โตโยต้าเตรียมวางจำหน่ายรถยนต์ที่สามารถสื่อสารกับยานพาหนะอื่น ๆ ได้ผ่านเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายระยะสั้น (Short-range wireless technology) แล้ว โดยเป็นแผนสำหรับตลาดสหรัฐอเมริกาที่โตโยต้าจะส่งรถยนต์พร้อมชิปสื่อสารนี้ลงตลาดภายในอีกสามปีข้างหน้า และเชื่อว่าความสามารถดังกล่าวจะช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนลงได้อย่างมีนัยสำคัญ
ปัจจุบัน โตโยต้าเป็นแบรนด์ที่ขายดีอันดับสามในตลาดสหรัฐ ตามการรายงานของดีทรอยต์นิวส์ ส่วนสาเหตุที่ทำให้บริษัทมีแผนจะพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าว คงต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 2559 กับรัฐบาลของบารัก โอบามา ที่เคยนำเสนอแนวคิดที่ให้ผู้ผลิตรถยนต์ติดตั้งเทคโนโลยี ที่ทำให้รถยนต์สามารถสื่อสารกันได้บนมาตรฐานกลาง พร้อมชี้ว่าการปรับใช้เทคโนโลยีในลักษณะนี้จะช่วยป้องกันการชนได้มากถึง 80%
สำหรับแผนการดังกล่าวคาดว่าจะเป็นการติดตั้งชิพลงในรถยนต์ของโตโยต้า และรถยนต์ยี่ห้อเล็กซัส ในปี 2564 ด้วยเทคโนโลยีดังกล่าวช่วยให้รถยนต์สามารถส่งข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งของรถ และความเร็วของรถให้กับรถยนต์คันอื่น ๆ ที่อยู่รอบข้าง ซึ่งการมีข้อมูลดังกล่าวนี้ คาดว่าจะช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุได้
ระบบสื่อสารระยะสั้นที่โตโยต้าจะนำมาใช้นี้มีชื่อว่า DSRC ซึ่งจะทำให้รถยนต์สามารถเตือนผู้ขับขี่ได้ก่อนที่จะเกิดการชน ซึ่งนอกจากโตโยต้าแล้ว บริษัทเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ก็เป็นอีกค่ายหนึ่งที่มีการนำเสนอเทคโนโลยีดังกล่าวของทางค่ายในชื่อ คาดิลแลค ซีทีเอส (Cadillac CTS)
ในระหว่างนี้ ทั้งโตโยต้า และเจนเนอรัล มอเตอร์สได้เริ่มเดินสายโปรโมตเทคโนโลยีดังกล่าวกับหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงกระตุ้นให้ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ หันมาพัฒนาเทคโนโลยีนี้ร่วมกันแล้ว และการนำเสนอเทคโนโลยีของตนเองออกมาเป็นรายแรก ๆ ก็อาจทำให้เทคโนโลยีของโตโยต้า หรือเจนเนอรัล มอเตอร์ส กลายเป็นมาตรฐานของวงการยานยนต์ได้ด้วยนั่นเอง
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ AFP, DetroitNews
