กลุ่ม ปตท. ปลูกป่าเพิ่ม 2 ล้านไร่ เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ “ปรับ เปลี่ยน ปลูก” สู่สังคมคาร์บอนต่ำ “Net Zero Emissions” ปี 2050
ท่ามกลางสภาพอากาศที่แปรปรวน อันเกิดจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซเรือนกระจกอื่น ๆ ซึ่งเป็นผลจากกิจกรรมของมนุษย์ มีแนวโน้มว่า สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป จะส่งผลกระทบมากขึ้นทุกทีกลุ่ม ปตท. ได้ให้ความสำคัญและได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว
โดยได้จัดตั้ง คณะทำงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ G-NET (PTT Group Net Zero Task Force) มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ โดยตั้งเป้าหมาย การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2050 (Net Zero Emissions 2050)
ปลูกป่า 2 ล้านไร่ MOU ร่วมผนึกภาคีเครือข่าย
ล่าสุด ได้ผนึกภาครัฐและภาคีเครือข่าย เพื่อเร่ง ปลูกป่าเพิ่มอีก 2 ล้านไร่ โดยได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) รวม 3 ฉบับ ได้แก่
- โครงการพัฒนาพื้นที่ปลูก บำรุงรักษา และระบบนิเวศป่าไม้ ร่วมกับกรมป่าไม้
- โครงการพัฒนาพื้นที่ปลูก บำรุงรักษา และระบบนิเวศป่าไม้ กับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
- โครงการปลูกและบำรุงรักษาป่าชายเลน เพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิต กับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
โดยมี นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำ สอดรับนโยบายรัฐบาล ที่กำหนดลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ปี ค.ศ. 2065
ปลูกป่าใหม่ ฟื้นฟูป่าเก่า มุ่งสู่ Net Zero Emissions 2050
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าการผนึกกำลังในครั้งนี้ ของบริษัทในกลุ่ม ประกอบด้วย บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) และ บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด หน่วยงานภภาครัฐ และภาคีเครือข่าย เพื่อร่วมกันดำเนินงานทั้งภาคทฤษฏีและภาคปฏิบัติ
โดยจะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิชาการ สนับสนุนการวิจัย การปลูกป่าใหม่ และฟื้นฟูป่าเก่า ป่าอนุรักษ์ ป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติ เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า ป่าชุมชน และป่าชายเลน เพื่อเพิ่มพื้นที่ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และเป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอนรวม 2 ล้านไร่ รวมไปถึงส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่น ในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่า และความหลากหลายทางชีวภาพ
7 บริษัทในกลุ่ม ปตท. ได้หารือกันว่าในเมื่อประเทศไทย ได้ประกาศ Net Zero ปี ค.ศ. 2065 เราต้องดำเนินการให้เร็วกว่าเพื่อช่วยค่าเฉลี่ยของประเทศ ให้บรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งไว้ และมองว่า การปลูกป่าเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นประโยชน์มากที่สุด เพราะไม่เพียงแต่ดูดซับคาร์บอนจากการเพิ่มพื้นที่ป่าเท่านั้น แต่ยังประโยชน์ในเรื่องน้ำ เพราะมีป่าย่อมมีน้ำ รวมไปถึงประโยชน์แก่ชุมชนโดยรอบอีกด้วย
กลยุทธ์ ปรับ เปลี่ยน ปลูก ตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน
การปลูกป่าเพิ่ม 2 ล้านไร่ ของกลุ่ม ปตท. เป็น 1 ในกลยุทธ์ “ปรับ เปลี่ยน ปลูก” ที่มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ด้วยการทำงานเชิงรุก
ปรับ กระบวนการผลิตค้นคว้าพัฒนาเทคโนโลยีใหม่
เปลี่ยน สู่ธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พลังงานสะอาด ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อส่งเสริมและสร้าง EV Ecosystem ในประเทศ รวมทั้งธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน ตลอดจนเพิ่มปริมาณการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการ
ปลูกป่าเพิ่ม 2 ล้านไร่
ในจำนวนนี้เป็นการดำเนินงานของ ปตท. 1 ล้านไร่ และบริษัทใน กลุ่ม ปตท. อีก 1 ล้านไร่ ภายในปี 2030 ป่าปลูกเหล่านี้จะช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 4.15 ล้านตันต่อปี
ร่วมมือกัน สำเร็จได้
ขณะที่ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังพัฒนาและเดินไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง การจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ตามเป้าหมายไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากภาครัฐ เอกชน และประชาชนร่วมมือกันก็สามารถสำเร็จได้ โดยเฉพาะเรื่องการปลูกป่าซึ่งจะต้องไปสำรวจว่าพื้นที่ไหนที่เหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุด
“มีการวิจัยออกมาแล้วว่า ป่าชายเลนจะสามารถดูดซับคาร์บอนได้มากกว่าป่าทั่วไป โดยป่าทั่วไปสามารถปลูกต้นไม้ได้ราว 200 ต้นต่อไร่ ความสามารถในการดูดซับ 2-3 ตันต่อไร่ ขณะที่ป่าชายเลนปลูกต้นไม้ได้ราว 700 ต้น และดูดซับคาร์บอนได้ 9.7 ตันต่อไร่ต่อปี เรามีพื้นที่ป่าชายเลนราว 3 แสนไร่ ตรงนี้จะช่วยได้มาก”
คุณช่วยเก็บ เราช่วยปลูก
นอกจากนี้ กลุ่ม ปตท. ยังสร้างการมีส่วนร่วมและความตระหนักรู้ ในเรื่องการปลูกป่าและดูแลสิ่งแวดล้อมให้กับคนไทย ผ่านแอปพลิเคชันเกม “คุณช่วยเก็บ เราช่วยปลูก” โดยต้นไม้ในเกมทุกต้นที่คนไทยร่วมกันเก็บและดูแลจะถูกนำมารวบรวมและลงแปลงปลูกจริงในพื้นที่ปลูกทั่วประเทศ
กลุ่ม ปตท. จึงขอเชิญชวนทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศไทย ผ่านแอปพลิเคชันเกม ซึ่งสามารถดาวน์โหลดทั้งในระบบ IOS และ Android ได้แล้ววันนี้
ปตท. มุ่งมั่นและพร้อมเป็นกำลังสำคัญของประเทศ เพื่อร่วมขับเคลื่อนประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ผ่านการดำเนินงานในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของ คนไทย รวมทั้งเพิ่มพื้นที่สีเขียวและพลิกฟื้นผืนป่าให้อุดมสมบูรณ์ เพื่อนำพาประเทศบรรลุเป้าหมาย Net Zero Emissions ที่ตั้งไว้ไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘กลุ่ม ปตท.’ ผนึกภาครัฐ-ภาคีเครือข่าย เร่งปลูกป่าเพิ่ม 2 ล้านไร่ มุ่งบรรลุเป้า Net Zero Emissions ปี 2050
- ปตท. จัดเวที Tech Talk ‘Future Energy & Net Zero’ ฉายภาพ เทคโนโลยี-พลังงานแห่งอนาคต
- ‘อรรถพล’ ซีอีโอปตท. ร่วมเวทีสุดยอดผู้นำ ร่วมขับเคลื่อนประเทศสู่สังคมคาร์บอน
