เมื่อพูดถึง “เกาะเต่า” ผู้คนส่วนใหญ่ มักจะนึกถึงชายหาดสวยงาม น้ำทะเลใส แนวปะการัง และการดำน้ำลึก โดยเกาะแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสถานที่ดำน้ำ ที่มีชื่อเสียงของโลก ในแต่ละปี มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางมาที่เกาะนี้หลายแสนคน
เกาะเต่ายังมีเรื่องราวที่ชวนให้หลงใหลอย่างยิ่งอีกเรื่องหนึ่ง คือ เรื่องราวของสุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ 2 ตัวชื่อ “มันนี่” (Money) สุนัขเพศเมียอายุ 2 ปี และ “แฟนต้า” (Fanta) ลูกชายวัย 9 เดือนของเธอ
มันนี่ และ แฟนต้า ถือเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง เทียบเท่าระดับคนดัง ชาวฮิปสเตอร์ที่มาเที่ยวเกาะเต่า ต่างกระตือรือร้นที่จะพบกับพวกมัน ไม่เพียงแต่เป็นสุนัขที่น่ารัก และมีสุขภาพดี แต่ทั้งคู่ยังมี “หัวใจสีเขียว” อีกด้วย
เรื่องราวของ มันนี่ และแฟนต้า ได้รับการกล่าวถึงโดยคนดัง และบล็อกเกอร์ชาวไทยหลายคนอย่างต่อเนื่องว่า ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี และพวกมันได้แสดงความรักต่อธรรมชาติ ด้วยการเก็บขยะทะเล
นายบุญถิ่น แดนไธสง (ลุงชัย) เจ้าของมันนี่ และ แฟนต้า กล่าวว่า คู่แม่ลูกกลายเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งใน และต่างประเทศ หลังจากกลุ่มวัยรุ่นจ้างเรือลุงชัยไปท่องเที่ยว โดยมีสุนัขทั้งสองตัวติดไปด้วย
“มันนี่ และ แฟนต้า เริ่มล่องเรือไปกับผมตั้งแต่ยังเด็ก ในช่วงแรกมันนี่เพิ่ง 3 เดือน และตอนนี้ทั้งคู่ชินกับการเดินเรือแล้ว “ลุงชัยกล่าว
นักท่องเที่ยวชอบใช้เวลากับมันนี่ และ แฟนต้า และมักจะโพสต์รูปถ่ายของพวกเขา ในช่องทางโซเชียลมีเดีย จนทำให้ทั้งคู่โด่งดังขึ้นไปอีก
สิ่งที่น่าประทับใจที่สุด เกี่ยวกับสุนัขทั้งสอง คือพวกมันได้รับการฝึกฝนให้เก็บขยะทะเล เมื่อเจ้าของโยนขวด หรือกิ่งไม้ ลงในทะเล มันนี่ และ แฟนต้า จะกระโดดลงไปเก็บเศษซากขยะนั้น
หาก มันนี่ และ แฟนต้า พบเห็นเศษขยะในทะเล เช่น ไม้ไผ่ หรือขวด พวกมันจะกระโดดลงจากเรือ และว่ายน้ำไปเก็บ พวกมันเป็น ‘หมาหัวใจสีเขียว’ ที่รักธรรมชาติอย่างแท้จริงตามที่ลุงชัยบอก
เรื่องนี้ทำให้ลุงชัยมีรายได้เพิ่มขึ้นท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 เมื่อเทียบกับคนขับเรือท่องเที่ยวขนาดเล็กคนอื่น ๆ บนเกาะเต่า เรียกว่าต้องขอบคุณน้องหมาทั้งสองตัว มันนี่และแฟนต้า
“ปัจจุบัน เกาะเต่าได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 นักท่องเที่ยวเดินทางมาเข้าเยี่ยมชมไม่ได้ เนื่องจากนโยบายล็อกดาวน์ประเทศ โดยในช่วงก่อนที่จะเกิดการระบาดนั้น มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมากมาเที่ยวที่เกาะนี้ ส่วนใหญ่นิยมดำน้ำ และอยู่นานกว่าหนึ่งสัปดาห์
แต่หลังจากเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว เกาะเต่าก็ไม่มีชาวต่างชาติมาเลย แต่มีนักท่องเที่ยวชาวไทยมาเฉพาะกลุ่มในช่วงวันหยุดเพียง 2-3 วันเท่านั้น สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างมาก ต่อคนขับเรือท่องเที่ยว ขนาดเล็กในเกาะเต่า เนื่องจากพวกเขาขาดรายได้เพื่อความอยู่รอดและดูแลครอบครัว”
อย่างไรก็ตาม ข้อดีของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นกับเกาะเต่า คือ ธรรมชาติได้รับการฟื้นฟู และน้ำทะเลใสสะอาด เหมาะสำหรับการดำน้ำตื้น และดำน้ำลึก สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในเกาะเต่า ได้แก่ อ่าวนางยวน อ่าวม่วง หรือแมงโก้เบย์ อ่าวกล้วยเถื่อนไลท์เฮาส์ อ่าวหินวงพินนาเคิล อ่าวลึก และอ่าวชาร์คเบย์ เป็นต้น
ตั้งแต่เดือนตุลาคม ปีที่แล้ว มีการเปิดตัวแคมเปญ “Koh Tao Better Together” ซึ่งเป็นแคมเปญระดมทุนระหว่าง BIOFIN, UNDP Thailand, ธนาคารกรุงไทย, มูลนิธิรักษ์ไทย และเทศบาลตำบลเกาะเต่า และได้ดำเนินการระดมทุน เพื่อสนับสนุนกลุ่มคนขับเรือท่องเที่ยวขนาดเล็ก ในเกาะเต่า ภายใต้วิธีการ “เงินสดเพื่องาน” เป็นระยะเวลาสามเดือน ทั้งเมื่อเร็ว ๆ นี้ ยังจัดงาน Big Cleaning Day เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวที่จะกลับมาด้วย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ปะการังเทียม ‘ลูกถ้วยฉนวนไฟฟ้า’ พาปลากลับคืน ‘เกาะทะลุ’
- กิจกรรม ‘PTT จิตอาสา’ กับภารกิจ พลิกฟื้นพื้นที่สีเขียว ‘คุ้งบางกะเจ้า’
- ญี่ปุ่นเล็งเปิดทางปล่อยน้ำเสีย แก้ปัญหา ‘ทะเลสะอาดเกินไป’