Entertainment

หนุ่ม กรรชัย เผยความลับ บ้านกกกอก เก็บมานานแล้ว ลุงพล ทำไมพูดไม่เหมือนกันสักครั้ง

เมื่อวานนี้ (20 ม.ค.) พิธีกรชื่อดัง หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ได้พูดคุยเกี่ยวกับ คดีน้องชมพู่ ผ่านทางรายการ ข่าวใส่ไข่ ทางช่องไทยรัฐทีวี 32 โดยเปิดเผยว่า เจ้าตัวเคยได้มีโอกาสสัมภาษณ์ นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ลุงของน้องชมพู่ ซึ่งตอนนั้นตนได้ถาม ลุงพล ว่า “เดี๋ยววันที่ 25 คุณต้องไปเจอกับคุณอัจฉริยะใช่ไหม?” ทางด้าน ลุงพล ก็ได้พูดขึ้นมาว่า “เนี่ยผมถึงไม่ค่อยอยากจะสัมภาษณ์ก็เพราะแบบนี้”

นอกจากนี้ หนุ่ม กรรชัย ยังได้พูดถึงกรณีของโทรศัพท์อีกว่า “สมัยที่เกิดเรื่องน้องชมพู่ ลุงพลมีโทรศัพท์มือถือแค่ 1 เครื่อง ทั้งบ้านมี 1 เครื่อง แต่ใช้ซิม 2 อัน คือทั้งเครื่องมี 2 เบอร์ วันที่เกิดเรื่องผมมีโอากาสถามลุงพลว่า ตอนที่เกิดเรื่องลุงรู้ได้ยังไงว่าน้องชมพู่หายตัวไป ซึ่งลุงพลบอกว่าป้าแต๋นโทรมาบอก พอหลังจากนั้น สะดิ้ง พี่สาวของน้องชมพู่ได้ให้การกับตำรวจว่า พอรู้ว่าน้องหายตัวเองก็เดินไปหาป้าแต๋นที่บ้านลุงพล แล้วบอกว่าน้องหายให้ตามแม่ให้หน่อย จากนั้นป้าแต๋นก็ได้หยิบโทรศัพท์มือถือมาจากลูกชายที่กำลังเล่นเกมอยู่ เพื่อโทรหา สาวิตรี ซึ่งเป็นแม่ของน้องชมพู่

คำถาม ถามว่า ลุงพลเอาโทรศัพท์ที่ไหนรับ ทั้ง ๆ ที่ป้าแต๋นโทรศัพท์อยู่ที่บ้าน โทรไปหาแม่น้องชมพู่ อันนี้ลุงพลจะต้องตอบให้ได้

สอง หลังจากนั้น ลุงพล บอกว่า สะดิ้ง เป็นคนเดินไปบอก พอไปถาม สะดิ้ง บอกว่า ไม่ได้บอก ลุงพล

สาม หลังจากนั้นลุงพลเปลี่ยนอีก บอกว่า ขับรถไปรับพระ หลังจากนั้นกลับมาหาป้าแต๋น 10 โมงกว่า ถึงจะรู้ข่าวน้องชมพู่หาย ในขณะที่พระบอกว่า ไม่ใช่ อาตรมาถามว่า ทำไมลุงพลถึงมาช้าจัง ลุงพลตอบว่า พอดีหลานหายตัว”

หนุ่ม กรรชัย เผยเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์แต่ละครั้ง ลุงพล พูดไม่เหมือนกัน ตนเก็บเรื่องนี้มานานแล้ว ทั้งยังเคยถาม ลุงพล ว่า ทำไมพูดกับตน สัมภาษณ์กับสื่อ พูดกับตำรวจ แต่ละครั้งไม่เหมือนกันเลย ซึ่ง ลุงพล ตอบกลับว่า เป็นธรรมดา คนเราพูดความจริงก็ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันทุกครั้ง ซึ่ง หนุ่ม กรรชัย ยืนยันว่า ไม่ได้กล่าวหา ลุงพล แต่แค่พูดให้ฟังด้วยความรักว่า พอพูดไม่เหมือนกันมันจะกลายเป็นที่จำตามองเท่านั้นเอง

ก่อนที่ หนุ่ม กรรชัย จะเล่าเรื่องคดีที่เกิดขึ้นว่า จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตำรวจพอมีเค้าของคนบางคนที่สามารถชี้ไปได้ว่า น่าจะเป็นบุคคลนี้ แต่ประเด็นที่ยังไม่สามารถออกหมายจับได้เป็นเพราะว่า ยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ที่เชื่อมโยง เพราะฉะนั้นถ้าหากไปจับเขา แล้วถ้าเขาสู้คดีแล้วหลุดออกมาจะทำให้วงการตำรวจเสื่อมเสีย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo