Environmental Sustainability

‘Dow’ จับมือ ‘วช.-ม.เกษตร-ม.ธัญบุรี’ หนุนชุมชน สร้างรายได้จาก ‘วัสดุก่อสร้างผสมพลาสติกใช้แล้ว’

กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) จับมือประชาคมวิจัย ได้แก่ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ลงนามบันทึกข้อตกลง “ความร่วมมือภาคีเครือข่าย ขยะทะเล สู่การเพิ่มรายได้ชุมชนระยอง” ร่วมกับกลุ่มชุมชน ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนส่งเสริมอาชีพชุมชนเกาะกก และ หมู่บ้านเอื้ออาทรจังหวัดระยอง (วังหว้า) ถ่ายทอดนวัตกรรมการผลิตวัสดุก่อสร้างจากพลาสติกใช้แล้วให้กับชุมชน หวังสร้างรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิต และลดปัญหาขยะในทะเลไทยอย่างยั่งยืน

วัสดุก่อสร้างที่ได้จากโครงการนี้ จะมีมาตรฐานเทียบเท่ามาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ใช้สำหรับการก่อสร้างภายนอกอาคาร เช่น บล็อกปูพื้น คอนกรีตบล็อก และขอบคันหิน โดยจะใส่พลาสติกทดแทนหิน และทราย ในสัดส่วน 0.4 – 1.5 กิโลกรัมต่อชิ้น หรือประมาณ 6-10% ของน้ำหนักทั้งหมด

S 103915525

S 103915523

ราคาไม่ต่างจากวัสดุทั่วไปและมีความคงทนเทียบเท่าของเดิม คาดว่าจะสร้างรายได้ให้ชุมชนกว่า 400,000-1,500,000 บาท ต่อปี และลดปริมาณขยะพลาสติกได้กว่า 30,000 กิโลกรัมต่อปี เป็นประโยชน์ทั้งด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม

นายฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า ในฐานะที่ ดาว เป็นหนึ่งในบริษัทด้าน Materials Science รายใหญ่ที่สุดของโลก บริษัทตระหนักถึงปัญหาพลาสติกใช้แล้ว ที่หลุดรอดไปสู่สิ่งแวดล้อม และพยายามหาวิธีการต่าง ๆ เข้ามาจัดการอย่างยั่งยืน

ดาว ได้ตั้งเป้าที่จะช่วย “หยุดขยะพลาสติก” โดยมุ่งมั่นจะผลักดันให้พลาสติกใช้แล้วจำนวน 1 ล้านตันจากทั่วโลก ถูกเก็บกลับมาใช้ประโยชน์ หรือ รีไซเคิล ซึ่ง “ความร่วมมือภาคีเครือข่าย ขยะทะเล สู่การเพิ่มรายได้ชุมชนระยอง” เป็นอีกหนึ่งในโครงการสำคัญ ที่จะนำผลงานด้านการศึกษา และงานวิจัยมาใช้ประโยชน์ได้จริง

“เราพร้อมที่จะเป็นฟันเฟืองในการประสานงาน ระหว่างประชาคมวิจัย และกลุ่มชุมชน เพื่อให้โครงการประสบความสำเร็จ”

S 103915532

S 103915527

การผสมพลาสติกใช้ในวัสดุก่อสร้างจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ มีน้ำหนักเบา และลดการใช้วัสดุที่ใช้แล้วหมดไปเช่น ทราย และหิน หากนำก้อนอิฐไปทำเป็นวัสดุปูพื้นนอกอาคาร ก็จะช่วยลดความร้อนของพื้นผิว สามารถเดินหรือทำกิจกรรมในเวลากลางแจ้งได้

ทางด้าน ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการ วช. กล่าวว่า ความร่วมมือภาคีเครือข่าย ขยะทะเล สู่การเพิ่มรายได้ชุมชนระยอง เป็นส่วนหนึ่งของการนำผลงานการวิจัย และนวัตกรรมของ “แผนงานวิจัยท้าทายไทย : ทะเลไทยไร้ขยะ” มาใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม ในการแก้ไข และลดปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากขยะพลาสติก

การนำเทคโนโลยี และนวัตกรรม มาสร้างมูลค่าเพิ่มให้ขยะพลาสติก และสร้างรายได้แก่ชุมชน สร้างเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนในพื้นที่ ก่อให้เกิดการผลักดันนโยบาย และสร้างความตระหนักต่อปัญหาการจัดการขยะในวงกว้าง รวมทั้งสามารถสร้างระบบเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน ที่มุ่งลดของเสีย และใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด

ขณะที่ ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ความร่วมมือภาคีเครือข่าย ขยะทะเล สู่การเพิ่มรายได้ชุมชนระยอง เกิดขึ้นเนื่องจากการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การวิจัยของชาติ เพื่อแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกอย่างครบวงจร

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นหน่วยงาน ซึ่งได้รับจัดสรรทุนวิจัยจากวช. และเป็นผู้บริหารแผนงานวิจัย ท้าทายไทย : ทะเลไทยไร้ขยะ ที่มีเป้าหมาย ในการจัดการกับปัญหาขยะพลาสติกในทะเล และดำเนินการการวิจัยในหลายส่วน อาทิ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีนวัตกรรม ในการรวบรวมจัดเก็บขยะพลาสติกตกค้าง ทั้งทางบก ทางทะเล การติดตามผลกระทบสิ่งแวดล้อม ที่เกิดจากการตกค้างของขยะพลาสติก รวมทั้งนวัตกรรมการนำขยะพลาสติกมาแปรรูป และสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยมีเครือข่ายนักวิจัยของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เป็นผู้ร่วมดำเนินการ

ผศ. ดร. สมหมาย ผิวสอาด อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี กล่าวว่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีในฐานะหน่วยงานวิจัยหนึ่ง ภายใต้ แผนงานวิจัยท้าทายไทย : ทะเลไทยไร้ขยะ ได้วิจัย และออกแบบนวัตกรรมในการนำขยะพลาสติกจากทะเล มาเป็นวัตถุดิบในวัสดุก่อสร้าง ที่ชุมชนสามารถผลิตเพื่อจำหน่ายได้เอง อาทิ กระเบื้องพื้นสนาม และกระถางต้นไม้

S 103915530

S 103915528

นอกจากจะเป็นการกำจัดขยะพลาสติก ยังเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนในระยะยาว เรามีความภูมิใจที่งานวิจัยที่ประชาคมวิจัยได้ร่วมกันทุ่มเท ได้รับการยอมรับ และนำมาใช้งานอย่างกว้างขวาง ผ่านการสนับสนุนจากภาคเอกชน และความพร้อมของกลุ่มชุมชน

นายสำราญ ทิพย์บรรพต ประธานวิสาหกิจชุมชน ส่งเสริมอาชีพชุมชนเกาะกก กล่าวว่า ขอขอบพระคุณประชาคมวิจัย ที่ส่งมอบผลงานวิจัยที่มีประโยชน์ และสามารถส่งเสริมศักยภาพ ให้ทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ทำให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ต่อยอดผลิตภัณฑ์เดิมที่มีอยู่

และขอขอบคุณกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ที่เป็นตัวกลางในการประสานให้ทางกลุ่ม ได้เข้าถึงนวัตกรรมการจัดการปัญหาขยะพลาสติก และร่วมให้การสนับสนุนทั้งในด้านงบประมาณ คำแนะนำ และเครื่องมือ เครื่องจักร ทำให้ชุมชนสามารถยกระดับความรู้ความสามารถในการจัดการปัญหาขยะพลาสติกได้อย่างเป็นรูปธรรม และสร้างรายได้จากผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นจากการนำผลงานวิจัยนี้ไปใช้ประโยชน์

นายสายัณห์ รุ่งเรือง ประธานชุมชน หมู่บ้านเอื้ออาทรจังหวัดระยอง (วังหว้า) กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติและรู้สึกขอบคุณหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานการศึกษา และหน่วยงานเอกชน ซึ่งได้แก่ วช. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี รวมทั้งกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ที่ได้ทำบันทึกข้อตกลงฉบับนี้ ซึ่งเป็นการนำผลงานวิจัยจากภาครัฐ ทำให้ชุมชนสามารถนำมาใช้ต่อยอดเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ซึ่งชุมชนสามารถผลิตใช้ได้เอง มีการทดสอบคุณภาพตามหลักวิชาการ ทำให้เกิดความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภคในการนำผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไปใช้งาน

S 103915531

โครงการนี้จะช่วยส่งเสริมระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนส่งผลให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยเป็นต้นแบบของความร่วมมือในการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีมาแก้ปัญหาด้วยความร่วมมือของชุมชน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและนำไปสู่สิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน

ผู้สนใจสั่งซื้อวัสดุก่อสร้างผสมพลาสติกใช้แล้ว มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สามารถติดต่อได้ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo