัครประกวดได้ที่ www.music.mahidol.ac.th/tiwsc กำหนดปิดรับสมัคร วันที่ 29 มกราคม 2562 เวลา 17.00 น.

รอบคัดเลือก จะมีการคัดเลือกจากผลงานที่ส่งเข้ามาแข่งขัน วันที่ 12 – 13 กุมภาพันธ์ 2562 และประกาศผลผู้ที่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562 ทางเว็บไซต์ www.music.mahidol.ac.th/tiwsc และ Facebook : King Power Thai Power พลังคนไทย

king7

กำหนดจำนวนวงที่ผ่านเข้ารอบคัดเลือก

  • รุ่น Class A จำนวน 10 วง
  • รุ่น Class B จำนวน 10 วง
  • รุ่น Class C จำนวน 16 วง
  • รุ่น Class D จำนวน 16 วง

รอบรองชนะเลิศ วันที่ 1 – 4 เมษายน 2562 จำแนกการแข่งขันดังนี้

  • วันที่ 4 เมษายน 2562 รุ่น Class A จำนวน 10 วง ตามลำดับผลการจับฉลาก เวลา 09.00 – 17.00 น. ณ มหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล
  • วันที่ 3 เมษายน 2562 รุ่น Class B จำนวน 10 วง ตามลำดับผลการจับฉลาก เวลา 09.00 – 17.00 น. ณ มหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล
  • วันที่ 2 เมษายน 2562 รุ่น Class C จำนวน 16 วง ตามลำดับผลการจับฉลาก เวลา 09.00 – 17.00 น. ณ หอแสดงดนตรีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล
  • วันที่ 1 เมษายน 2562 รุ่น Class D จำนวน 16 วง ตามลำดับผลการจับฉลาก เวลา 09.00 – 17.00 น. ณ หอแสดงดนตรีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล

รอบชิงชนะเลิศ วันที่ 6 เมษายน 2562 ณ มหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล จำแนกการแข่งขันดังนี้

  • รุ่น Class D 5 วง 08.30 – 10.00 น.
  • รุ่น Class C 5 วง 10.30 – 12.00 น.
  • รุ่น Class B 5 วง 13.00 – 16.30 น.
  • รุ่น Class A 5 วง 16.30 – 20.00 น.

รางวัลของการแข่งขัน

  • ถ้วยรางวัล และเงินรางวัลรวมมูลค่า 4,330,000 บาท

Avatar photo