มูลค่าการใช้จ่ายไอที ทั่วโลก การ์ทเนอร์ เผยปี 2564 สูงแตะ 4 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 8.4% จากปี 2563 ส่วนใหญ่มาจากการลงทุนเริ่มธุรกิจดิจิทัลใหม่
นายจอห์น-เดวิด เลิฟล็อค รองประธานฝ่ายวิจัย การ์ทเนอร์ อิงค์ เปิดเผยว่า แนวโน้ม มูลค่าการใช้จ่ายไอที ทั่วโลก ปี 2564 สูงแตะ 4.1 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 8.4% จากปี 2563 โดยแหล่งที่มาของเงินทุน เป็นการลงทุนเพื่อเริ่มธุรกิจดิจิทัลใหม่ จากแผนกธุรกิจอื่นๆ นอกแผนกไอที และคิดเป็นต้นทุนการผลิตหรือต้นทุนการขาย แทนต้นทุนด้านไอที
ตัวเลขดังกล่าว สะท้อนว่า ไอทีไม่เพียงแต่ปรับโฉมรูปแบบการดำเนินงานขององค์กรไปสู่สิ่งใหม่ ๆ แต่ยังมีส่วนสำคัญในการส่งมอบ และเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ นอกเหนือจากการพลิกบทบาทจากการทำงานเบื้องหลังไปสู่ส่วนหน้าของธุรกิจแล้ว ไอทียังเปลี่ยนต้นทุนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้กลายเป็นแหล่งเงินทุนใหม่ ๆ อาทิ ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาอุปกรณ์ การติดตามตรวจสอบ และบางครั้งตัดต้นทุนบางอย่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เพื่อให้องค์กรมุ่งเน้นในสิ่งที่สร้างรายได้
จากแนวโน้มดังกล่าว การ์ทเนอร์ คาดว่า การใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศทุกเซกเมนต์ จะเติบโตต่อเนื่องไปถึงปี 2565 โดย อุปกรณ์ดีไวซ์จะเติบโตสูงสุด (14%) ขณะที่ซอฟต์แวร์ระดับองค์กรเติบโต (10.8%) เนื่องจากองค์กรต่าง ๆ หันมาให้ความสำคัญในการพัฒนานวัตกรรม และปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงานระยะไกล เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ทีมงาน
สำหรับในประเทศไทย พบว่า มูลค่าการใข้จ่ายด้านไอที ปี 2564 เพิ่มสูงขึ้น 4.9% แบ่งเปฺ็น การใช้จ่ายลงทุนด้าน ดาต้าเซ็นเตอร์ เพิ่มขึ้น 5.4% ซอฟต์แวร์ระดับองค์กร เติบโต 13.2% อุปกรณ์ดีไวซ์ เติบโต 11.3% บริการด้านไอที เพิ่มขึ้น 1% และบริการด้านการสื่อสาร เติบโต 1.6%
ขณะที่ มูลค่าการใข้จ่ายด้านไอที ปี 2564 ทั่วโลก เพิ่มขึ้น 8.4% มาจากการลงทุน ดาต้าเซ็นเตอร์ เพิ่มขึ้น 7.7% ซอฟต์แวร์ระดับองค์กร เติบโต 10.8% อุปกรณ์ดีไวซ์ โต 14% บริการทางด้านไอที ขยายตัว 9% และบริการด้านการสื่อสาร เติบโต 4.6%
หนึ่งในตัวอย่างที่เห็นชัดเจน คือ องค์กรให้ความสำคัญเพิ่มมากขึ้น กับทั้งประสบการณ์ และความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน ซึ่งเป็นแนวทางการขับเคลื่อนการลงทุนด้านเทคโนโลยีในด้านต่าง ๆ แห่งอนาคต อาทิ โซเชียลซอฟต์แวร์ และแพลตฟอร์มทำงานร่วมกัน และซอฟต์แวร์การบริหารทุนมนุษย์ในองค์กร (HCM)
แม้ความพยายามในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และการประหยัดต้นทุนจะยังคงมีอยู่ เนื่องจากความแน่นอนทางเศรษฐกิจที่มากขึ้นในปี 2564 แต่สิ่งที่ ซีไอโอ ให้ความสำคัญตลอดในช่วงเวลาที่เหลือของปี คือ การเร่งดำเนินการตามแผนธุรกิจดิจิทัล เพื่อยกระดับการดำเนินงาน ขยายและเปลี่ยนแปลงคุณค่าในการดำเนินงานของบริษัท
ในปี 2563 ที่ผ่านมา การลงทุนด้านไอทีเป็นไปตามสภาวะการณ์ที่จำเป็น เพื่อเร่งเปิดใช้ระบบการทำงานจากระยะไกล ให้พนักงานภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ ในขณะที่รูปแบบการทำงานไฮบริดนั้นเกิดขึ้น ซีไอโอ จะมุ่งให้ความสำคัญไปกับการใช้จ่ายไอที ที่ก่อให้เกิดนวัตกรรม ไม่ใช่เพียงทำงานให้สำเร็จลุล่วง
อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของกลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ๆ และกลุ่มไอทีในประเทศต่าง ๆ ยังคงมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ทำให้เกิดการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในรูปแบบ K-Shape จากมุมมองในระดับอุตสาหกรรม ภาคการเงินการธนาคาร หลักทรัพย์และการประกันภัย จะฟื้นตัวกลับมา ในระดับเดียวกับช่วงก่อนการระบาดเมื่อต้นปี 2564 ขณะที่กลุ่มค้าปลีกและภาคการขนส่ง จะยังไม่ฟื้นตัวจนถึงปี 2566
การใช้จ่ายด้านไอที ในภูมิภาคละตินอเมริกา คาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวในปี 2567 ขณะที่ประเทศจีน กลับมาอยู่ในระดับสูง เช่นเดียวกับปี 2562 ส่วนภูมิภาคอเมริกาเหนือ และยุโรปตะวันตก คาดว่าจะฟื้นตัวได้ช่วงปลายปีนี้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- หุ้น COM7 ร้านค้าปลีกไอที โตระเบิดสวนวิกฤติ!
- สินค้าไอทีโต – 5G หนุน ‘CPW’ เดินหน้าเปิดสาขาเพิ่ม 7 แห่งดันปี 64 โต 20%
- อาชีพดาวรุ่ง! เงินเดือนสายงานไอที เริ่มต้น 15,000 – 650,000 ต่อเดือน