จากกรณี ประเด็นดราม่าที่หลายคนให้ความสนใจ เมื่อ “เบล บุษญา ตั้งภากรณ์” ลูกสาว “บรรยิน ตั้งภากรณ์” ได้ออกมาโพสต์ฟาดนางร้ายหน้าสวย “ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์” ถึงวีรกรรมต่าง ๆ ของดาราสาว แบบรัว ๆ ว่า ดิได้ด่าถึงพ่อของตัวเอง รวมถึงเหยียดเพศแฟนของเบล ทั้งที่ดิวก็เคยมีแฟนเป็นทอมมาก่อน ส่วนทางด้าน สาวดิว ตอนนี้ก็ได้เตรียมเดินหน้าฟ้องกลับเป็นที่เรียร้อยแล้ว แถมยังออกมาเปิดใจกับประเด็นดังกล่าวว่า ยอมรับว่าพูดถึงคู่กรณีจริง แต่ไม่ได้มีเจตนาพูดในทางที่ไม่ดีแต่อย่างใด
ยังไง ?
ยังไม่ได้ตบใครเลยค่ะ แต่แค่โดนคนมาต่อย
ใครมาต่อย ?
ไม่ใช่คู่กรณีที่เขาลงอินสตาแกรมนะคะ แต่คนที่มาต่อยคือเพื่อนสนิทเขา ไม่ใช่คนที่ชอบโพสต์มาทำร้ายเรานะ
เขาเข้ามาทำร้ายเราก่อน ?
ใช่ค่ะ ก่อนลงเรือแถวกาบเรือ เพื่อนเขาก็วิ่งมาสาวเราไป 1 ที วิ่งมาต่อยแล้วก็วิ่งกลับ
ดิวไม่ได้เป็นคนลงไม้ลงมือหรือเป็นคนเริ่มก่อน ?
ดิวไม่ได้ทำ เป็นช่วงเวลาที่ไวมาก หนูหงายหลังไปเลย น้องที่เป็นนักแสดงที่ออกมาให้สัมภาษณ์เป็นคนรับดิวไว้ทัน ไม่งั้นคงหงายหลังไปเลย
ถ้าล้มคงเสียฟอร์มแล้วนะ ?
แค่นี้ก็เสียฟอร์มแล้ว
กลายเป็นประเด็นที่เกิดขึ้นในโลกออนไลน์ เป็นเพื่อนกันมาก่อนไหม ?
ดิวก็ยอมรับรู้จักเขา แต่ไม่ได้สนิทกัน ไม่ได้เป็นเพื่อนในแก๊ง แต่ครอบครัวเรารู้จักคุณแม่เขา เป็นเด็กต่างจังหวัดเหมือนกัน คุณพ่อคุณแม่ ก็จะรู้จักกันกับคุณแม่เขา
ทำไมครั้งนี้เงียบมาก ?
คือสำหรับตอนที่ดิวไปลงเรือเสร็จแล้ว พอมีข่าวว่าคนบนเรือเป็นโควิด ข่าวนี้กับโควิด ดิวกลัวโควิดมากกว่า ให้ความสำคัญกับเรื่องโควิดมากกว่า ดิวต้องไปตรวจ ไปเช็ก ไปกักตัว พูดตรง ๆ หนูหลอนโควิดมาก จนไม่ได้โฟกัสกับสิ่งที่เขาโพสต์ ทำอะไรมาก ดิวไม่ได้สนใจ ไม่ได้รู้สึกว่าเราต้องเอาอินสตาแกรมมาสู้กับใคร
หลังจากนี้เป็นเรื่องของกฏหมาย ไปฟ้องเรื่องอะไร ถามคุณทนาย ?
มีเรื่องของการทำร้ายร่างกาย ของเพื่อนสาวเขา คุณดิวแจ้งความเรียบร้อยแล้ว และพาคุณดิวไปเล่าเหตุการณ์ว่าเกิดขึ้นยังไง พาพยานที่เป็นพยานสำคัญ ถ้าไม่มีพยานคนนี้เซฟไว้อาจเกิดอันตราย ส่วนที่แจ้งความ โทษก็ไม่ได้รุนแรงอะไร ให้ถูกฟ้องศาลไป กรณีที่ได้โพสต์พาดพิงก่อให้เกิดความเสียหาย นำเอาไปลงอินสตาแกรมหรืออะไรต่าง ๆ ก็ให้ไปร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี
นอกจากดำเนินคดีกับคู่กรณีแล้ว ก็ดำเนินคดีกับบุคคลอื่น ๆ ในทางเสียหาย ถ้าเราดูเจตนาแล้ว รวบรวมหลักฐานแล้วดำเนินคดีทุกกรณี ถ้าเราดูแล้วเป็นการวิพากย์ วิจารย์ไปตามปกติ ไม่ได้มีเจตนาให้ร้ายก็ไม่ได้ดำเนินคดี ตอนนี้กำลังระบุตัวตนอยู่ว่าชื่อที่ไปคอมเมนต์เป็นใคร ลงทะเบียนในนามชื่อไหน ถ้าเสียหายจะดำเนินคดี
ตอนนี้เขาถ้าหากฝั่งนั้นเขาขอโทษ แล้วอยากจะจบเรื่องนี้แล้วจะทำอย่างไร ?
จริง ๆ ต้องบอกไม่ได้รู้สึกโกรธ หรือว่าไม่ได้เป็นความรู้สึกเดียวกับที่เขาเป็น ตอนนี้ก็เห็นใจ เพราะดูโพสต์เยอะ ก็น่าจะเครียด ก็เห็นใจและเข้าใจ ว่าโอเคมันก็น่าจะมีที่มาที่ไป แต่ดิวก็ต้องปกป้องตัวเอง ด้วยความที่เราก็มีชื่อเสียง ดิวมีงาน มีพรีเซ็นเตอร์ เราก็ต้องปกป้อง ก็ให้ความยุติธรรมเป็นตัวตัดสิน
มีอีกกรณีนึงที่เอาไหล่มาเรื่องชนไหล่ ?
คือดิวมีการถามจริง แต่เราไม่ได้เห็นว่าเอาไหล่มากระทบนะ นี่สิ่งที่ดิวเห็นนะ เราลองจินตนาการดู แต่ดิวไม่ใช่จะต้องมาบอกว่าคนนึงพูดแบบนี้ อีกคนพูดแบบนี้ แต่ถ้าถือของจริง และเอาไหล่มาชน ซึ่งภาพที่เห็นมันไม่ใช่ไหล่
แต่ดิวแค่รู้สึกว่ามันคือมารยาท มันคือความเหมาะสม เข้าใจว่ามันเป็นแบบตะวันตก แต่เราอยู่ในประเทศไทย อะไรควรทำหรือไม่ควร พอเราเห็นว่าไม่เหมาะสม ดิวเดินไปถามว่ามันคืออะไร เขาก็ตอบว่าทักทายแบบตะวันตก ดิวก็โอเค ดิวก็เดินกลับมาอยู่เพื่อน แค่นั้นเอง
เรื่องที่ไปพูดถึงเขาพ่อเขา ?
เอาจริง ๆ นะถ้าทุกคนได้ดูตรงนี้และได้เห็นสัมภาษณ์ที่น้องยีนส์ ดิวไม่อยากออกมาพูดให้แก้ต่างกับตัวเอง แต่ยีนส์ก็พูดในสิ่งที่ดิวพูดกับยีนส์ในวันนั้น ซึ่งมันก็ไม่ใช่อย่างที่อีกฝ่ายพูดไป เอาความเป็นจริงน้องยีนส์เป็นนางเอก เขาก็คงไม่เอาชื่อเสียงของเขา มาร่วมกันโกหกกับดิวหรอก เราไม่ได้อยากโกหกอะไรอยู่แล้ว
เป็นประเด็นเพราะดิวไปเหยียดแฟนเขา ทั้งที่ดิวเคยมีแฟนเป็นแฟนทอมมาก่อน ?
ใช่ ดิวเคยมีแฟนเป็นทอม และก็มีเพื่อนเป็นทอม ดิวโอเคกับทุกเพศ คนรอบตัวเราเป็นแบบนั้น ดิวยอมรับว่ามีพูดถึงเขาจริง ๆ กับเพื่อน แต่ไม่ได้มีเจตนาว่าจะไปพูดถึงเขาไม่ดี ดิวไมได้เดินไปว่าเขา หรือว่าเราไปมองหน้าเขาและพูดใส่หน้าเขา คือน้องยีนส์อยู่บนเรือและเขาไม่รู้จักใคร เราก็มีการพูดถึง
แต่สิ่งที่ดิวพูดก็คือ โอเคมันเป็นคำถามว่าทำไมคุณพ่ออยู่ในโหมดแบบนั้น แต่ทำไมยังมาอยู่ในงานแบบนี้ อันนี้เราพูดกับเพื่อนเรา ไม่ได้พูดกับเขา ซึ่งหนูพยายามสื่อให้ทุกคนเข้าใจว่าวันนึงเราเคยมีคลิปตบกับคนอื่น มีคนอื่นมาถามว่านี่อีดิวมือตบใช่ไหม หนูไม่เคยโกรธใคร เพราะหนูทำจริง เพราะฉะนั้นการที่คุณออกมานอกบ้าน และมีคำถาม โกรธกับการที่คนอื่นมีคำถาม เราก็ต้องอยู่บ้าน เพราะสุดท้ายเราเป็นคนที่ทุกคนมองเห็น เราเป็นคนของสังคม
ถ้าการที่ดิวมีคำถาม แล้วมันเป็นการไปก้าวก่ายเขา ทำให้เขาโกรธ งั้นดิวก็ต้องขอโทษเขาด้วย แต่ดิวไม่ได้มีเจตนาจะไปว่าเขา แต่ดิวมีคำถามจริง ๆ เพราะก็แค่ งง ว่าสถานการณ์มันไม่ค่อยดีแล้วมาวันเกิดทำไม มันเป็นการคุยกับเพื่อนเฉย ๆ เขาอาจะเดินผ่านแล้วได้ยิน แต่อาจจะฟังไม่ละเอียดหรือเปล่า อันนี้ดิวตอบเคลียร์มาก ซึ่งเขาอาจจะคิดว่าเราไปว่าพ่อเขาหรือเปล่า
ซึ่งมันไม่ใช่ ดิวก็อยากจะบอกทุกคนว่าอย่าเพิ่งหลงประเด็นกันไปว่าทำไมดิวถึงพูดแบบนั้น ประเด็นมันคือว่า ไม่ว่าใครจะพูดถึงเรายังไงก็ตาม มันไม่ใช่ว่าเราจะมีสิทธิ์ไปตบใครก็ได้ และไม่ใช่มีสิทธิ์จะอัปไอจีด่าใครก็ได้ และถ้าไม่พอใจตั้งแต่ตอนนั้นก็ถามดิวสิว่าเมื่อกี้พูดว่าอะไร เหมือนที่ดิวเห็นเขาทำการทักทายแบบนั้น ดิวก็ถามเขาว่ามันคืออะไรเหรอ คือทั้งหมดเราพูดกับยีนส์ว่าคนนี้คือใคร เราก็เล่าให้น้องฟังเฉย ๆ แต่เข้าใจว่ามันอาจจะกระทบกระเทือนจิตใจ แต่ก็ต้องถามตัวเองว่าที่จี๊ดเพราะอะไร
หึงแฟนเขาหรือเปล่า ?
ในความเป็นจริงนะ ตอนที่เขาจีบกับมาก่อน หนูก็มีผู้ชายของหนู จะไปหึงทำไม มันไม่ใช่ไทม์ไลน์ของหนู มันไม่เกี่ยวกัน ไม่ได้ซ้อนกัน เพราะตอนนั้นดิวก็ไม่ได้ว่าง มันไม่ใช่สาระหรอกค่ะ แต่สาระตอนนี้มันไปไกล บางทีเราต้องนิดนึง
แต่ไม่ใช่ไปด่าว่าพ่อใกล้จะตายแล้วนะ ?
และคิดว่ามันเป็นไปได้เหรอ ว่าเราจะไปพูดว่าพ่อเขาจะเป็นอะไร แต่ก็ไม่อยากพูดอะไร เดี๋ยวมันก็จะมีการอัปอะไรอีก มันจะไม่จบไม่สิ้น และนิสัยดิวคือถ้าจะพูดคือพูด
ดิวโทรไปฟ้องไผ่ ?
ส่วนเรื่องพี่ไผ่ วันพ้อยท์ ดิวให้โทรถามได้เลยว่าดิวฟ้องหรือเปล่า ในความจริงพี่ไผ่ทักมาหาดิว เพราะทางคู่กรณีทักไปในเฟซบุ็กและขอเบอร์ เพื่อจะโทร ไปเล่าให้ฟัง เขาก็ไลน์มาหาดิวว่ามันเกิดอะไรขึ้น ซึ่งถามดิวฟ้องไหม ดิวไม่ได้ฟ้อง แต่ทางนั้นไปเล่า พี่ไผ่เลยโทร.มาถามดิว คนที่ฟ้องไม่ใช่ดิวหรอก พี่ไผ่แคปมาให้ดูใหญ่เลยว่าเกิดอะไรขึ้น
ให้เรื่องนี้จบยังไง ?
ถามจะให้จบยังไง คือหลังจากนี้ดิวคงไม่มาวุ่นวายอะไรแล้ว ดิวให้ทางทีมทนายจัดการไปทางกฎหมาย
ถ้าเขาออกมาขอโทษจบไหม ?
จริง ๆ แล้วก็ให้ทนายดำเนินการไปเลย คือคุณพ่อดิวกับคุณแม่ของเขามีการคุยกัน ทางผู้ใหญ่คุยกัน ดิวไม่อยากให้มันรุนแรงหรือว่าอะไร หรือต้องออกมาโต้ตอบกันอินสตาแกรม ก็ให้ทางทีมทนายทำไป
ที่ผ่านมาดิวมีข่าวลบเยอะมาก มีผู้ที่มีอิทธิพลอยู่ข้างหลัง ?
หนูก็ไม่ได้รู้จักใครนะ เวลาเจอข่าวลบ ๆ ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรแล้ว ตอนนี้เฉย ๆ หมดแล้ว ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไร เวลาที่มีใครส่งอะไรมา จริง ๆ ทุกวันนี้สิ่งที่กลัวคือกลัวโควิดมากกว่า เอาตรง ๆ เรื่องบางเรื่อง เราผ่านอะไรมาเยอะ เราก็ไม่ได้อยากจะอิน อยากจะดราม่าอะไร ตอนนี้เฉย ๆ กับชีวิตตัวเอง ขี้เกียจโต้ตอบอะไร เป็นคนขี้เกียจ
แฟนคนนี้สายเปย์ ?
รถไม่ใช่ของขวัญกักตัว แต่ที่ผ่านสถานการณ์มาเครียด และที่ไปลงเรือวันนั้นมันเป็นวันเกิดเพื่อนเขา ไม่ใช่เพื่อนดิว และถ้าเราไม่ได้ไป ก็คงไม่ต้องมากักตัว เขาก็เลยรู้สึกผิดก็เลยเซอร์ไพรส์ ซื้อของขวัญปลอบใจให้ และเขาก็คงรู้สึกว่าเขาก็เป็นส่วนนึงที่ทำให้เกิดดราม่านี้ ดิวก็พูดใส่เขาว่าถ้าไม่มีเขาก็คงไม่มีดราม่านี้หรอก เพราะดิวก็คงไม่ไปลงเรือกับคนแปลกหน้าหรอก เขาก็เลยมีเซอร์ไพรส์
มีแฟนสองคน ไผ่กับคนนี้ ?
ไม่จริงค่ะ สำหรับพี่ไผ่เหมือนพี่น้อง เขาก็คอยเป็นห่วง คุณแม่เขาก็โทรมา ต่างคนก็มีแฟนของตัวเอง
รักครั้งนี้แฮปปี้ไหม ?
ก็เรื่อย ๆ และดิวคิดว่าการให้รถมันก็สิ้นเปลืองเกินไปหน่อย และหนูก็ไม่ได้ขับรถ แต่ก็รู้สึกดีในสิ่งที่เขาทำให้
ดาราที่ซื้อแบรนด์เนมอันดับต้น ๆ คือดิว ?
ไม่หรอกค่ะ
อยากได้อะไรแฟนซื้อให้หมด ?
บางอย่างก็ซื้อให้ บางอย่างก็ซื้อเอง
รู้สึกยังไงเวลาเจอข่าว ?
ก็ไม่ได้คิดว่าต้องรับมืออะไร ก็พยายามตอบเรื่องจริง ตอบด้วยความจริงใจ เวลาโกรธก็คือจะโกรธ ยอมรับเลยว่าเวลาถ้าด่าชาวบ้าน ก็ยอมรับเลยว่าด่าเราหรือว่าถ้าทำอะไรก็ค่อนข้างจริงใจ ทำเพราะอะไร ตอบออกมาจากความจริงใจ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- โมเมนต์เพียบ! พลอย-คลอดีน แฟน ๆ จิ้นหนัก ทำแฮชแท็กติดเทรนด์ทวิตเตอร์
- เปิดไทม์ไลน์ ออฟ จุมพล เผยอาการคัดจมูกก่อนพบเชื้อโควิด-19
- เวลาก็ทำอะไรไม่ได้! ฌาร์ม โอสถานนท์ เทียบชัดๆ 15 ปีกับตำนานนางงามเอวเอส
