‘ปตท.’ ลุยธุรกิจดิจิทัล ตั้งบริษัท ‘MekhaTech’ รับกระแสมาเร็ว ยุคโควิด-19

ปตท. รุกกลยุทธ์ด้านดิจิทัล ตั้งบริษัท MekhaTech (เมฆาเทคโนโลยี) ลงทุนธุรกิจ ที่ให้บริการด้านการจัดการข้อมูลต่าง ๆ ผ่านระบบ “คลาวด์” (Cloud) ทั้งการจัดเก็บ ประมวลผล และจัดการข้อมูล ให้กับองค์กรภายนอก รวมถึงกลุ่ม ปตท. เอง การทำงานยุคดิจิทัลต้องพึ่งพาข้อมูลมหาศาล กลายเป็น New Normal ของโลก ที่ถูกเร่งโดยสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับวิถีชีวิตของผู้คนทั่วโลก แม้จะเป็นวิกฤติสำหรับบางธุรกิจ แต่กลับกลายเป็นโอกาสของบางธุรกิจ

คลาวด์ เซอร์วิส เป็นธุรกิจที่นับว่ามีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด โดยเฉพาะจากผู้เล่นรายใหญ่ระดับโลก แต่ขนาดของตลาด ก็ยังโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะในประเทศไทยนั้น International Data Center (IDC) คาดว่าในปี 2567 ตลาดคลาวด์ในประเทศจะมีมูลค่าอยู่ที่ 15,000 ล้านบาท เติบโตมากกว่า 2 เท่า จากปี 2561 ที่ 6,300 ล้านบาท จึงเป็นตลาดที่น่าสนใจจากผู้เล่นรายใหญ่ระดับโลก ที่ล้วนมองหาพันธมิตรในแต่ละพื้นที่ เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน

ปตท. รุกกลยุทธ์ด้านดิจิทัล ตั้งบริษัท เมฆาเทคโนโลยี จำกัด (MekhaTech) ลงทุนธุรกิจด้านดิจิทัล

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา คณะกรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. อนุมัติเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2564 ให้ บริษัท อัลฟ่า คอม จำกัด (Alpha Com) จัดตั้ง บริษัท เมฆาเทคโนโลยี จำกัด (MekhaTech) โดย Alpha Com ถือหุ้นทั้งหมด ด้วยทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท

MekhaTech จัดตั้งขึ้นเพื่อลงทุนในธุรกิจให้บริการ ระบบสารสนเทศหลากหลายรูปแบบ ผ่านอินเทอร์เน็ต (Public Cloud) พัฒนา Solution ผ่านระบบ คลาวด์ เช่น ในด้าน การให้บริการโครงสร้างพื้นฐานของระบบ IT (IT Infrastructure) การพัฒนาแอปพลิเคชันให้ทันสมัย (Application Modernization) และเทคโนโลยีที่สนับสนุนการทำงานสมัยใหม่ (Modern Workplace) ภายใต้เทคโนโลยี Microsoft ที่มีความปลอดภัยสูง ตอบโจทย์การทำงานของคนยุคใหม่ และช่วยสร้างความแข็งแกร่งด้าน IT ให้กับองค์กร สามารถนำข้อมูลต่าง ๆ ไปพัฒนาเป็นแอปพลิเคชันใหม่ ๆ หรือผลิตภัณฑ์ ให้ออกมาตรงใจลูกค้าได้ในอนาคต โดยธุรกิจดังกล่าวเป็นไปตามกลยุทธ์ ปตท. ด้านดิจิทัล

ธุรกิจดิจิทัลของ ปตท. จัดเป็นกลุ่ม New Business ที่นอกเหนือจากธุรกิจพลังงานตามวิสัยทัศน์ใหม่ Powering Life with Future Energy and Beyond เพื่อตอบรับเทรนด์ และความต้องการของประเทศ ตามทิศทางการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดย MekhaTech ถือเป็นอีกหนึ่งในธุรกิจดิจิทัลของกลุ่ม ปตท.

จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้การพัฒนาด้านดิจิทัลเป็นไปอย่างรวดเร็ว ปตท. ก็มองเห็นว่า นี่เป็นโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ธุรกิจด้านดิจิทัลมาแน่นอน

ตอนนี้เรามีธุรกิจคลาวด์ ชื่อว่า บริษัท เมฆาเทคโนโลยี หรือ MekhaTech คำว่า ‘เมฆา’ มาจาก ‘เมฆ’ พอโควิดระบาด คนก็อาศัยดิจิทัลมากขึ้น ดิจิทัลจะมาเร็วขึ้น เราอยู่ในธุรกิจนี้ด้วย เราก็มีโอกาส

สำหรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจของ MekhaTech นายอรรถพล กล่าวว่า มีการให้บริการเช่าพื้นที่ และยังมีโซลูชันด้วย ไม่ใช่แค่การเช่าพื้นที่อย่างเดียว

ใครจะเช่าพื้นที่เก็บดาต้า เราจะไม่ให้พื้นที่เช่านะ เรามี Solutions เพราะซอฟต์แวร์ มี Solutions ที่สามารถนำ data นั้นมาต่อยอดได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น ให้ด้วย

นายอรรถพล กล่าวว่า อีกธุรกิจที่คาดว่าจะตามมาหลังโควิด-19 คือ เซ็นเซอร์ เป็นระบบสั่งการที่ไม่ต้องใช้คน แต่สั่งผ่านตัวเซ็นเซอร์

MekhaTech ได้หาโอกาสทางธุรกิจร่วมกับ บริษัท พีทีทีเรส จำกัด (PTT RAISE) ผู้ดำเนินธุรกิจด้านนวัตกรรม หุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติ รวมถึงระบบบริหารจัดการข้อมูล เพื่อต่อยอดความร่วมมือ ในฐานะบริษัททางเทคโนโลยีของกลุ่ม ปตท. สร้างความร่วมมือเพื่อต่อยอดในการดำเนินธุรกิจร่วมกัน และให้บริการกับกลุ่มลูกค้าจากหลากหลายอุตสาหกรรม

นอกจาก IDC แล้ว Gartner บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาด้านไอทีชั้นนำของโลก ประเมินว่า ภาพรวมธุรกิจให้บริการ คลาวด์ คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ในปี 2562-2568 จะเติบโตเฉลี่ยปีละ 21%

ความต้องการพื้นที่เพื่อจัดเก็บ และจัดการ ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ที่มีอัตราเติบโตอย่างมาก และยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต จากการขยายตัวของสังคมออนไลน์ ส่งผลให้การใช้งาน คลาวด์ คอมพิวติ้ง กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวัน และการทำงานในยุคดิจิทัล กำลังกลายเป็นเมกะเทรนด์ของโลก

Gartner ยังระบุอีกว่า การระบาดของโควิด-19 เป็น ปัจจัยเร่งการเปลี่ยนแปลง เช่น ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ การเรียนและทำงานผ่านระบบออนไลน์ จากปัจจัยดังกล่าว จึงเป็นโอกาสดีที่จะเข้าลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีรายได้หลักจากการให้บริการ คลาวด์ เซอร์วิส ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางเทคโนโลยี เพื่อให้บริการที่มากกว่าการจัดเก็บข้อมูลอย่างปลอดภัยโดย ไม่ต้องมีเซิร์ฟเวอร์ หรือ Serverless

จุดเด่น คือ ผู้ให้บริการมีรายได้ที่สม่ำเสมอจากค่าบริการสมาชิกแบบรายเดือน หรือ Subscription ทำให้สามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง หรือ Recurring Income

ปัจจุบันธุรกิจคลาวด์ คอมพิวติ้ง มีส่วนแบ่งในตลาดซอฟต์แวร์โดยรวมเพียง 30% ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่าในยุคปัจจุบันเทคโนโลยี และนวัตกรรมมีส่วนสำคัญอย่างมากกับการดำเนินชีวิตของผู้คน และยังเป็นธุรกิจที่ได้รับผลเชิงบวกจากโควิด-19 และมีความโดดเด่นมากท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจแบบในยุค New Normal

ดังนั้น การลงทุนทางธุรกิจในมิติใหม่ ๆ ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มมูลค่า และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ดียิ่งขึ้น แต่จะช่วยยกระดับทักษะบุคลากร ที่มีศักยภาพสูง ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ พร้อมผลักดันองค์กรให้เติบโต ท่ามกลางระบบนิเวศนวัตกรรม ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง

อ่านข่าวเพิ่มเติม: