กลายเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แล้วสำหรับลำโพงอัจฉริยะ โดยล่าสุดมีตัวเลขจาก ComScore และ Statista พบว่า 20% ของครัวเรือนในสหรัฐอเมริกาที่มีไวไฟมีลำโพงอัจฉริยะนี้ใช้งานแล้วอย่างน้อย 1 เครื่อง
โดยอุปกรณ์ที่แข่งขันกันในตลาดสหรัฐอเมริกาในขณะนี้มีอยู่สามเจ้าหลัก ๆ นั่นคือ Amazon Echo, Google Home และ Apple HomePod ซึ่งบริการที่มีให้ใช้งานนั้นประกอบด้วยฟังเพลง สั่งอาหาร รับข่าวสารต่าง ๆ ไปจนถึงเป็นเพื่อนพูดคุย คอยตอบคำถาม
สำหรับการเติบโตที่เห็นได้ชัดเจนเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ผ่านมา โดยเป็นการโตอย่างก้าวกระโดด จากเดือนพฤศจิกายนที่มีการใช้งานอยู่ที่ 12% เป็น 17% ในเดือนธันวาคมอย่างรวดเร็ว ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ การใช้งานอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 10% มาโดยตลอด
ตัวเลขดังกล่าวสอดคล้องกับผลวิจัยของมหาวิทยาลัยนอร์ธอีสเทิร์น ร่วมกับแกลลอป (Gallup) ที่ได้มีการทำสำรวจพบว่า อเมริกันชนนั้นหันมาใช้บริการปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น AI ในแอปพลิเคชันนำทาง AI ในสมาร์ทโฟน AI ในแอปพลิเคชันร่วมเดินทาง และ AI ในอุปกรณ์สมาร์ทโฮมต่าง ๆ ซึ่งลำโพงอัจฉริยะก็เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ทำงานโดยมี AI อยู่เบื้องหลังด้วยเช่นกัน
แต่เบื้องหลังของการซื้อลำโพงอัจฉริยะมาใช้งานนี้ อาจมีสิ่งที่แตกต่างออกไป เมื่อเทียบกับ AI ตัวอื่น ๆ นั่นคือ 64% ระบุว่าพวกเขาซื้อมาเพราะต้องการใช้มันควบคุมอุปกรณ์อัจฉริยะต่าง ๆ ภายในบ้าน และอีก 66% ระบุว่า พวกเขาต้องการมีเพราะต้องการเอนเตอร์เทนครอบครัวและเพื่อน ๆ
อย่างไรก็ดี นักวิจัยพบด้วยว่า การมีอุปกรณ์ดังกล่าวภายในบ้านได้ทำให้พฤติกรรมบางอย่างของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป นั่นคือ 30% ใช้เวลากับทีวีน้อยลง แต่หันมาฟังเพลงมากขึ้น รวมถึงข่าวและรายการต่าง ๆ ทางวิทยุ – พ็อดแคสต์
อีกสิ่งหนึ่งที่พบคือ 44% ของผู้บริโภคชาวอเมริกันที่มีลำโพงอัจฉริยะในบ้านหันมาสั่งการด้วยเสียงกับ AI บนสมาร์ทโฟนกันมากขึ้นด้วย
นอกจากนี้ 51% ยังยอมรับว่า พวกเขาใช้งานลำโพงอัจฉริยะนานขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนแรกที่ซื้อมา และมี 33% บอกว่าพวกเขาใช้งานมันเท่าเดิม ไม่ได้เพิ่มขึ้นหรือลดลงแต่อย่างใด แต่ที่น่าสนใจก็คือ เมื่อถามบ้านที่ยังไม่มีลำโพงอัจฉริยะ 50% เผยว่าพวกเขามีแผนจะซื้ออย่างน้อยหนึ่งเครื่องในปีนี้ด้วย
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ BusinessInsider, TechCrunch, AndroidAuthority