Lifestyle

วาเลนไทน์ ยุคโควิด แนะเว้นระยะห่าง เตือนภัยผลข้างเคียง ยาคุมฉุกเฉิน

วาเลนไทน์ ยุคโควิด กรมอนามัย แนะ คู่รักเว้นระยะห่าง สร้างรักปลอดภัย ด้าน อย. เตือนภัย ใช้ยาคุมฉุกเฉินเมื่อจำเป็น เหตุผลข้างเคียงสูง อันตราย

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า วันวาเลนไทน์ของทุกปี มักเป็นวันที่ผู้คนส่วนใหญ่ ใช้โอกาสนี้สร้างความสัมพันธ์ ด้วยการแสดงความรักในรูปแบบต่าง ๆ ระหว่างคู่รัก ระหว่างคนในครอบครัว และกลุ่มเพื่อน ซึ่ง วาเลนไทน์ ยุคโควิด ที่ควรเว้นระยะห่าง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19 กรมอนามัยมีข้อแนะนำ ดังนี้

วาเลนไทน์ ยุคโควิด

  • คนไกล สามารถใช้แอปพลิเคชัน VDO call ติดต่อกัน เพื่อลดการออกจากบ้าน หรือไปในพื้นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19
  • คนที่อยู่บ้านใกล้กัน ก็สามารถใช้บริการเดลิเวอรี ส่งความพิเศษ เช่น การสั่งดอกไม้ หรือของขวัญชิ้นพิเศษให้ถึงบ้าน
  • คู่ที่อยู่บ้านเดียวกัน แนะนำให้อยู่บ้านในช่วงนี้ หากิจกรรม เช่น ดูหนัง ฟังเพลง พร้อมกับสั่งอาหารมื้อพิเศษ และของขวัญพิเศษให้คู่รัก ขณะอยู่ด้วยกัน

วาเลนไทน์

ทั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง กรมอนามัยขอความร่วมมือทุกคู่รัก ปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

โดยเฉพาะคู่รักที่เดินทางไปท่องเที่ยว หรือทำกิจกรรมร่วมกัน ควรเลือกสถานที่ไม่มีผู้คนแออัด สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1-2 เมตร งดการทักทาย ด้วยการกอดหรือสัมผัสเนื้อตัว และหมั่นล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ ก่อนและหลังการสัมผัสพื้นผิว ที่เป็นจุดสัมผัสร่วมทุกครั้ง

สำหรับร้านอาหาร ที่จัดโปรโมชั่นมื้อพิเศษ ในวันวาเลนไทน์นั้น ต้องปฏิบัติตามมาตรการของ กระทรวงสาธารณสุข ในการป้องกันโรคโควิด-19 ได้แก่

  • มีจุดคัดกรองผู้สัมผัสอาหารและผู้ใช้บริการ หากพบว่ามีไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก เหนื่อยหอบ หรือมีอุณหภูมิร่างกายมากกว่าหรือเท่ากับ 37.5 องศาเซลเซียส ให้ไปพบแพทย์ทันที
  • ผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ ต้องสวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
  • มีมาตรการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล โต๊ะและที่นั่งรับประทานอาหาร รวมถึงจุดซื้อสินค้าและชำระเงินอย่างน้อย 1-2 เมตร
  • จัดให้มีที่ล้างมือด้วยสบู่และน้ำหรือเจลแอลกอฮอล์ให้แก่ผู้ใช้บริการอย่างเพียงพอ พร้อมทั้งขอความร่วมมือประชาชนลงทะเบียนด้วยการ CHECK-IN และ CHECK-OUT ผ่านแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” ทุกครั้งที่ใช้บริการ

นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์

ด้าน นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า เนื่องจากวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันวาเลนไทน์ ซึ่งในเทศกาลวันแห่งความรัก มักเกิดเหตุการณ์ มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ตั้งใจ โดยเฉพาะวัยหนุ่มสาวหลายราย หันมาใช้ยาคุมฉุกเฉิน

ขณะที่ ยาคุมฉุกเฉิน เป็นชนิดฮอร์โมนเดี่ยว มีส่วนประกอบของโปรเจสโตเจน ปริมาณสูง มี 2 ขนาด คือ 0.75 มิลลิกรัม/เม็ด และ 1.5 มิลลิกรัม/เม็ด มีการใช้ได้ 2 แบบ คือ

แบบที่หนึ่ง กินยาขนาด 0.75 มิลลิกรัม เร็วที่สุด หลังมีเพศสัมพันธ์ ที่ไม่ได้ป้องกัน และกินเม็ดที่ 2 ภายใน 12 ชั่วโมงต่อมา

แบบที่สอง กินยาขนาด 1.5 มิลลิกรัม เร็วที่สุด หลังมีเพศสัมพันธ์ ที่ไม่ได้ป้องกัน หรือภายใน 72 ชั่วโมง

การใช้ทั้งสองแบบจะให้ผลไม่ต่างกัน อย่างไรก็ตาม ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน ควรใช้ในกรณีที่มีเพศสัมพันธ์ โดยไม่ได้ใช้วิธีการคุมกำเนิดอื่น ๆ หรือมีความผิดพลาดจากการคุมกำเนิด เช่น ถุงยางรั่วหรือแตก ขณะมีเพศสัมพันธ์ มีการนับระยะปลอดภัยผิด หรือลืมกินยาคุมกำเนิดมากกว่า 3 วัน รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ยินยอม เช่น ถูกข่มขืน

ยาคุม

ดังนั้น การกินยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน ควรใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เพราะแม้จะสามารถควบคุมการตั้งครรภ์ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ผู้กินจะปลอดภัยจากการตั้งครรภ์ 100% รวมถึงยาคุมฉุกเฉิน ไม่สามารถป้องกันโรค ที่อาจเกิดขึ้นจากการมีเพศสัมพันธ์ เช่น เอดส์

ส่วนผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉิน คือ ประจำเดือนมาไม่ปกติ เลือดออกกะปริบกะปรอย รู้สึกพะอืดพะอม คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ มีอาการปวดท้องคล้ายกับตอนมีประจำเดือนได้ นอกจากนี้ ยังอาจส่งผลกระทบต่อรังไข่และมดลูก รวมถึงกระตุ้นเซลล์มะเร็งได้

รองเลขาธิการฯ กล่าวว่า ถึงแม้ยาคุมฉุกเฉิน จะมีประสิทธิภาพดี ในการป้องกันการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะถ้ากินยาทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์ แต่ไม่แนะนำให้ใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน แทนการคุมกำเนิดปกติ เพราะขนาดของฮอร์โมนที่สูง ผลข้างเคียงของยา ตลอดจนความผิดปกติของรอบเดือนที่เกิดขึ้น อาการปวดเกร็งช่องท้องน้อย

นอกจากนี้ ยังไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ดังนั้น ควรเลือกใช้ในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น และหลังการใช้หากประจำเดือนมาไม่ปกติ ประจำเดือนขาด เลือดออกไม่หยุด หรือปวดท้องไม่ดีขึ้น ควรรีบมาพบแพทย์

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo