เกิดเหตุโศกนาฏกรรมเมื่อรถยนต์ไร้คนขับของอูเบอร์ได้ขับรถชนหญิงวัย 49 ปีรายหนึ่งเสียชีวิตขณะข้ามถนนในรัฐอริโซน่า โดยถือเป็นการชนมนุษย์จนเสียชีวิตเป็นครั้งแรกของโลกของรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบอัตโนมัติด้วย ล่าสุดทางบริษัทได้ระงับการทดสอบระบบของรถอัตโนมัติในทวีปอเมริกาเหนือทั้งหมดแล้ว
เหตุการณ์ที่น่าเสียใจดังกล่าวเกิดขึ้นในเมืองเทมพี เมื่อช่วงค่ำของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยตำรวจเมืองเทมพีกล่าวว่าพบร่างของเอเลน เฮอร์เบิร์ก วัย 49 ปีถูกชนโดยรถอัตโนมัติของอูเบอร์จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมาหลังนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งแน่นอนว่าอุบัติเหตุครั้งนี้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในธุรกิจรถอัตโนมัติ ซึ่งมีค่ายอูเบอร์ อัลฟาเบ็ท (บริษัทแม่ของกูเกิล) และเจเนรัล มอเตอร์ ทำการทดสอบอยู่ เนื่องจากธุรกิจดังกล่าวถือได้ว่าเป็นขุมทรัพย์ใหม่ที่หลายคนจับตาว่าจะมีมูลค่านับพันล้านเหรียญสหรัฐ กับเทคโนโลยีที่ถูกอ้างว่าปลอดภัยและลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุได้มากกว่าการให้มนุษย์ขับรถ
โดยรายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า เอเลน เฮอร์สเบิร์ก ได้จูงจักรยานข้ามถนนนอกทางม้าลาย ในช่วงเวลาประมาณ 22.00 น.ของคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาบนถนนขนาดสี่เลนสายหนึ่งย่านชานเมืองของเมืองเทมพี และถูกชนโดยรถยนต์อัตโนมัติของอูเบอร์ที่วิ่งมาด้วยความเร็ว 40 ไมล์ หรือ 64 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีพนักงานควบคุมอยู่หลังพวงมาลัยด้วย
ปัจจุบันมีรัฐที่อนุญาตให้รถอัตโนมัติของอูเบอร์วิ่งทดสอบได้นั้นประกอบด้วยรัฐอริโซน่า พิตต์สเบิร์ก และโตรอนโต ซึ่งในตอนนี้ การทดสอบทั้งหมดถูกระงับแล้ว และคาดว่าอุบัติเหตุดังกล่าวจะทำให้ผู้มีอำนาจตามกฎหมายชะลอการนำเทคโนโลยีรถอัตโนมัติมาวิ่งบนท้องถนนในอนาคตด้วย และเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทางการรัฐอริโซน่าได้ออกมาแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของเฮอร์สเบิร์ก พร้อมกับกล่าวว่าจะให้ความสำคัญต่อชีวิตประชาชนเป็นอันดับแรก
โดยมีการคาดการณ์กันเมื่อก่อนหน้านี้ว่า รถอัตโนมัติจากค่ายเทคโนโลยีจะสามารถลงวิ่งบนท้องถนนได้อย่างเป็นทางการในอีกสองปีข้างหน้า หรือก็คือปี 2563 โดยในขณะนี้มีหลาย ๆ รัฐในสหรัฐอเมริกาเริ่มออกกฎระเบียบใหม่สำหรับรถยนต์ดังกล่าวแล้ว และครอบคลุมไปถึงการรับชำระค่าโดยสารด้วย
