Environmental Sustainability

กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดโคราช ชู ‘ปลูกแบบไม่เผา’ ช่วยผลผลิตดี-รายได้เพิ่มขึ้น

กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดโคราช ชู “ปลูกแบบไม่เผา” ลดค่าปุ๋ย ช่วยผลผลิตดี และรายได้เพิ่มขึ้น 

กลุ่มเกษตรกรปลูกข้าวโพด ในตำบลเสมาและตำบลโนนคำ อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา ยืนยัน เกษตรกรทุกวันนี้ไม่เผาตอซัง หันมาใช้วิธีไถกลบหลังเก็บเกี่ยว ส่งผลให้ดินดีขึ้น ลดการใช้ปุ๋ย ช่วยเพิ่มผลผลิตต่อไร่ ลดฝุ่นละออง สิ่งแวดล้อมของชุมชนดีขึ้น ยืนยันระบบตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งปลูกช่วยสร้างความเชื่อมั่นข้าวโพดไม่ได้มาจากพื้นที่รุกป่าและหยุดการเผา

ปลูกแบบไม่เผา

ผู้ใหญ่ภูสิทธิ์ จอสูงเนิน ตัวแทนกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ปัจจุบัน เกษตรกรมีความรู้มากขึ้นและตระหนักดีว่า การเผาหลังเก็บเกี่ยวทำลายหน้าดิน คุณภาพและอินทรียวัตถุในดินลดลง ไม่เหมือนเกษตรกรสมัยก่อนที่มักใช้วิธีเผาตอซังหลังเก็บเกี่ยว เพราะขาดเครื่องมือเหมาะสมและต้นทุนสูง

ปลูกแบบไม่เผา

ปลูกแบบไม่เผา ประหยัดค่าปุ๋ย ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น

ทุกวันนี้ กลุ่มเพื่อนเกษตรกรปลูกข้าวโพดในพื้นที่ตำบลเสมาและตำบลโนนคำ อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา ครอบคลุมพื้นที่ปลูกข้าวโพด 2,500 ไร่ได้เปลี่ยนมาใช้วิธีไถกลบแทนการเผากันมากกว่า 4-5 ปีแล้ว ช่วยให้ดินมีธาตุอาหารและชุ่มชื้นขึ้น เพราะตอซังย่อยสลายเป็นธาตุอาหารของพืช  เพิ่มอินทรียวัตถุในดิน ช่วยประหยัดค่าปุ๋ยบำรุงดิน ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น

“ประโยชน์จากการไถกลบ เป็นวิธีบำรุงดินที่ง่ายและสะดวก ช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุให้กับดินโดยตรง ผลผลิตข้าวโพดเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1-1.2 ตันต่อไร่ และชุมชนยังได้อากาศที่ดีขึ้น เพราะปลูกแบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” ผู้ใหญ่ภูสิทธิ์กล่าว

ปลูกแบบไม่เผา

เกษตรกรที่ขายผลผลิตระบบตรวจสอบย้อนกลับ

ผู้ใหญ่ภูสิทธิ์ เป็นหนึ่งในเกษตรกรที่ขายผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ผ่านระบบตรวจสอบย้อนกลับถึงพื้นที่ปลูก ซึ่งเป็นระบบที่พัฒนาโดยกลุ่มธุรกิจการค้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ (Feed Ingredients Trading Business Group : FIT) เครือซีพี ซึ่งสามารถยืนยันว่าผลผลิตข้าวโพด มาจากการแหล่งปลูกที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่บุกรุกตัดไม้ทำลายป่า

กลุ่มของผู้ใหญ่ภูสิทธิ์ยังเป็นต้นแบบเกษตรกรที่ปลูกข้าวโพดแบบปลอดเผา ได้แนะนำเคล็ดลับความสำเร็จเพิ่มผลผลิตต่อไร่ว่า หลังเก็บเกี่ยวควรไถกลบในช่วงหน้าดินยังอ่อน และปล่อยทิ้งไว้ช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อให้เกิดกระบวนการย่อยสลายในดิน ต่อจากนั้นในการเตรียมแปลงปลูกให้ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ หรือมูลสัตว์ก่อนปลูกอีกครั้ง เพื่อช่วยเพิ่มปริมาณธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของพืช

ปลูกแบบไม่เผา

แอป ฟ.ฟาร์ม เครื่องมือช่วยเกษตรกร

นอกจากนี้ FIT ยังได้พัฒนาแอปพลิเคชั่น “ฟ.ฟาร์ม” (For Farm) ขึ้นเพื่อเป็นแพลตฟอร์มทำหน้าที่เสมือนผู้ช่วยเกษตรกร ตั้งแต่การกำหนดวันปลูก ดูแลแปลงปลูกจนถึงวันเก็บเกี่ยว รวมข่าวสารความรู้และคำแนะนำต่างๆ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการปลูก รวมถึงสามารถติดตามราคารับซื้อของโรงงานอาหารสัตว์ได้ทุกวันอีกด้วย ช่วยให้ผู้ใหญ่ภูสิทธิ์สามารถเปิดดูข้อมูลน้ำฝนเพื่อกำหนดวันเตรียมแปลง และวันปลูกข้าวโพดได้แม่นยำขึ้น และติดตามราคารับซื้อผลผลิตรายวัน

ปลูกแบบไม่เผา

ขณะเดียวกัน บริษัทยังนำเทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียมมาช่วยติดตาม ว่าเกษตรกรที่ลงทะเบียนในระบบตรวจสอบย้อนกลับ หากพบว่าเกษตรกรอยู่ในพื้นที่เผาหลังเก็บเกี่ยว บริษัทฯ จะส่งเจ้าหน้าที่ไปให้คำแนะนำการปลูกที่ปลอดเผา รวมทั้งเพิ่มความเชื่อมั่นในระบบตรวจสอบย้อนกลับ ด้วยการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาช่วย เพิ่มความโปร่งใสในการตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งปลูกข้าวโพดอีกด้วย

1342725

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo