เลขาฯ สผ. เปิดเผยรายละเอียด “COP26” ประชุมโลกร้อนของยูเอ็นช่วง 5 วันที่ผ่านมา ระบุ มีการหยิบยกประเด็นต่าง ๆ มาหารือ เพื่อหวังลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อย่างเข้มข้น
ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช เลขาธิการสำนักงานนโยบาย และแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.)ในฐานะหน่วยประสานงานกลางของประเทศ ภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (COP26) กล่าวถึงการประชุม COP26 ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา ว่า ในพิธีเปิดการประชุม COP26/CMP16/CMA3 อย่างเป็นทางการมีขึ้นเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2564 มีการรับรองวาระการประชุม และกำหนดแนวทางในการทำงาน เพื่อให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์อันเป็นรูปธรรมสำหรับการประชุมครั้งนี้
ประเทศที่เข้าร่วมการประชุมชี้ให้เห็นถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พร้อมเน้นย้ำความสำคัญของการประชุมครั้งนี้ ที่ต้องเร่งหารือในประเด็นสำคัญที่จะนำมาสู่การยกระดับการดำเนินงานด้านการลดก๊าซเรือนกระจก การปรับตัวต่อผลกระทบที่เกิดขึ้น และการสนับสนุนกลไกการดำเนินงาน ที่จะทำให้สามารถบรรลุตามเป้าหมายของความตกลงปารีส
เนื่องจากรายงานทางวิทยาศาสตร์ที่เผยแพร่ออกมาในปีนี้ โดยเฉพาะรายงาน Intergovernmental Panel on Climate Change (IPCC) Working Group I (WG I) contribution to the Sixth Assessment Report ต่างชี้ให้เห็นผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่ทวีความรุนแรงมายิ่งขึ้นในทุกภูมิภาคของโลก และโอกาสที่จะควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณภูมิไม่ให้เกิน 2 หรือ 1.5 องศาเซลเซียส ตามเป้าหมายของความตกลงปารีสเหลือน้อยลงทุกขณะ
ดังนั้น การประชุม COP26/CMP16/CMA3 เป็นโอกาสสำคัญที่ประเทศต่าง ๆ จะร่วมกันกำหนดแนวทางที่จะทำให้เป้าหมายดังกล่าวเป็นจริงได้
ขณะที่ การประชุม World Leaders Summit ที่มีขึ้นระหว่างวันที่ 1-2 พฤศจิกายน 2564 โดยนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรี สหราชอาณาจักร เป็นเจ้าภาพการประชุม มีผู้นำจากประเทศต่าง ๆ จำนวน 117 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทย เข้าร่วมการประชุม
บรรดาผู้นำได้กล่าวถ้อยแถลง แสดงความมุ่งมั่นที่จะร่วมกันต่อสู้กับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมประกาศเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิ เป็นศูนย์ (Net zero GHG emission) และความมุ่งมั่น ลดก๊าซเรือนกระจก และมุ่งสู่การพัฒนาที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ และมีภูมิคุ้มกันต่อสภาพภูมิอากาศ
รวมถึง การประกาศเป้าหมายการสนับสนุนทางการเงินด้านสภาพภูมิอากาศ เช่น อินเดีย ประกาศเป้าหมายที่จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2613 และมีการใช้พลังงานทดแทน 50% ภายในปี 2573
ออสเตรเลีย ประกาศเป้าหมายจะลดก๊าซเรือนกระจก 35% ภายในปี 2573 เยอรมนี ประกาศเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจก 65% ภายในปี 2573 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2588 พร้อมเพิ่มเป้าการสนับสนุนทางการเงิน 600 ล้านยูโร
ญี่ปุ่น ประกาศเป้าหมายจะลดก๊าซเรือนกระจก 46% ภายในปี 2573 และจะสนับสนุนทางการเงิน 10,000 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2569 เกาหลีใต้ ประกาศลดก๊าซเรือนกระจก 40% ภายในปี 2573 อินโดนีเซีย ประกาศเป้าหมาปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในภาคป่าไม้ และการใช้ประโยชน์ที่ดินภายในปี 2573
เวียดนาม ประกาศปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 สเปน ประกาศสมทบทุนให้แก่กองทุนการปรับตัวฯ (Adaptation Fund) จำนวน 30 ล้านดอลลาร์ ในปี 2565 และ นอร์เวย์ ประกาศเพิ่มการสนับสนุนทางการเงิน 2 เท่า เป็นจำนวน 1.6 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2569 เป็นต้น
นอกจากนั้น ประเทศต่าง ๆ ได้ประกาศเข้าร่วมปฏิญญาสำคัญ ที่รับรองในการประชุมครั้งนี้ อาทิ
- The Glasgow Leaders’ Declaration on Forests and Land Use
- Global Coal to Clean Power Transition Statement
- World Leader Summit Statement on the Breakthrough Agenda
- COP26 declaration on accelerating the transition to 100% zero emission cars and vans
ภายหลังพิธีเปิดประชุม COP26/CMP16/CMA3 ประเทศต่าง ๆ ยังเจรจาในประเด็นสำคัญ ที่ต้องเร่งหาข้อสรุปให้ได้ในการประชุมครั้งนี้ อาทิ
- กฎการดำเนินงานของกลไกตลาดและไม่ใช่ตลาดภายใต้ข้อ 6 ของความตกลงปารีส
- แผนการปรับตัวแห่งชาติ (National Adaptation Plan)
- กรอบเวลาสำหรับการดำเนินงานของ NDC
- ผลกระทบจากการใช้มาตรการลดก๊าซเรือนกระจก ของประเทศพัฒนาแล้ว ที่มีต่อประเทศกำลังพัฒนา (Impact on the implementation of response measure)
- แนวทางและการเงิน ที่จะรองรับการสูญเสียและความเสียหาย ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- การบูรณาการของกลไกด้านเทคโนโลยี
- แนวทางการดำเนินงานด้านการเกษตร
- รูปแบบการรายงานบัญชีก๊าซเรือนกระจกของประเทศ
- การรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานตามเป้าหมาย NDC
- รายงานการให้/ได้รับการสนับสนุนทางการเงิน เทคโนโลยี
- การเสริมสร้างขีดความสามารถของประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีเรื่อง แนวทางระดมทุนสนับสนุนการดำเนินงาน ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากประเทศพัฒนาแล้ว ต่อประเทศกำลังพัฒนา ตามเป้าหมายที่กำหนดให้ได้ 100,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี ซึ่งปัจจุบันพบว่า ยังไม่สามารถบรรลุตามเป้าหมายนี้ได้ โดยยังอยู่ในระดับประมาณ 48,700 ล้านดอลลาร์ต่อปีเท่านั้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘วราวุธ’ ร่วมทีม ‘นายก’ ประชุม COP26 แสดงจุดยืนไทย ให้ความสำคัญสูงสุดแก้ปัญหาโลกร้อน
- ‘บิ๊กตู่’ เชิญ ‘ประธานาธิบดีโจ ไบเดน’ ร่วมประชุม ‘เอเปค’ ที่ไทยปีหน้า
- ประมวลภาพ ‘บิ๊กตู่’ พบปะทักทายผู้นำจากทั่วโลก ก่อนการประชุม COP26