Green Energy

กลุ่ม ปตท. เดินหน้า ‘Net Zero’ ขับเคลื่อนไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ตอบสนองทิศทางโลก

เปิดกลยุทธ์ กลุ่ม ปตท. ขับเคลื่อนองค์กรสู่ “Net Zero Emission” ในปี ค.ศ. 2050 หนุนเป้าหมายประเทศ ตอบสนองทิศทางของประเทศและของโลก

ปัจจุบันภาวะโลกร้อนกำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว อุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้สภาพภูมิอากาศแปรปรวน  ส่งผลกระทบอย่างมากต่อความสมดุลของธรรมชาติ ก่อให้เกิดความเสี่ยงมากมายต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ บนโลก

Net Zero

การเปลี่ยนแปลงทางสภาวะภูมิอากาศ (Climate Change) ทำให้ทั่วโลกตระหนักว่า ต้องร่วมมือกันให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาโลกร้อน ที่กระทบต่อมวลมนุษยชาติ

จากการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change Conference of the Parties: UNFCCC COP) (COP26) ณ เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร มีการบรรลุข้อตกลงเพื่อควบคุมปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการผลักดันให้ยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล

หนึ่งในข้อตกลงสำคัญร่วมกันของนานาชาติคือ การวางเป้าหมายว่า จะบรรลุเป้าหมายให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ “Net Zero Emission” เพื่อให้อุณหภูมิของโลกต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส และเข้าใกล้หรือถึง 1.5 องศาเซลเซียส

Net Zero

การวางเป้าหมายลดอุณหภูมิของโลกร่วมกัน เป็นผลมาจาก องค์การสหประชาชาติ (UN) ได้ออกรายงาน ชี้ให้เห็นว่าภาวะโลกร้อนจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอาจทะลุ 1.5 องศาเซลเซียส ในอีก 20 ปีข้างหน้า ซึ่งทั่วโลกจะต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 30% และจำเป็นต้องลดลงถึง 50% หากต้องการรักษาการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิไม่ให้เกิน 1.5%

สำหรับประเทศไทย ปัจจุบันมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นอันดับที่ 21 ของโลก โดยในเวทีการประชุม COP26 นี้เอง ประเทศไทย โดย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุม COP26 ว่า ประเทศไทยพร้อมยกระดับการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างเต็มที่ และด้วยทุกวิถีทาง

ทั้งนี้ ประเทศไทยได้วางเป้าหมายเพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ได้ภายในปี ค.ศ. 2065

shutterstock 2104069871

 

มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ด้วยกลยุทธ์ Net Zero 3P

จากเป้าหมายของประเทศไทย กลุ่ม ปตท. ในฐานะองค์กรของคนไทยในธุรกิจพลังงาน ได้วางเป้าหมายที่จะร่วมขับเคลื่อนประเทศไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยตั้งเป้าบรรลุ “Carbon Neutrality” ในปี ค.ศ. 2040 และ “Net Zero Emission” ในปี ค.ศ. 2050 ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายที่ประเทศกำหนด เพื่อเป็นกำลังหลักช่วยสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายในภาพรวมของประเทศ

ทั้งนี้ กลุ่ม ปตท. ตั้งเป้าหมายในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จากการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม ปตท. ทั้งในและต่างประเทศให้ลดลง 15% ภายในปี ค.ศ. 2030 เทียบจากปี ค.ศ. 2020  ผ่านกลยุทธ์การดำเนินงาน Net Zero 3P ประกอบด้วย

1. Pursuit of Lower Emission

การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการ เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และนำกลับมาใช้ประโยชน์ ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ รวมถึงการซื้อขายคาร์บอนเครดิต

2. Portfolio Transformation

การปรับเปลี่ยนแผนการลงทุนในธุรกิจพลังงานแห่งอนาคต และการเติบใตในธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน เชื่อมโยงกับเป้าหมายสร้างการเติบโตจากธุรกิจพลังงานแห่งอนาคต และเป้าหมายเพิ่มกําลังการผลิตพลังงานทดแทน โดยตั้งเป้าหมายลงทุนในธุรกิจพลังงานแห่งอนาคตและธุรกิจนอกเหนือจากพลังงานให้เพิ่มขึ้นเป็น 30%

นอกจากนี้ ยังวางเป้าหมายปี ค.ศ. 2030  โดยพัฒนาธุรกิจไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน ด้วยกำลังการผลิตจากพลังงานทดแทนที่ 12 GW พร้อมทั้งส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ รวมไปถึงยุติการลงทุนในธุรกิจถ่านหิน

3. Partnership with Nature and Society

เพิ่มการดูดซับก๊าซเรือนกระจกจากชั้นบรรยากาศด้วยวิธีทางธรรมชาติ ด้วยการปลูกป่า ที่ผ่านมา ปตท. ได้ปลูกและดูแลรักษาป่าจำนวน 1 ล้านไร่ และ เพื่อการขับเคลื่อนสู่ Net Zero กลุ่ม ปตท. จะปลูกป่าเพิ่มอีก 2 ล้านไร่ เพื่อช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจก โดยคาดว่าจะเพิ่มการดูดซับก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 4 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี

messageImage 1665029409463

เพื่อให้สอดรับกับเป้าหมาย Net Zero และวิถีแวดล้อมที่เปลี่ยนไป กลุ่ม ปตท. ได้ปรับวิสัยทัศน์เพื่อการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในอนาคต  Powering Life with Future Energy and Beyond ขับเคลื่อนทุกชีวิต ด้วยพลังแห่งอนาคต” เพื่อกำหนดทิศทางการเติบโตของ กลุ่ม ปตท. ที่จะมุ่งสู่ธุรกิจพลังงานแห่งอนาคต และเติบโตในธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน

กล่าวได้ว่า กลุ่ม ปตท. ได้ดำเนินการควบคู่กัน ทั้งการมุ่งสู่ Net Zero เพื่อสร้างความยั่งยืน และพร้อมขยายตัวสู่ธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ตลอดจนสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจเดิม เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo