“จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ คว้าถ้วย “เอฟเอคัพ” ครั้งแรกในรอบ 137 ปี หลังเอาชนะ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ไป 1-0 คว้าแชมป์มาครองเป็นสมัยแรก
การแข่งขันฟุตบอลเอฟเอคัพ ฤดูกาล 2020-21 รอบชิงชนะเลิศ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา (15 พ.ค.) “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี พบกับ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ที่สนามเวมบลีย์ สเตเดียม
เปิดฉากครึ่งแรกรูปเกมของ เชลซี ดูดีกว่าพอสมควร นาทีที่ 15 ได้ลุ้นก่อนจากจังหวะยิงไกลของ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ แต่บอลหลุดกรอบออกไป จากนั้นนาทีที่ 20 เลสเตอร์ ได้ลุ้นบ้าง จากจังหวะที่ ยูริ ติเลอมองส์ เปิดฟรีคิกจากฝั่งขวาเข้าเขตโทษ คักลาร์ โซยุนคู ขึ้นโหม่งข้ามคานออกไป
ถัดมา 3 นาที โอกาสของเชลซี เมื่อ เมสัน เมาท์ พาบอลกระชากขึ้นมาซัดด้วยซ้ายจากนอกกรอบ บอลพุ่งแฉลบหลุดเสาออกไป
ถึงนาทีที่ 42 เลสเตอร์ ได้ลุ้นจากลูกโหม่งของ คักลาร์ โซยุนคู แต่ก็สะบัดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย และในนาทีที่ 44 เชลซี บุกมาน่ากลัว ติโม แวร์เนอร์ ตะบึงขึ้นมาซัดด้วยขวา บอลแฉลบออกหลังไป
จบครึ่งแรก เชลซี ยังเสมอ เลสเตอร์ ซิตี้ อยู่ 0-0
กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 53 เชลซี เกือบขึ้นนำ จากจังหวะที่ เอ็นโกโล ก็องเต เปิดบอลจากฝั่งขวาไปที่เสาสอง มาร์กอส อลอนโซ ขึ้นโหม่งเน้นๆ แต่บอลตรงตัว แคสเปอร์ ชไมเคิล
จากนั้นนาทีที่ 63 กลายเป็น เลสเตอร์ ที่ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ลุค โธมัส จ่ายบอลให้ ยูริ ติเลอมองส์ พาบอลมาหน้าเขตโทษก่อนซัดด้วยขวา บอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสุดสวย
ถึงนาทีที่ 78 เชลซี น่าตีเสมอสุดๆ เมื่อ เบน ชิลเวลล์ โหม่งไปชนเสาเต็มๆ ก่อนที่นาทีที่ 87 เมสัน เมาท์ จะตะบันด้วยซ้าย แต่ แคสเปอร์ ชไมเคิล ยังปัดออกไปได้อย่างสุดยอด
เข้าสู่ช่วงท้ายเกม นาทีที่ 89 เชลซี ชวดได้ประตู เมื่อ เบน ชิลเวลล์ ยิงเข้าไปแล้ว แต่วีเออาร์เช็กว่าล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม เลสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะ เชลซี ไป 1-0 ส่งผลให้ เลสเตอร์ คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ มาครองเป็นสมัยแรก หลังรอคอย มายาวนานถึง 137 ปี
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘อัยยวัฒน์’ ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงแฟนบอล ‘เลสเตอร์’ ขอบคุณที่สนับสนุนตลอดมา
- กุนซือเลสเตอร์เล่าประสบการณ์เฉียดตาย ติดโควิด-19
- ครอบครัวเลสเตอร์รำลึกครบรอบ 1 ปี ‘วิชัย ศรีวัฒนประภา’
