Lifestyle

เปิด 15 ข้อห้ามวันตรุษจีน อยากเฮง อยากปัง ห้ามทำแบบนี้นะ!

เปิด 15 ข้อห้ามวันตรุษจีน อยากเฮง อยากปัง ไม่อยากโชคร้ายตลอดปี ห้ามทำแบบนี้นะ!

“วันตรุษจีน” คือ วันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนตรงกับวันที่ 1 เดือน 1 ตามปฏิทินจันทรคติจีน โดยวันตรุษจีน 2567 ตรงกับวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 “วันตรุษจีน” ของชาวจีนก็คล้ายกับปีใหม่ของไทยนั่นก็คือ การรวมญาติพี่น้อง เพื่อพบปะพูดคุยกินข้าวร่วมกัน ทำบุญไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษและไหว้ผีไม่มีญาติ เพื่อเป็นการเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต

วันตรุษจีน

แต่รู้หรือไม่ วันตรุษจีน มีข้อห้ามสำคัญที่ห้ามทำ หากไม่อยากโชคร้ายตลอดทั้งปี มีอะไรบ้าง #TheBangkokInsight รวบรวมไว้ให้ที่นี่

1. ห้ามทำความสะอาดบ้าน : การทำความสะอาดบ้าน และทิ้งขยะในวันตรุษจีนนั้น จะเป็นการกวาดเอาโชคลาภ เงินทอง ออกไปจากบ้าน ดังนั้น วันตรุษจีนจึงไม่ค่อยมีคนทำความสะอาดบ้านแต่จะไปทำความสะอาดกันหนึ่งวันก่อนวันตรุษจีน เพื่อที่จะให้บ้านสะอาดรับปีใหม่ และใช้บ้านในการต้อนรับแขกที่จะมาเยี่ยมเยียนอีกทางหนึ่ง

2. ห้ามซักผ้า : คนจีนเชื่อว่า เทพเจ้าแห่งน้ำเกิดในวันตรุษจีน ดังนั้น การซักผ้าในวันตรุษจีนจึงถือเป็นเหมือนการลบหลู่ท่านเพราะฉะนั้นห้ามซักผ้าเด็ดขาด ให้นำไปซักผ้าในวันอื่นหรือซักก่อนที่จะถึงวันตรุษจีนนั่นเองครับ

3. ห้ามพูดสิ่งที่ไม่ดี : หลีกเลี่ยงการพูดเกี่ยวกับความตาย, การเจ็บป่วย, ความยากจน หรือวิญญาณร้าย เพราะเชื่อว่าจะนำโชคร้ายมาสู่ตนเองและคนรัก

4. ห้ามรับประทานโจ๊กหรือเนื้อสัตว์เป็นอาหารเช้า : ชาวจีนเชื่อกันว่าโจ๊กเป็นอาหารของคนจน ดังนั้นการรับประทานโจ๊กในวันตรุษจีนจะทำให้ต้องทนลำบากและยากจนตลอดทั้งปี และสำหรับเนื้อสัตว์ ให้งดรับประทานในช่วงเช้าของวันตรุษจีน เนื่องจากเชื่อว่าเทพเจ้าที่ลงมาตอนเช้าวันปีใหม่เป็นมังสวิรัติ

5. ห้ามตัดหรือสระผม : คำว่า “ผม” ออกเสียงคล้ายกับคำว่า “มั่งคั่ง” ในภาษาจีน ทำให้เชื่อว่าการตัดหรือสระผมช่วงตรุษจีน ก็เหมือนตัดโชคตัดลาภทิ้งไป

วันตรุษจีน

6. ห้ามเย็บผ้า : เชื่อกันว่าใครที่ “เย็บผ้า” ในวันตรุษจีนจะพบเจอแต่อุปสรรคและความยากลำบากตลอดทั้งปี

7. ห้ามใช้ของมีคม : การใช้กรรไกรในช่วงตรุษจีนจะทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งภายในครอบครัว ซึ่งความเชื่อนี้มาจากการเปรียบปลายแหลมของกรรไกรที่คมเหมือน ยามที่เราทะเลาะกัน แล้วเผลอใช้คำพูดแรง ๆ ที่เฉือนบาดลึกไปในใจของผู้ฟัง นอกจากนี้การใช้ของมีคม ยังเหมือนกับไปตัดโชคลาภของเราอีกด้วย

8. ห้ามให้อั่งเปาเป็นจำนวนคี่ : เลขเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญในวัฒนธรรมจีน คนจีนส่วนใหญ่ชื่นชอบเลขคู่ เพราะมีความเชื่อว่า “สิ่งดี ๆ มักมาเป็นคู่” อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกเลขคู่ จะนำโชคมาให้นะ อย่างเลข 4 เนี่ย ต้องเลี่ยงเลย เพราะออกเสียงเหมือนกับ “ความตาย”

9. ห้ามทำของแตก : เชื่อกันว่า “การแตกหัก” ของภาชนะอย่าง แก้ว แจกัน จาน หรือชาม นำมาสู่โชคร้าย การสูญเสีย และความขัดแย้งภายในครอบครัว ดังนั้น ช่วงตรุษจีนจึงต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ ทั้งนี้ หากระวังแล้วแต่ยังเกิดอุบัติเหตุแก้วแตก ก็สามารถแก้เคล็ดได้โดยการห่อเศษแก้วด้วยกระดาษ หรือผ้าสีแดง พร้อมพูดว่า “ซุ่ย ซุ่ย ผิง อัน” ซึ่งมีความหมายว่า “ขอให้ตลอดชีวิตมีแต่ความสุขสันต์ร่มเย็น”

10. ห้ามยืมหรือให้ยืมเงิน : การให้ยืมเงินช่วงตรุษจีนเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะจะทำให้มีคนมายืมเงินตลอดทั้งปีจนเกิดปัญหาทางการเงิน และสำหรับใครที่ยืมเงินไว้ ก็ควรคืนเงินก่อนวันตรุษจีน ไม่งั้นจะติดหนี้สินไปตลอดทั้งปี

วันตรุษจีน

11. ห้ามใส่เสื้อสีขาวและดำ : เสื้อสีขาวและดำมักใส่เพื่อไว้ทุกข์ ซึ่งขัดกับงานมงคลอย่างวันปีใหม่ ดังนั้นการใส่เสื้อผ้าสีสันจึงเหมาะกับช่วงตรุษจีนมากที่สุด ยิ่งเป็นสีแดงยิ่งเสริมความร่ำรวยให้เฮงเฮงตลอดทั้งปี

12. ห้ามปลุกคนอื่น : เชื่อกันว่าการปลุกคนอื่นในช่วงตรุษจีน จะทำให้มีแต่คนมาจู้จี้จุกจิกให้เรารำคาญใจตลอดทั้งปี

13. ห้ามทะเลาะเบาะแว้ง : แน่นอนว่าการทะเลาะเบาะแว้งเป็นสิ่งที่ไม่ดีอยู่แล้ว และยิ่งมาทะเลาะกันในวันตรุษจีนยิ่งแล้วใหญ่ เพราะใครที่ทะเลาะกันช่วงนี้ เชื่อว่าจะพบแต่ความขัดแย้งตลอดทั้งปี

14. ห้ามร้องไห้ : หากร้องไห้ในวันดี ๆ แบบนี้ จะส่งผลให้มีเรื่องให้ต้องร้องไห้ตลอดทั้งปี และยิ่งเป็นเด็กเล็กร้องยิ่งเป็นลางไม่ดีว่าจะเกิดโชคร้าย

15. ห้ามเข้าไปห้องนอนคนอื่น : ความเชื่อนี้ระบุชัดว่า หากเข้าห้องนอนคนอื่นจะโชคร้าย รวมไปถึงหากเจ้าของห้องยินยอมให้บุคคลอื่นเข้ามาในห้องนอนของตัวเองก็อาจจะส่งผลให้โชคร้ายเช่นกัน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK