ไทยเฮลั่น ! “คณะกรรมการมรดกโลก” อนุมัติ “กลุ่มป่าแก่งกระจาน” ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งล่าสุด
วันนี้ (26 ก.ค.) ที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ 44 มีมติอนุมัติ “กลุ่มป่าแก่งกระจาน” ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ภายใต้เกณฑ์ข้อที่ 10 ด้านความหลากหลายทางชีวภาพ
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า กว่า 6 ปี ที่ไทยมุ่งมั่น ผลักดันพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน ให้เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการมรดกโลก โดยมีการนำเสนอมาแล้วถึง 3 ครั้ง ในปี 2558, 2559 และ 2562 จนเข้าสู่การประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญครั้งที่ 44 ในปีนี้ ที่เป็นการจัดประชุมผ่านระบบทางไกล มีจีนเป็นเจ้าภาพ
สำหรับการประชุมในปีนี้ เป็นที่น่ายินดีว่า พื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ภายใต้เกณฑ์ข้อที่ 10 ด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งนับเป็นความสำเร็จ ในการดำเนินการอนุรักษ์พื้นที่ถิ่นที่อยู่อาศัย ที่มีความสำคัญสูงสุด สำหรับการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในถิ่นกำเนิด รวมไปถึง การเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชนิดพันธุ์พืช และพันธุ์สัตว์ ที่มีคุณค่าโดดเด่นเชิงวิทยาศาสตร์ หรือ เชิงอนุรักษ์ระดับโลก
การอนุมัติดังกล่าว ทำให้พื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน กลายเป็นแหล่งมรดกโลก แห่งที่ 6 ของประเทศไทย และเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ แห่งที่ 3 ของไทย นับตั้งแต่การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง ในปี 2534 และ กลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ในปี 2548
พื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เนื่องจากเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชนิดพันธุ์พืช และพันธุ์สัตว์ ที่ใกล้สูญพันธุ์ และมีคุณค่าโดดเด่นระดับโลก รวมไปถึง เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญของแม่น้ำเพชรบุรี แม่น้ำปราณบุรี และแม่น้ำภาชี
เป็นป่าผืนใหญ่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีเนื้อที่ประมาณ 2.5 ล้านไร่ (4,089 ตารางกิโลเมตร) มีความยาวตั้งแต่เหนือสุด ถึงใต้สุดของพื้นที่ มากกว่า 200 กิโลเมตร โดยไทยในฐานะเจ้าของแหล่ง จะต้องปกป้องรักษาแหล่งที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกให้คงคุณค่าโดดเด่น อันเป็นสากล ไว้ให้ลูกหลานต่อไป
การที่พื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกนี้ นอกจากเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีต่อประเทศ และเป็นความภาคภูมิใจของคนในประเทศแล้ว ยังทำให้คนในประเทศเกิดการตระหนัก รู้สึกเป็นเจ้าของและหวงแหนทรัพยากรที่มีอยู่ด้วย
ประโยชน์หลัก ๆ ของการขึ้นทะเบียนดังกล่าว
- ส่งเสริมการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ ชนิดพันธุ์พืช และพันธุ์สัตว์ ที่มีคุณค่าโดดเด่น เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ และศึกษาวิจัยในระดับสากล
- ยกระดับการอนุรักษ์พื้นที่ ด้วยการบริหารจัดการที่เป็นไปตามมาตรฐานสากล ให้คงคุณค่าของแหล่ง เพื่อส่งต่อไปยังคนรุ่นต่อไป ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งในระดับประเทศ และระดับท้องถิ่น
- ส่งเสริมการสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ โดยเฉพาะด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ การพัฒนาอย่างยั่งยืน และส่งผลดีต่อเศรษฐกิจชุมชน
- สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากกองทุนมรดกโลกได้
ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมที่จะดำเนินการร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนการสร้างสมดุล ในการใช้ประโยชน์จากป่าอย่างยั่งยืน ยกระดับการบริหารจัดการพื้นที่ ให้เป็นมาตรฐานสากลมากขึ้น
รวมทั้งให้ราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน มีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยสอดคล้องกับกฎหมาย นโยบาย มติ และระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า ไทยจะรักษาแหล่งมรดกโลกพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน ให้คงไว้ และสามารถส่งต่อไปยังคนรุ่นหลังสืบไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เปิดฉากประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ครั้งที่ 44 อย่างเป็นทางการ
- ประชุม ‘มรดกโลก’ วันที่ 4 ไทยร่วมตัดสิน ถอด ‘อุทยานแห่งชาติซาลองกา’ พ้นสถานะ ‘ภาวะอันตราย’
- ประชุม ‘มรดกโลก’ วันที่ 7 ‘ไอยูซีเอ็น’ แจ้งเงื่อนไข ไทยดำเนินการคุ้มครอง ‘ดงพญาเย็น-เขาใหญ่’