นักวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเสตต์หรือ MIT ประกาศอีกหนึ่งความสำเร็จกับการพัฒนาอุปกรณ์ที่สามารถอ่านการเคลื่อนไหวของอวัยวะต่าง ๆ ภายใต้ใบหน้ามนุษย์และแปลออกมาเป็นคำพูดได้ โดยอุปกรณ์นี้อาจมีรูปร่างคล้ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปบ้าง แต่ในอนาคตคาดว่ามันจะถูกนำไปประยุกต์ให้มีขนาดเล็กลง และผนวกเข้ากับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ รวมถึงอาจใช้งานร่วมกับผู้ช่วยดิจิทัลอย่างสิริ (Siri) หรือกูเกิล แอสซิสแทนต์ (Google Assistant) ได้ด้วย
ระบบการทำงานของเจ้าเครื่องนี้คือการจับสัญญาณการเคลื่อนไหวของอวัยวะต่าง ๆ บนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อ กระดูก ฯลฯ ที่เคลื่อนไหวอยู่ภายในใบหน้า และใช้ปัญญาประดิษฐ์ช่วยแปลงค่าออกมาเป็นคำพูด โดยหากใครยังนึกภาพไม่ออกว่ามันทำงานอย่างไร อาจพิจารณาได้จากคลิปนี้
สำหรับสิ่งประดิษฐ์ดังกล่าว ทีมวิจัยได้นำไปทดสอบในสถานการณ์ต่าง ๆ มาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็นลองถามเวลาแบบไม่ออกเสียง หรือบอกใบ้ให้กับเพื่อนที่เล่นหมากรุกถึงวิธีเอาชนะคู่แข่ง ฯลฯ
อาร์นาฟ คาเปอร์ (Arnav Kapur) หัวหน้าทีมวิจัย และนักศึกษาระดับปริญญาโทของ MIT กล่าวว่า แรงบันดาลใจในการพัฒนาอุปกรณ์ดังกล่าวมาจากความสนใจอยากเชื่อมต่อมนุษย์และเครื่องจักรเข้าหากัน เหตุที่กล่าวเช่นนั้นเนื่องจากมนุษย์ทุกวันนี้น้อยคนที่จะสามารถแยกชีวิตส่วนตัวกับชีวิตบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือออกจากกันได้ ส่งผลให้เราผูกติดกับหน้าจอทั้งวัน แต่ก็ต้องยอมรับว่าการใช้งานโทรศัพท์มือถือนั้นยุ่งยากและขัดจังหวะในการทำงานต่าง ๆ มากพอสมควร เพราะกว่าจะใช้งานได้ เราต้องหาเครื่องให้เจอ จากนั้นต้องปลดล็อกตัวเครื่อง ก่อนจะเปิดแอปพลิเคชัน และป้อนคำค้นหาที่เราต้องการลงไป จึงจะได้มาซึ่งผลลัพธ์
การคิดค้นแอปพลิเคชันนี้ขึ้นมาจึงเปรียบเสมือนการสร้างประสบการณ์ในการติดต่อสื่อสารกับระบบคอมพิวเตอร์แบบใหม่ ที่ใช้งานไม่ยุ่งยาก และยังสามารถสอบถามข้อมูลต่าง ๆ ได้ไม่ต่างจากเดิมอีกด้วย
อนาคต ถ้าแนวคิดนี้ถูกนำไปพัฒนาต่อ คาดว่าเราน่าจะมีของเล่นใหม่ ๆ ออกมาให้เล่นกันอีกมากแน่นอน
เรียบเรียงจาก MIT
