Technology

ส่องเทรนด์ 5 กลยุทธ์ไอทียุค Next Normal

วีเอ็มแวร์ แนะ 5 กลยุทธ์ไอที ยุค Next Normal มัลดิคลาวด์ แอปพลิเคชัน เวอร์ช่วลเน็ตเวิร์ค การทำงานได้ทุกที่ทุกเวลามาแรง แต่ต้องไม่ลืมความปลอดภัย

เมื่อวิกฤติโควิด-19 กำลังผ่านพ้นไปพร้อมกับความปกติใหม่ (New Normal) กำลังถูกแทนที่ด้วยความปกติถัดไป (Next Normal) ซึ่งเทคโนโลยีดิจิทัลกลายเครื่องมือสื่อสารต่อวิถีชีวิตและการขับเคลื่อนธุรกิจ ดังนั้น ทุกองค์กรจึงควรเตรียมพร้อมกับการกำหนดกลยุทธ์ไอทีเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในก้าวต่อไป

กลยุทธ์ไอที

นายนครินทร์ เทียนประทีป ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ยิบอินซอย จำกัด ได้แนะนำ 5 กลยุทธ์ไอทีเพื่อรับการเปลี่ยนแปลงและก้าวให้ทันยุค Next Normal ดังนี้

  • เดินหน้าต่อกับมัลติ-คลาวด์ 

แม้องค์กรจะยังจำกัดตัวเองไว้ที่ไฮบริดคลาวด์ แต่มัลติ-คลาวด์ดูจะเป็นคำตอบที่ตรงจุดหากต้องการโครงสร้างพื้นฐานที่ยืดหยุ่นจริงในอนาคต เพื่อรับมือปริมาณงานและอุปกรณ์สื่อสาร (Network Edge) ภายใต้แอปพลิเคชันหลากหลาย โดยคอนเทนเนอร์และไมโครเซอร์วิสมากขึ้น

ความท้าทายจึงอยู่ที่ การสร้างสภาพแวดล้อมเวอร์ชวลไลเซชัน ที่ผสานการทำงานของคลาวด์ทุกประเภท

การใช้ ซอฟต์แวร์ ในการบริหารทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ได้แก่ เซิร์ฟเวอร์ สตอเรจ และเน็ตเวิร์ค เพื่อมุ่งสู่ Hyper-Converged ภายใต้การจัดการแบบเวอร์ชวล ถือเป็นหัวใจหนึ่งของความสำเร็จในการพัฒนาคลาวด์

LINE ALBUM technologysocial media ๒๒๐๘๒๙ 0

 

  • ไม่ตกยุคเรื่องแอปพลิเคชัน

เชื่อว่าองค์กรขณะนี้ กำลังเผชิญการจัดการปริมาณงานจากแอปพลิเคชัน ที่มาจากสภาพแวดล้อมการทำงานเดิม บนเวอร์ชวลแมชชีน และคลาวด์-เนทีฟ

เทคโนโลยีคอนเทนเนอร์ (Container) จะเข้ามาช่วยให้เกิดความมั่นคงในการพัฒนาแอปพลิเคชัน ตามแนวทาง DevOps ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน

ตัวแอปพลิเคชันที่มีน้ำหนักเบา ทำให้ย้ายตัวเองไปยังคลาวด์ประเภทต่าง ๆ ได้ง่าย โดยเฉพาะเทคโนโนลยีไมโครเซอร์วิสในการเขียน Docker File ที่ระบุคำสั่งและการใช้งานในการสร้างอิมเมจ เพื่อไปรันบนคอนเทนเนอร์แบบครบสมบูรณ์ในตัวเองจึงมีความปลอดภัยสูง เป็นต้น

นครินทร์ New 2
นครินทร์ เทียนประทีป
  • เหนือกว่าด้วยเวอร์ชวลเน็ตเวิร์ค

อุปกรณ์เน็ตเวิร์คแบบแยกส่วนการทำงาน (Desperate Network Stack) กำลังถูกแทนที่ด้วยแพลตฟอร์มแบบเวอร์ชวล เพื่อให้องค์กรมองเห็นเสมือนเป็นระบบเน็ตเวิร์คเดียวกัน เกิดการจัดการและรักษาความปลอดภัยที่ง่ายและมีประสิทธิภาพกว่าด้วยเครื่องมือเดียว โดยรองรับการทำงานได้หลากหลาย ทั้งเวอร์ชวลแมชชีน คอนเทนเนอร์ ดาต้าเซ็นเตอร์ และคลาวด์

ตัวอย่างเช่น เทคโนโลยี VMware NSX ที่มาพร้อมการจัดการไฟร์วอลล์แบบเบ็ดเสร็จในระดับเวอร์ช่วลแมชชีน จะช่วยลดปัญหาคอขวดของการบริหารเส้นทางจราจรของปริมาณงาน และข้อมูลของไฟร์วอลล์หลักที่เชื่อมออกไปยังภายนอก ขึ้นสู่คลาวด์ หรือภายในดาต้าเซ็นเตอร์เอง

LINE ALBUM technologysocial media ๒๒๐๘๒๙ 2

  • รับมือการทำงานได้จากทุกที่

วีเอ็มแวร์เผยว่า 74% ของพนักงานมีการทำงานแบบไฮบริดร่วมกัน ระหว่างเข้าออฟฟิศ และทำงานจากบ้าน ขณะที่ 84% จัดหาเครื่องมือที่ชาญฉลาดสำหรับการทำงานแบบดิจิทัลมากขึ้น

ดังนั้น องค์กรจึงต้องมีโซลูชันที่ดีพอในการจัดการทรัพยากรที่รวดเร็ว การปกป้องข้อมูลและควบคุมการเข้าถึงแอปพลิเคชันจากอุปกรณ์ต่างๆ ได้ดี

  • ครบทุกมิติด้วยความปลอดภัย

โลกดิจิทัล ทำให้องค์กรต้องมีมุมมองความปลอดภัยไอทีที่กว้างขึ้น วีเอ็มแวร์แนะว่า การสร้างระบบความปลอดภัยที่เข้มแข็งจะต้องครอบคลุม 5 เป้าหมายสำคัญ ได้แก่

LINE ALBUM technologysocial media ๒๒๐๘๒๙

1. เครื่องใช้งานปลายทาง (Endpoint)

2. ปริมาณงาน (Workloads) ที่เกิดจากแอปพลิเคชันหรือกระบวนการพัฒนา (DevOps)

3. คลาวด์

4.เน็ตเวิร์ค

5.ระบบระบุตัวตน (Identity System)

ส่วน 3 แนวทางการจัดการให้เกิดประสิทธิภาพสูง คือ 1. จัดหาอุปกรณ์ที่ฝังระบบความรักษาปลอดภัยในตัว 2.ปรับเปลี่ยนระบบความปลอดภัยที่เคยแยกส่วนทำงาน (Silo) มาเป็นการบริหารแบบองค์รวม (Unified) และ 3.ไม่จำกัดการสอดส่องเฉพาะภัยคุกคามไซเบอร์ (Threat Centric)

ด้วย 5 กลยุทธ์ไอทีดังกล่าว จะทำให้องค์กรสามารถเดินหน้าธุรกิจยุคดิจิทัลได้อย่างมั่นคงและปลอดภัย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo