27
“เมืองอัจฉริยะวังจันทร์วัลเลย์” หรือ Smart City ใกล้ความจริงมากขึ้นเรื่อย ๆ จากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับและการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมในพื้นที่ กลายเป็นศูนย์นวัตกรรมของประเทศ พร้อมกับการพัฒนาแบบอย่างยั่งยืน
“เมืองอัจฉริยะวังจันทร์วัลเลย์” ริเริ่มพัฒนาโดย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ตามนโยบาย Thailand 4.0 ที่กำหนดไว้ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 2561-2580 บนพื้นที่ 3,454 ไร่ อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง เป็นฐานที่ตั้งสำคัญของเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) พื้นที่นวัตกรรมที่รัฐบาลต้องการให้เป็นจุดยุทธศาสตร์เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
ในปี 2564 โครงสร้างพื้นฐานของ “เมืองอัจฉริยะวังจันทร์วัลเลย์” จะถูกพัฒนาให้เสร็จสมบูรณ์ พร้อมเปิดรองรับพันธมิตรและนักลงทุนที่สนใจ โดยคาดว่าจะเปิดบริการเต็มรูปแบบในไตรมาส 3 ปี 2564
ขณะนี้ ปตท. กำลังเร่งสร้าง Ecosystem ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เกี่ยวกับ New S-Curve รวมถึงการแสวงหาพันธมิตร โดยทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางสร้างความร่วมมือในทุกรูปแบบเพื่อร่วมกันพัฒนาให้เป็นพื้นที่ที่มีโครงสร้างพื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์ ที่เอื้อต่อการพัฒนานวัตกรรม
เมืองอัจฉริยะแห่งนี้ ที่ดำเนินการโดย กลุ่ม ปตท. หลังจากเริ่มพัฒนามากว่า 5 ปี โดยตั้งเป้าหมายจะเป็นแหล่งนวัตกรรมของประเทศ และยกระดับการพัฒนาและวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย โดยได้จัดสรรพื้นที่เป็น 3 โซน ได้แก่ พื้นที่เพื่อการศึกษา (Education Zone) พื้นที่เพื่อการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม (Innovation Zone) และพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวก ที่พักอาศัยและสันทนาการ (Community Zone)
ขณะนี้ได้เปิดดำเนินการในส่วน Education zone แหล่งพัฒนาองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และนวัตกรรมของประเทศ ได้แก่ “โรงเรียนกำเนิดวิทย์” (KVIS) สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) ศูนย์การเรียนรู้ป่าวังจันทร์ ซึ่งเป็นพื้นที่แหล่งเรียนรู้ธรรมชาติ และจัดตั้งศูนย์เรียนรู้เกษตรนวัต สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านเกษตรสมัยใหม่ ให้แก่นักเรียนและผู้ที่สนใจทั่วไป
แหล่งบ่มเพาะทรัพยากรมนุษย์
ความรู้ความสามารถด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ถือว่าเป็นพื้นฐานสำคัญของประเทศ ด้วยจุดเริ่มต้นจาก”มูลนิธิโรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยอง” ที่ต้องการให้มีโรงเรียนด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อรองรับความต้องการพัฒนาประเทศ โดยกลุ่มปตท.สนับสนุนด้านงบประมาณในการก่อสร้างและดำเนินการโรงเรียน
ต่อมา พระกรุณาธิคุณของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานชื่อโรงเรียนว่า “โรงเรียนกำเนิดวิทย์” (KVIS) อันหมายถึง “โรงเรียนที่เป็นแหล่งความรู้” เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2557 โดยโรงเรียนเริ่มเปิดภาคเรียนครั้งแรกในปีการศึกษา 2558
ปัจจุบัน โรงเรียนกำเนิดวิทย์ มีนักเรียน 216 คนเป็นโรงเรียนแบบประจำ และได้รับทุนการศึกษา โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งคัดเลือกนักเรียนที่มีผลการเรียนดีเลิศ เพื่อศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อบ่มเพาะให้นักเรียนมีความเป็นเลิศด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ทั้งนี้ ได้ตั้งเป้าหมายให้นักเรียนที่จบการศึกษาจากโรงเรียนกำเนิดวิทย์ สามารถเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกได้ และกลับมาต่อยอดการพัฒนาและวิจัยในประเทศ
นายวิทวัส สวัสดิ์-ชูโต ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีและวิศวกรรม กล่าวว่านักเรียนที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนกำเนิดวิทย์ขณะนี้เป็นที่ยอมรับจากสถาบันการศึกษาชั้นนำในต่างประเทศ ทั้งญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้
VISTEC กับการเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ
นอกจาก โรงเรียนกำเนิดวิทย์แล้ว ในพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ ยังมี สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) เป็นมหาวิทยาลัยวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เปิดสอนหลักสูตรนานาชาติในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก มุ่งเน้นงานวิจัยชั้นแนวหน้า เพื่อสร้างบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีชั้นเลิศในระดับโลก ให้สามารถสร้าง และใช้องค์ความรู้ ในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
นอกจากกลุ่ม ปตท. จะเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งแล้ว ในเวลาต่อมายังได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมจากพันธมิตรร่วมอุดมการณ์ ซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำของประเทศ โดยเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาการศึกษาในด้านนี้เช่นกัน
ความสำเร็จของ VISTEC เห็นได้จากการได้รับการจัดอันดับจาก Nature Index ให้ขึ้นสู่อันดับ 1 มหาวิทยาลัยของประเทศไทยที่มีผลงานวิจัยชั้นเลิศในทุกสาขาวิชาด้าน Natural Sciences ทั้ง Physical Sciences, Life Sciences, Chemical Sciences และ Earth & Environmental Sciences
ส่วนในระดับภูมิภาคนั้นได้รับการจัดให้อยู่ในอันดับที่ 4 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) โดยอันดับที่ 1-3 เป็นของมหาวิทยาลัยจากประเทศสิงคโปร์ รวมถึงการครองอันดับที่ 1 ของประเทศไทย เป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน ในสาขา Chemical Sciences
ปัจจุบัน VISTEC มีนักศึกษาที่ได้รับทุนการศึกษารวม 248 คน เป็นระดับปริญญาโท 23 คน หรือคิดเป็น 9% และระดับปริญญาเอก 225 คน หรือคิดเป็น 91%
นายวิทวัส กล่าวว่า VISTEC จะกลายเป็นศูนย์นวัตกรรมของประเทศ โดยมุ่งเน้นไปที่สาขาที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง โดยแบ่งเป็น 4 ภาควิชา วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมโมเลกุล วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมด้านพลังงาน วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมด้านไบโอโมเลกุล และ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านสื่อสาร
“นอกจากจะเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาแล้ว ยังเป็นการสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการพัฒนาเทคโนโลยีทุกด้าน”
ป่าวังจันทร์ : ศูนย์เรียนรู้ด้านการปลูกและจัดการป่าไม้
นอกจากพื้นที่ด้านการเรียนการสอน พัฒนาและวิจัยนวัตกรรมแล้ว ในพื้นที่วังจันทร์ยังมีการปรับปรุงสภาพแวดล้อมภายในให้เกิดความยั่งยืน จึงมีการจัดตั้ง “ศูนย์การเรียนรู้ป่าวังจันทร์”
เป็นการพัฒนาต่อเนื่องมาจากโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ 1 ล้านไร่ ที่ปตท.ดำเนินการมาในช่วงปี 2537-2545 แต่ต่อมาจึงตั้ง “สถาบันปลูกป่า ปตท.” ขึ้นมา เพื่อดำเนินการปลูกป่า และฟื้นฟูในพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ มีการจัดสรรพื้นที่ครอบคลุม 351.35 ไร่ โดยแบ่งเป็น 3 โซน คือ พื้นที่ปลูกป่าเพื่อการเรียนรู้ พื้นที่แหล่งน้ำ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้กับป่าในพื้นที่ พื้นที่ก่อสร้างอาคารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
พื้นที่ปลูกป่าในพื้นที่โครงการได้นำร่องเข้าร่วมโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจ ตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand-Voluntary Emission and Reduction: T-VER) สาขาป่าไม้ โดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) เป็นผู้ขึ้นทะเบียนในการเข้าร่วมโครงการ
นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์ไม้หายาก, ไม้ป่าเศรษฐกิจ ไม้ผลธรรมชาติและพืชอาหารตามธรรมชาติ รวมถึงเป็นพื้นที่ แหล่งเรียนรู้ ดำเนินการศึกษาวิจัยภายใต้ความร่วมมือกับ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้แก่นิสิต นักศึกษา นักเรียน ชุมชนโดยรอบ และประชาชนผู้สนใจมาศึกษาหาความรู้ พักผ่อนหย่อนใจ ชื่นชมทัศนียภาพธรรมชาติ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งเพาะชำกล้าไม้สายพันธุ์ที่ดี อีกด้วย
ศูนย์เรียนรู้เกษตรนวัต : แหล่งเรียนรู้ต้นแบบเพื่อการเกษตรสมัยใหม่
ศูนย์เรียนรู้เกษตรนวัต สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา เป็นศูนย์การเรียนรู้ในการพัฒนาพื้นที่เกษตรโดยใช้แนวคิดวนเกษตร เกษตรผสมผสาน ใช้พืชเศรษฐกิจที่สามารถสร้างรายได้ทั้งในระยะสั้น ปานกลาง และระยะยาว ที่จะยกระดับผลผลิตทางการเกษตรด้วยระบบ Smart Farming มีเป้าหมายในการสร้างองค์ความรู้ด้านเกษตรกรรม ที่นำเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่ (Innovation Agriculture) เข้ามาช่วยทำให้เกษตรกรสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต โดยจะใช้พื้นที่แห่งนี้เป็นศูนย์เรียนรู้ต้นแบบแก่เกษตรกร นักเรียน และผู้สนใจ จึงนับเป็นการพัฒนาพื้นที่สำหรับสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ ให้กับประเทศไทยอีกแห่งหนึ่ง
พื้นที่เพื่อการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม (Innovation Zone) และ พื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวก ที่พักอาศัยและสันทนาการ (Community Zone)
จากเป้าหมายการสร้าง “วังจันทร์วัลเลย์” เป็นเมืองอัจฉริยะ ในพื้นที่ Innovation Zone พื้นที่ที่จะพัฒนาเป็น ศูนย์วิจัย พัฒนา และนวัตกรรม มีศูนย์ข้อมูล (Data Center) ส่วนกลาง และอาคารศูนย์ปฏิบัติการอัจฉริยะ (Intelligent Operation Center : IOC) ซึ่งมีการวางโครงข่ายเชื่อมโยงกับระบบอัจฉริยะทั้งหมดพื้นที่ เพื่อบริหารจัดการเมืองอัจฉริยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย IOC เปิดอย่างเป็นทางการแล้วในช่วงต้นเดือน พ.ย. 2563
IOC : ศูนย์ปฏิบัติการอัจฉริยะ
นายวิทวัส กล่าวว่า กลุ่ม ปตท. ร่วมกับพันธมิตรได้พัฒนาพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ เพื่อรองรับ 5G Play Ground และ UAV Regulatory Sandbox ซึ่งเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม และเทคโนโลยี 5G ขณะนี้มีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมพัฒนาธุรกิจและทดสอบระบบหลายราย
อาทิ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ร่วมพัฒนาให้พื้นที่วังจันทร์วัลเลย์สามารถบินโดรนเพื่อการทดลอง สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เข้ามาร่วมบริหารและจัดสรรคลื่นความถี่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด สนับสนุนการทดสอบ 5G ในพื้นที่เพื่อใช้งานในเชิงพาณิชย์
นอกจากนี้ เอกชนที่เข้ามาร่วมทดสอบ คือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (เอไอเอส) ทดสอบและ พัฒนาโดรนวิศวกรรม เพิ่มประสิทธิภาพการบำรุงรักษาสินทรัพย์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (ทรู) ทดสอบและพัฒนาโดรนลาดตระเวนติดกล้องที่ควบคุมและเชื่อมต่อรับส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ ผ่านเครือข่ายอัจฉริยะ True5G และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จํากัด (มหาชน) (ดีแทค) พัฒนาการทดสอบสู่กล้องตรวจการณ์อัจฉริยะ 5G สำหรับควบคุมจากทางไกลและถ่ายทอดข้อมูลความละเอียดสูงให้การสั่งการรวดเร็วและภาพที่คมชัด
“IOC จะเป็นศูนย์ปฏิบัติการทั้งหมดในวังจันทร์วัลเลย์ เพื่อให้เป็นเมืองอัจฉริยะอย่างแท้จริง ทั้งการดำเนินชีวิตอยู่และการวิจัยและพัฒนา”
ในส่วนของ Community Zone อยู่ระหว่างการพัฒนาให้เป็นพื้นที่รองรับความเป็นอยู่ เอื้ออำนวยต่อการพัฒนานวัตกรรมของนักวิจัยและครอบครัว นักเรียน นักศึกษา และผู้ประกอบการที่ทำงานในพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ ประกอบด้วย สถานที่พบปะสังสรรค์ ศูนย์การค้า สถานที่ออกกำลังกาย พื้นที่สีเขียวเพื่อความยั่งยืน โรงแรม และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมถึงโรงเรียนนานาชาติ โรงเรียนสอนภาษา
จากจุดเริ่มต้นเมื่อหลายปีก่อนจนถึงปัจจุบัน “เมืองอัจฉริยะวังจันทร์วัลเลย์” ใกล้เสร็จสมบูรณ์ หากเสร็จสมบูรณ์ทั้งโครงการ “เมืองอัจฉริยะวังจันทร์วัลเลย์” ก็จะกลายเป็น “Smart City Thailand” อย่างสมบูรณ์แบบแห่งแรกของประเทศ
อ่านข่าวเพิ่มเติม :
- ปตท.เท 3,000 ล้านพัฒนา EECi เปิดต่างชาติเช่าพื้่นที่ต่อ
- ปตท.ผนึกพันธมิตร ประกาศความพร้อม ‘วังจันทร์วัลเลย์’
- ‘Aspern Smart City’ สู่วังจันทร์วัลเลย์ เมืองรักษ์โลก