นายกฯ ไฟเขียว ‘โรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือก’ จังหวัดชายแดนใต้ กำลังการผลิต 106.9 เมกกะวัตต์ พร้อมจัดงบ 265 ล้านบาท ขยายพื้นที่การปลูกพืชพลังงาน
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้ทุกภาคส่วนเร่งขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มุ่งเป้าสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน
ทั้งนี้ มิติด้านพลังงาน เป็นอีกเครื่องมือหนึ่งของการพัฒนาที่มีศักยภาพ โดยรัฐบาลได้ส่งเสริมการจัดตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือกขนาดเล็กมาก ที่เชื่อมโยงการพัฒนาอย่างครบวงจร กระจายครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อส่งเสริมเกษตรฐานราก ปศุสัตว์ วิสาหกิจชุมชน และอุตสาหกรรมเกษตร ผ่านการลงทุนร่วมที่เป็นมิตรระหว่างประชาชนและเอกชน มุ่งสร้างงาน สร้างอาชีพและรายได้ที่มั่นคงแก่เกษตรกร ประชาชนและชุมชน ในระยะต่อไป จะขยายผลโครงการโรงไฟฟ้าฯ ซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 106.9 เมกกะวัตต์
โครงการการบริหารจัดการไฟฟ้า ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
รัฐบาลมีนโยบายการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผ่านโครงการการบริหารจัดการไฟฟ้าในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เชื่อมโยงการพัฒนาเศรษฐกิจทั้งระบบ ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง โดยที่ผ่านมาได้บริหารจัดการ ดังนี้
- ส่งเสริมการปลูกพืชพลังงาน อาทิ ไผ่ กระถินเทพา หญ้าเนเปียร์ จัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจกว่า 60 กลุ่ม รวม 12,400 ครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่เป้าหมาย 1.5 แสนไร่
- ส่งเสริมการแปรรูปผลิตภัณฑ์สร้างมูลค่าเพิ่ม เชื่อมโยงกิจกรรมเมืองปศุสัตว์โครงการโคบาลชายแดนใต้ 1,000 กลุ่ม ครอบคลุมจังหวัด นราธิวาส สงขลา สตูล ปัตตานี และยะลา เชื่อมโยงการผลิตภาคอุตสาหกรรมครัวเรือนต่างๆ
- มีนโยบายจัดสรรพื้นที่ดินสาธารณะเพื่อให้ประชาชนโดยเฉพาะในกลุ่มที่มีรายได้ต่ำได้สามารถเข้าใช้ประโยชน์พื้นที่สาธารณะเพื่อทำเกษตรฐานรากที่มีตลาดรองรับแน่นอน กว่า 100,000 ไร่
- ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการร่วมลงทุนในกิจการพลังงานระยะที่หนึ่ง 150 เมกกะวัตต์ แบ่งเป็น ชีวมวล 15 โรง และ ชีวภาพ 75 โรง ซึ่งนำไปสู่การจ้างงานทางตรง 800 คน การจ้างงานทางอ้อม 12,000 คน วิสาหกิจชุมชนร่วมลงทุน 10%
ทั้งนี้ เอกชนจะต้องทำงานกับเกษตรกรและประชาชนอย่างจริงจัง ครอบคลุมเรื่องเกษตรฐานรากและปศุสัตว์ เพื่อให้เกิดการสร้างอาชีพ ที่สำคัญจะต้องไม่มีการซื้อที่ดินเพื่อประโยชน์ของเอกชนเป็นฝ่ายเดียวเช่นที่ผ่านมา
ขยายผลโครงการโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก กำลังการผลิต 106.9 เมกกะวัตต์
นางสาวรัชดา กล่าวต่อว่า การจัดตั้งโรงไฟฟ้ามีหลักการทำงานที่สำคัญอีกเรื่อง คือ การจัดตั้งกองทุนเพื่อการพัฒนาพื้นที่ มีเป้าหมายการใช้เงินกองทุน 3 เรื่อง ได้แก่ การส่งเสริมคนดีคนขยัน เพื่อไปประกอบพิธีการทางศาสนาตามที่ตนเองนับถือ เช่น คนไทยนับถือศาสนาอิสลามไปทำฮัจญ์ หรือ อุมเราะห์ ณ ประเทศซาอุดิอาระเบีย คนไทยนับถือศาสนาพุทธ เดินทางไปสังเวชนียสถาน ณ ประเทศอินเดีย และคนไทยเชื้อสายจีน เดินทางสักการะพุทธศาสนา ณ ประเทศจีน เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีการจัดสรรทุนการศึกษาให้กับเด็กและเยาวชนในพื้นที่ เพื่อให้ศึกษาในสาขาที่สอดคล้องกับการพัฒนาเพื่อการมีงานทำ และสุดท้ายนำงบประมาณไปใช้ในการพัฒนาตามความจำเป็ นและความต้องการของพื้นที่อย่างแท้จริง
และในระยะต่อไป รัฐบาลจะขยายผลโครงการโรงไฟฟ้าขนาดเล็กที่ยังมีโควต้าเหลืออยู่ มีกำลังการผลิตรวม 106.9 เมกกะวัตต์ ตามความสอดคล้องของแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP) และแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP)
จัดสรรงบ 265 ล้านบาท ปลูกพืชพลังงาน ปี 66-67
รวมถึง กระทรวงพลังงานจะพิจารณาจัดสรรงบประมาณ 265 ล้านบาท จากกองทุนส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อนำไปสนับสนุนการขยายพื้นที่การปลูกพืชพลังงาน สำหรับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้กับ ศอ.บต.ในช่วงปี 2566 และ 2567
นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีติดตามการขับเคลื่อนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือกอย่างไกล้ชิด เพราะจะสร้างประโยชน์แก่เศรษฐกิจฐานรากอย่างมาก นำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีของเกษตรกรและชุมชน ซึ่งรัฐบาลมีแนวทางในการดำเนินการที่ชัดเจน และพร้อมจะให้การสนับสนุนแก่ประชาชน ผู้ประกอบการและชุมชนที่มีความพร้อม
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ครม.อนุมัติ 4.74 หมื่นล้าน ให้ กฟผ. ก่อสร้าง ‘โรงไฟฟ้าแม่เมาะ’ ทดแทนเครื่องที่ถูกปลดจากระบบ
- ก.คมนาคม เตรียมเสนอ แก้มติครม. ให้ บขส. ทำธุรกิจ ‘ขนส่งพัสดุภัณฑ์’ ได้
- เห็นชอบ 4 ประเด็น แก้ปัญหา ‘แรงงานต่างด้าวขาดแคลน’ เตรียมเสนอ ครม. พิจารณา