โรคตาแดง มาพร้อมฝน แพทย์เตือน ระวังระบาดหนักช่วงหน้าฝน ที่น้ำชะฝุ่นละออง เชื้อแบคทีเรีย ไวรัส กระเด็นเข้าตา โอกาสติดเชื้อสูง
นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดี กรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ในช่วงหน้าฝน ที่มีสภาพอากาศอับชื้น และเย็นลง ซึ่งเหมาะแก่การเจริญเติบโต ของเชื้อโรค หากเป็นผู้ที่มีภูมิต้านทานไม่แข็งแรง เข้าหน้าฝน อาการเจ็บไข้ได้ป่วยก็มาเยือน โดยเฉพาะ โรคตาแดง ที่มักระบาดบ่อย เมื่อเข้าสู่ ฤดูกาลหน้าฝน
ทั้งนี้ สาเหตุที่โรคตาแดง มักจะระบาดในหน้าฝน เนื่องจากเมื่อฝนตก น้ำฝนจะไป ชะล้างฝุ่นละออง ที่อยู่ตามอาคาร หลังคา ตามรั้วต่างๆ และอาจกระเด็นมาสู่ตาเราได้ รวมถึงน้ำที่ท่วมขัง ก็อาจจะมีเชื้อไวรัส หรือ แบคทีเรีย เมื่อน้ำที่สกปรก กระเด็นเข้าตาเรา ก็จะเกิดการติดเชื้อไปอย่างรวดเร็ว
สำหรับอาการรุนแรงที่สุด จะมีอาการอักเสบ เคืองตาอย่างรุนแรง ตามัว หากมีปัญหากับดวงตา หรือมีอาการผิดปกติ ควรพบจักษุแพทย์
“หน้าฝน ไม่เพียงแต่เสี่ยงกับ โรคระบบทางเดินหายใจ หรือ โรคทางผิวหนังเท่านั้น ดวงตาก็มีความเสี่ยงเช่นกัน โดยเฉพาะ โรคตาแดง ที่ระบาดได้บ่อย เมื่อเข้าสู่หน้าฝน” นายแพทย์วีรวุฒิ กล่าว
ด้าน นายแพทย์เกรียงไกร นามไธสง ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงฤดูฝน การดูแลสุขภาพ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เรื่องสุขภาพดวงตาก็ต้องการ การดูแลเช่นกัน
ในช่วงหน้าฝนที่มาถึง ดวงตาก็มีความเสี่ยง ต่อการเกิดโรคติดเชื้อเช่นกัน โดยเฉพาะ โรคตาแดงที่มักระบาดได้บ่อยครั้ง เมื่อเข้าสู่ฤดูกาลนี้
อาการของโรคตาแดง หากได้รับเชื้อโรคต่าง ๆ จนทำให้เป็นโรคตาแดง อาการต่างๆ จะเกิดได้ภายใน 1-2 วัน และ ระยะการติดต่อไปยังผู้อื่น ประมาณ 14 วัน สามารถแบ่งอาการได้โดย เกิดอาการตาขาว มีสีแดงเรื่อ ๆ ระคายเคือง แสบตา น้ำตาไหล มีขี้ตามากกว่าปกติ
ตัวอย่างเช่น โรคตาแดง ที่อาจเกิดจากน้ำสกปรก กระเด็นเข้าตา หรือนำมือที่เปื้อนสิ่งสกปรก ไปสัมผัสโดนดวงตา หรือ หากเกิดจากติดเชื้อไวรัส หนังตาจะบวม น้ำตาไหลมาก ต่อมน้ำเหลืองกกหูบวม ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ตาแพ้แสง
หากติดเชื้อแบคทีเรีย จะมีขี้ตาสีเขียว หรือสีเหลือง มีน้ำตาไหล ตาแฉะ มองเห็นไม่ชัด และหากเกิดจากการแพ้ จะรู้สึกคันตา แสบตา มีน้ำตาไหล วิธีการป้องกันโรคตาแดง ควรหลีกเลี่ยง การใกล้ชิดกับผู้ป่วย งดใช้ของร่วมกับผู้ป่วย เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว หมอน เครื่องสำอาง หรือสัมผัสร่างกายผู้ช่วย
วิธีการป้องกัน ทำได้โดย หลีกเลี่ยงฝุ่นละออง หรือ ไม่ให้น้ำสกปรกเข้าตา รวมไปถึง การหลีกเลี่ยง การว่ายน้ำในระยะการระบาดของโรคตาแดง หมั่นดูแลรักษาความสะอาด ล้างมือให้สะอาด เลี่ยงการเอามือ ไปสัมผัสดวงตาบ่อย ๆ ไม่อยู่ในพื้นที่แออัด เช่น รถสาธารณะ เป็นต้น หากจำเป็น ต้องสวมแว่นกันแดด กันฝุ่น กันลมช่วย และควรระวังไม่ให้แมลง หรือ สิ่งแปลกปลอมเข้าตา
ส่วนการรักษาโรคตาแดงนั้น หากมีอาการตาแดง ควรพักผ่อน ลาหยุดงาน จนกว่าจะหาย เพื่อลดการระบาดของโรค และ สามารถใช้น้ำตาเทียมช่วย หากมีอาการระคายเคืองตามาก ควรพบ จักษุแพทย์ เพื่อรักษาต่อไป
โรคตาแดงเป็นโรคที่ติดต่อได้ง่าย โดยเป็นการติดต่อ จากการสัมผัสกับเชื้อโรค โดยตรง เช่น สัมผัสกับขี้ตา หรือน้ำตา ที่ติดอยู่บนมือ หรือสิ่งของ ที่ผู้ป่วยสัมผัส จากการใช้สิ่งของร่วมกัน และจากการหายใจหรือไอจามรดกัน
ดังนั้น เชื้อโรคจึงแพร่ระบาดได้ตามสถานที่ที่มีผู้คนอยู่ร่วมกันมากๆ เช่น สถานีรถไฟฟ้า รถโดยสารสาธารณะ โรงพยาบาล
อย่างไรก็ตาม โรคตาแดงเป็นโรคที่ สามารถหายเองได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ หากได้รับการดูแลรักษา อย่างถูกวิธี หรือรีบพบ จักษุแพทย์ เพื่อรับการรักษาตั้งแต่เริ่มมีอาการ จะทำให้หาย และกลับไปใช้ชีวิตปกติ ได้เร็วขึ้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘MIS-C’ ระบาดฝั่งตะวันตก สธ. ยันไม่พบในเด็กไทย สั่งเฝ้าระวังเข้ม
- ประกาศเตือน! 9 โรค 4 ภัยสุขภาพ มากับ ‘ฝน’
- ‘กรมการแพทย์’ เตือน!! รับมือ 4 โรคที่มากับน้ำท่วม
