Environmental Sustainability

ตัดใจทิ้งยอดขายปีละ 300 ล้านชิ้น ‘อิเกีย’ เลิกขายถ่านชาร์จไฟไม่ได้ ต.ค. 64

อิเกีย เลิกขายถ่านชาร์จไฟไม่ได้ ตุลาคม 2564 แม้จะมียอดขายถึง 300 ชิ้น ทั่วโลก ในปี 2562 ที่ผ่านมา เพื่อให้ลูกค้าหันมาใช้ถ่านแบบชาร์จไฟได้ ลดปริมาณขยะให้โลก

นายลาร์ช สเวนสัน ผู้อำนวยการฝ่ายความยั่งยืน อิเกีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเม็กซิโก เปิดเผยว่า อิเกีย เลิกขายถ่านชาร์จไฟไม่ได้ หรือ แบตเตอรีอัลคาไลน์แบบชาร์จไฟไม่ได้ รุ่น ALKALISK/อัลกาลิสค์ ภายในเดือนตุลาคม ปี 2564 โดยเป็นการยกเลิกการจำหน่ายในทุกสาขาของอิเกีย ทั่วโลก

ถ่าน

ทั้งนี้ อิเกีย มุ่งหวังให้ลูกค้าที่ใช้แบตเตอรีอัลคาไลน์แบบชาร์จไฟไม่ได้อยู่เป็นประจำ หันมาใช้แบตเตอรีแบบชาร์จไฟได้ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว และยังช่วยลดปริมาณขยะให้กับโลกอีกด้วย

“เรายินดีเป็นอย่างยิ่งกับการยกเลิกการจำหน่ายแบตเตอรีอัลคาไลน์แบบชาร์จไฟไม่ได้ รุ่น ALKALISK/อัลกาลิสค์ ที่จะเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปในสโตร์อิเกียทั่วโลก พร้อมๆ กับการหันมาส่งเสริมการใช้แบตเตอรีแบบชาร์จไฟได้ให้มากขึ้น” ลาร์ช สเวนสัน กล่าว

นอกจากนี้ อิเกีย ยังคาดหวังว่า จะเป็นก้าวที่ช่วยส่งเสริม ให้ผู้คนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปลี่ยนมาเลือกใช้แบตเตอรีแบบชาร์จไฟได้ ซึ่งสามารถยืดอายุการใช้งาน ทั้งผลิตภัณฑ์และวัสดุ และยังช่วยลดปริมาณขยะ รวมถึงประหยัดกว่าแทน

ขณะเดียวกัน แบตเตอรีแบบชาร์จไฟได้ รุ่น LADDA/ลัดด้า ของอิเกีย ยังสามารถชาร์จไฟได้สูงสุดถึง 500 ครั้ง และเป็นแบตเตอรี NiMH จากการวิจัยเชิงเปรียบเทียบ เพื่อประเมินวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ แสดงให้เห็นว่า แบตเตอรี NiMH แบบชาร์จไฟได้ ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า เทียบกับแบตเตอรีอัลคาไลน์ เมื่อใช้กับอุปกรณ์ที่ใช้ในครัวเรือนทั่วไป ที่ใช้พลังงานสูง และต้องชาร์จไฟอย่างสม่ำเสมอ เช่น ของเล่น ไฟฉาย ลำโพงหรือกล้องถ่ายรูปแบบพกพา

ถ่านชาร์จได้

ผลการวิจัยพบว่า เมื่อชาร์จไฟไปแล้ว 10 ครั้ง แบตเตอรีแบบชาร์จไฟได้ จะปล่อยก๊าซเรือนกระจก ออกมาน้อยกว่า แบตเตอรีอัลคาไลน์ เมื่อใช้พลังงานเท่ากัน และหลังจากที่ชาร์จไป 50 ครั้ง จึงได้ข้อสรุปว่า ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวมของแบตเตอรีชนิด NiMH มีน้อยกว่า หรือเท่ากับ ผลกระทบที่เกิดจากการใช้แบตเตอรีอัลคาไลน์

ในปี 2562 อิเกีย จำหน่ายแบตเตอรีอัลคาไลน์ไปทั้งหมด 300 ล้านชิ้นทั่วโลก เฉพาะสโตร์อิเกียทั้ง 9 แห่งที่เปิดให้บริการในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย ลูกค้าซื้อแบตเตอรีแบบชาร์จไฟไม่ได้ รุ่น ALKALISK/อัลกาลิสค์ ไปกว่า 3.4 ล้านห่อ

ดังนั้น หากลูกค้าอิเกียทุกคน เปลี่ยนจากแบตเตอรีแบบชาร์จไฟไม่ได้ รุ่น ALKALISK/อัลกาลิสค์ มาใช้แบตเตอรีชาร์จไฟได้ รุ่น LADDA/ลัดด้า สำหรับอุปกรณ์กินไฟสูง และชาร์จไฟใช้ประมาณ 50 ครั้ง จะสามารถลดขยะโลก ไปได้กว่า 5,000 ตันต่อปี

ขณะที่ ซัพพลายเออร์จะอาศัยช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านนี้ ปรับตัวรับพฤติกรรมการใช้งานที่เปลี่ยนแปลงไป ส่วนสโตร์อิเกียแต่ละแห่ง ก็จะมีเวลาเพียงพอ ให้จำหน่ายสินค้าคงคลังที่มีอยู่ โดยกระบวนการยกเลิก การจำหน่ายแบตเตอรี รุ่น ALKALISK/อัลกาลิสค์ จะจบสมบูรณ์พร้อมกันทั่วโลกภายในเดือนตุลาคม 2564

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo