Lifestyle

เด็กติดหวาน ดื่มน้ำอัดลม น้ำผลไม้ พ่อแม่ต้องคุมเข้ม โดยเฉพาะช่วงปิดเทอม

เด็กติดหวาน นำพาโรคอ้วน กรมอนามัยเผยผลสำรวจ เด็กนักเรียน ดื่มน้ำอัดลม น้ำผลไม้ 1-3 วันต่อสัปดาห์ แนะช่วงปิดเทอมพ่อแม่คุมเข้มน้ำตาล 

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ปัญหาสุขภาพทั้งภาวะโภชนาการเกิน โรคอ้วน และเบาหวานในกลุ่มเด็ก เนื่องจาก เด็กติดหวาน นั้น สาเหตุส่วนหนึ่ง เป็นผลมาจากการบริโภคอาหาร ที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำอัดลม น้ำหวาน ชาเย็น เบเกอรีและขนมหวานต่างๆ เป็นต้น

เด็ก 1

สำหรับพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลสูงนี้ เริ่มพบมาก ตั้งแต่อยู่ในช่วงวัยเรียน โดยข้อมูลจากการสำรวจความรอบรู้ด้านสุขภาพ และพฤติกรรมสุขภาพ ที่พึงประสงค์ของเด็กวัยเรียน โดยกรมอนามัยปี ปี 2562 พบว่า เด็กวัยเรียน ดื่มน้ำอัดลม 1-3 วันต่อสัปดาห์ 55.4% ดื่มน้ำผลไม้ น้ำหวาน นมปรุงแต่งรส 1-3 วัน/สัปดาห์ 50.9%

ดังนั้น การปลูกฝังพฤติกรรมสุขภาพที่ดีตั้งแต่เด็ก ให้หลีกเลี่ยงกินหวาน เพื่อป้องกันการป่วย ด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ จึงเป็นกระบวนการสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากอาหารจำพวกน้ำตาล เมื่อกินเข้าไปจะแปรเปลี่ยนเป็นพลังงาน ให้ร่างกายนำไปใช้ แต่หากได้รับมากเกินไป จะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมในร่างกาย เป็นสาเหตุของการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ได้แก่ โรคเบาหวาน หัวใจและหลอดเลือด และอ้วน ตามมาในระยะยาว

ที่สำคัญ คือ ในช่วงปิดเทอม ซึ่งเด็กจะมีอิสระในการเลือกกินอาหารมากขึ้น พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรดูแลลูกหลานให้กินขนมหวาน น้ำหวาน หรือน้ำอัดลมให้ลดน้อยลง เพื่อสร้างความเคยชินในการรับรส และไม่ติดรสหวาน

ทั้งนี้ ควรพยายามควบคุมการกินน้ำตาลแต่ละวัน ให้ไม่เกิน 4 ช้อนชา ควรให้เด็กกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นกินผักและผลไม้ เลี่ยงขนมหวาน น้ำหวาน น้ำอัดลม และผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนุน ทุเรียน ลำไย ลองกอง เป็นต้น

ขณะที่ หากเด็กอยากดื่มน้ำหวาน ให้เลือกดื่มน้ำผลไม้สด ไม่เติมน้ำตาลแทน เลือกกินผลไม้รสไม่หวานจัด เป็นอาหารว่าง แทนขนมหวาน และผู้ปกครอง ควรชวนลูกหลานออกกำลังกายด้วยกัน วันละ 60 นาทีทุกวัน เพื่อส่งเสริม ให้เด็กไทยเท่หุ่นดี สูงดีสมส่วน สุขภาพแข็งแรง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

 

Avatar photo