Technology

เทสล่าถอดออปชัน ‘Full Self-Driving’ อ้างทำผู้บริโภคสับสน

อีลอน มัสก์ ซีอีโอเทสล่า (ภาพจากเอเอฟพี)
อีลอน มัสก์ ซีอีโอเทสล่า (ภาพจากเอเอฟพี)

เทสล่าประกาศถอดออปชัน “Full Self-Driving” ออกจากเว็บเพจของบริษัทแล้ว หลังซีอีโออย่างอีลอน มัสก์ระบุว่า มันเป็นฟีเจอร์ที่สร้างความสับสนมากกว่าจะเป็นผลดีต่อโปรดักซ์

สำหรับการถอดฟีเจอร์ดังกล่าวออกนั้น อีลอน มัสก์ได้อ้างถึงผลการศึกษาของ Thatcham Research ร่วมกับ Euro NCAP และ Global NCAP ในหัวข้อ Testing Automation ที่พบว่า 71% ของผู้ที่ต้องการซื้อรถในปัจจุบันเชื่อว่าพวกเขาสามารถซื้อรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง (self-driving car) ได้แล้ว และ 11% เชื่อว่า หากเปิดใช้ฟีเจอร์เหล่านี้ขณะขับบนทางด่วน พวกเขาสามารถหลับได้เป็นระยะเวลาสั้น ๆ ได้นั่นเอง

ทั้งนี้ แบรนด์ที่ผู้บริโภคเชื่อว่าพัฒนารถ self-driving car ได้สำเร็จแล้วมี 3 แบรนด์หลัก ๆ คือ เทสล่า (40%) บีเอ็มดับเบิลยู (27%) และออดี้ (21%) ขณะที่ผู้บริโภคในอังกฤษถึง 1 ใน 5 อ้างว่าสื่อการตลาดทำให้พวกเขาเชื่อว่าระบบดังกล่าวนี้สามารถควบคุมพวงมาลัย เบรกและความเร็วของรถยนต์ได้อัตโนมัติ ทำให้พวกเขามั่นใจว่าจะสามารถนั่งพักและปล่อยให้รถขับได้ด้วยตัวเอง

ผลการศึกษานี้ได้ทำการสำรวจผู้เป็นเจ้าของรถในจีน ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สเปน อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา จำนวน 1,567 คน

อย่างไรก็ดี ในความเป็นจริง ระบบออโตไพล็อทของเทสล่า ยังต้องคอยเตือนให้เจ้าของรถวางมืออยู่บนพวงมาลัยเป็นระยะอยู่ รวมถึงเทสล่าก็เคยมีลูกค้าที่เสียชีวิตจากการเปิดใช้ฟีเจอร์นี้แล้วไม่ได้วางมือบนพวงมาลัยมาแล้วหลายรายด้วย โดยเทสล่าได้ชี้แจงทุกครั้งว่า ระบบของรถยนต์แจ้งเตือนให้ลูกค้าวางมือบนพวงมาลัยแล้วหลายครั้ง แต่เจ้าของรถไม่ปฏิบัติตามทำให้เกิดความสูญเสียในที่สุด

Avatar photo