แฉผ่านโซเชียล นักข่าวเส้นก๋วยจั๊บ ตรวจพบติดโควิด ไปโรงพยาบาลแบบธรรมดาไม่ได้ ต่อสายตรงถึงคนในแวดวงสีกากี ส่งเฮลิคอปเตอร์มารับไปโรงพยาบาล แถมเรียกร้อง ต้องการห้องพิเศษเท่านั้น
วันนี้ (22 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กเพจ “ซีทรู” ได้โพสต์ข้อความ เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผู้สื่อข่าว ของสื่อค่ายใหญ่รายหนึ่ง ที่ตรวจพบการติดเชื้อโควิด-19 แต่ไม่ยอมเรียกรถโรงพยาบาลมารับตัวเหมือนกับผู้ป่วยทั่วไป กลับใช้เส้นสายในแวดวงสีกากี มีเฮลิคอปเตอร์มารับถึงที่ เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยระบุว่า
ต้องบอกว่ามีกันแทบจะทุกวงการก็ว่าได้สำหรับอาการที่เรียกกันว่า “หลงหัวโขน”
โดยเฉพาะบรรดาคนที่ทำงานในแวดวงสื่อสารมวลชน บางคนได้เจอแหล่งข่าวเป็นคนใหญ่คนโต ได้ใกล้ชิดได้สัมภาษณ์คนเด่นคนดัง ก็พลันรู้สึกว่าตัวเองยิ่งใหญ่ ตัวเองต้องเป็น Somebody ที่ใคร ๆ จะต้องมาเอาอกเอาใจขึ้นมาซะอย่างนั้น
หนึ่งในตัวอย่างก็เห็นจะเป็นนักข่าวภาคสนามสังกัดค่ายใหญ่ค่ายหนึ่ง
อันที่จริงนักข่าวคนนี้ ก็เพิ่งจะมีโอกาสได้โผล่หน้าผ่านจอทีวี กับเขาไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง แต่กลับทำตัวขี้อวด ขี้เบ่ง แถมยังพยายามสร้างเรื่อง ให้ตัวเองเป็นข่าวอยู่ตลอดเวลา จนเพื่อน ๆ สายข่าวเดียวกันยังออกอาการเอือม
ล่าสุด จะเรียกว่าซวย หรือโอกาสมาเยือนก็ไม่ทราบได้ เมื่อนักข่าวขี้เบ่ง เกิดติดเชื้อโควิด-19 ขึ้นมา
งานนี้แทนที่จะติดต่อเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล เพื่อเข้ารับการรักษาตามขั้นตอน เหมือนกับคนทั่วไปทำกัน ซึ่งก็ไม่ได้วุ่นวายอะไรมากมายนัก แต่เจ้าตัวกลับต่อสายไปยังคนในวงการสีกากีที่รู้จัก เพื่อขอให้ส่งเฮลิคอปเตอร์มารับ
เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อไปถึงโรงพยาบาล นักข่าวคนนี้ยังโชว์กร่าง เรียกร้องจะนอนห้องพิเศษเข้าให้อีก ซึ่งพอเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่มีห้องว่าง เจ้าตัวก็แสดงความหงุดหงิด โมโห รีบต่อสายไปหาคนใหญ่คนโตของ กทม. เพื่อขอให้ช่วยดูว่า ยังมีโรงพยาบาลในสังกัดอื่น ๆ ที่ยังมีห้องพิเศษเหลืออยู่มั้ย
ครั้นพอได้โรงพยาบาล ได้ห้อง(พิเศษ) แทนที่เจ้าตัวจะพอใจ ก็กลับไปมีเรื่องมีราวกับเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้นักข่าวจอมเบ่ง สั่งของจากเซเว่นมาส่ง ทำเอาเจ้าตัวโวยวาย ไลฟ์สดต่อว่าหมอพยาบาลว่า ทำไม่ดีอย่างนั้น อย่างนี้
สุดท้ายทางโรงพยาบาล ก็เลยต้องต่อสายไปยังหัวหน้าข่าวของเจ้าตัว เพื่อรายงานถึงพฤติกรรมต่าง ๆ นั่นแหละนักข่าวขี้เบ่ง ถึงได้ยอมสงบเสงี่ยมเจียมตัวขึ้น
แต่เชื่อเถอะ สำหรับคนนิสัยแบบนี้แล้วคงอยู่เงียบๆ ได้อีกไม่นานสักเท่าไหร่นักหรอก
อ่านข่าวเพิ่มเติม
