Technology

‘นวัตกรรม IR-รังสีร่วมรักษา’ แม่นยำ ฟื้นไว ไร้แผล เพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วยไทย

ศูนย์รังสีร่วมรักษาศิริราช ร่วมกับภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ร่วมเวที SiCOE Forum 2025 x SDGs เพิ่มทางเลือกการรักษาด้วยเทคโนโลยี และนวัตกรรม IR ชงรัฐ ขยายสิทธิ์รักษาสู่ผู้ป่วยในโรงพยาบาลทุกภูมิภาค 

อ.นพ.บุญฤกษ์ แสงเพชรงาม ประธานศูนย์รังสีร่วมรักษาศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า ได้ร่วมกิจกรรม SiCOE Forum 2025 x SDGs ณ ศาลาศิริราช ๑๐๐ ปี โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งถือเป็นกิจกรรมประจำปี ที่จะนำความก้าวหน้า ในเทคโนโลยี และนวัตกรรมทางการแพทย์ผสมผสานเทคนิคการผ่าตัดที่มีความทันสมัยในการ รักษาผู้ป่วย มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

S 41934901

ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในการเปิด นวัตกรรมของหมอไออาร์ (นวัตกรรม IR ) ภายใต้สโลแกน แม่นยำ ฟื้นไว ไร้แผล เพื่อลดภาระของผู้ป่วย พร้อมทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัว ในการเข้ามาใช้บริการเพื่อรักษา รวมถึงการส่งเสริมบุคลากรทางการแพทย์ ด้านรังสีร่วมรักษา หรือ หมอ IR เพิ่มขึ้น

สำหรับการรักษาด้วย ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ไออาร์ (IR) เป็นเทคโนโลยีใหม่ สำหรับประเทศไทย หากสามารถขยายไปยังภูมิภาคทั่วประเทศ จะส่งผลดีต่อกระบวนการรักษาที่มีประสิทธิภาพ สามารถรักษาโรคต่าง ๆ ได้อย่างตรงจุดมากขึ้น ลดความเสี่ยงของการดูแล และการติดเชื้อของผู้ป่วยได้

ปัจจุบัน ด้วยวิทยาการทางการแพทย์ที่มีความก้าวหน้า จำเป็นต้องมีการเพิ่มจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ และพยาบาล ให้มีความชำนาญในการใช้เครื่องมือรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ

S 41934900

นอกเหนือจากการพัฒนาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญแล้ว สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือ การผลักดันให้รังสีร่วมรักษาเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายสาธารณสุข เพื่อให้เกิดการสนับสนุนด้านงบประมาณ ขยายศักยภาพการรักษาด้วยนวัตกรรม IR สู่ผู้ป่วยในโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในส่วนภูมิภาค ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ป่วย ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการรักษา ช่วยลดภาระผู้ป่วยไม่ต้องเดินทางเข้ามารับการรักษาในเมือง

ด้วยสถานการณ์โรคในปัจจุบัน มีจำนวนผู้ป่วยที่ต้องได้รับการรักษาด้วยนวัตกรรม IR หรือรังสีร่วมรักษาเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องผลักดันให้วิทยาการดังกล่าว เป็นการรักษาที่ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงได้

S 41934903

อ.นพ.บุญฤกษ์ กล่าวว่า ปัจจุบัน วิธีทางรังสีร่วมรักษา หรือ Interventional Radiology : IR ได้ก้าวมาเป็นทางเลือกการรักษายุคใหม่ที่เข้ามาปฏิวัติวงการแพทย์ ด้วยจุดเด่นของการรักษาที่ แม่นยำ ฟื้นไว ไร้แผล โดยเป็นเทคนิคการรักษาด้วยการใช้ภาพนำทาง  ทางการแพทย์ เช่น เอกซเรย์ (X-ray), เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan), คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI), และอัลตราซาวด์ (Ultrasound) เป็นตัวนำทางในการรักษา โดยแพทย์จะสอดใส่อุปกรณ์ขนาดเล็ก เช่น สายสวน (catheter), ลวดนำทาง (guidewire), เข็มเจาะ (needle) เข้าไปในร่างกายผ่านทางหลอดเลือดหรือผิวหนังเพื่อทำการรักษาโรคที่บริเวณนั้น ๆ ได้อย่างแม่นยำ เช่น การอุดหลอดเลือด การขยายหลอดเลือด การให้ยาเคมีบำบัด การจี้เนื้องอก โดยเป็นหัตถการแบบแผลเล็ก (minimally invasive) ที่ช่วยให้ผู้ป่วยบาดเจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว และลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน เมื่อเทียบกับการผ่าตัดแบบเดิม

ภาพนำทาง ถือเป็นหัวใจสำคัญของการรักษาด้วยรังสีร่วมรักษา ทำให้แพทย์สามารถมองเห็นตำแหน่งของโรคได้อย่างชัดเจน และวางแผนการรักษาได้อย่างแม่นยำ การเลือกใช้ภาพนำทางชนิดใดนั้น ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละกรณี เช่น อัลตราซาวด์เหมาะกับการรักษาที่อยู่ตื้นๆ ใกล้ผิวหนัง ส่วน CT Scan ช่วยให้มองเห็นอวัยวะภายในและวางแผนการรักษาที่ซับซ้อนได้

S 41934902

ด้าน รศ.นพ. สมราช ธรรมธรวัฒน์ อาจารย์แพทย์ภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและองค์ความรู้ทางการแพทย์ที่มาประสานรวมกัน ทำให้ปัจจุบันการรักษาด้วยรังสีร่วมรักษา (IR) ได้ก้าวมาบทบาทเป็นทางเลือกใหม่ของการรักษาโรคต่างๆ ครอบคลุมตั้งแต่โรคทางระบบประสาทไปจนถึงโรคทางระบบลำตัว อาทิ โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke), การจี้รักษาเนื้องอกและมะเร็ง เช่น มะเร็งตับ มะเร็งปอด, มะเร็งไต, ต่อมไทรอยด์โต

นอกจากนี้ ยังเป็นทางเลือกใหม่ในการรักษาโรคต่าง ๆ มากมาย อาทิเช่น is การรักษาต่อมลูกหมากโตด้วยวิธีอุดหลอดเลือด (Prostate artery embolization หรือ PAE), การรักษาเนื้องอกมดลูกโดยการอุดหลอดเลือด (Uterine artery Embolization) การรักษาข้อเข่าเสื่อมโดยวิธีอุดหลอดเลือดเพื่อลดอาการปวด(Genicular artery embolization หรือ GAE), การรักษาเนื้องอกต่อมไทรอยด์โดยการจี้ด้วยความร้อน , การอุดหลอดเลือดในภาวะเลือดออกจากอุบัติเหตุ ฯลฯ

S 41934905

อย่างไรก็ตาม แม้การรักษาด้วยรังสีร่วมรักษา (IR) จะมีประโยชน์มากมาย แต่ผู้ป่วยและประชาชนส่วนใหญ่ยังรู้จักศาสตร์ทางการแพทย์สาขานี้ไม่มากนัก ศูนย์ IR ส่วนใหญ่อยู่ในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ในเมือง อีกทั้งยังมีบุคลากรทางการแพทย์ด้านรังสีร่วมรักษา หรือ หมอ IR จำนวนจำกัด จำนวนแพทย์ IR ด้านระบบลำตัวทั่วประเทศมีเพียง 140 คน

รศ.นพ. สมราช กล่าวว่า การขยายเครือข่ายการให้บริการรังสีร่วมรักษาให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ยังเผชิญความท้าทายหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนในเครื่องมือและอุปกรณ์ที่มีราคาสูง อย่างเช่น เครื่องเอกซเรย์หลอดเลือด (Digital Subtraction Angiography) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการรักษาหลายชนิด ทำให้การเข้าถึงบริการการรักษาของผู้ป่วยยังคงเป็นข้อจำกัด โดยเฉพาะโรงพยาบาลในส่วนภูมิภาค

การผลักดันการรักษา IR ให้เข้าถึงผู้ is that ป่วยทั่วประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ หากทุกภาคส่วนร่วมมือกันอย่างจริงจัง ซึ่งจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการรักษา ลดภาระการเดินทางเข้ามารักษาในเมือง ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ป่วยชาวไทยทั่วประเทศให้เข้าถึงการรักษาที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

S 41934906

ศ.คลินิก พญ.อัญชลี ชูโรจน์ ผู้ก่อตั้งศูนย์รังสีร่วมรักษาศิริราช กล่าวว่า ศูนย์รังสีร่วมรักษาศิริราช เป็น 1 ใน 19 ศูนย์ความเป็นเลิศ (SiCOE) ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ให้บริการตรวจวินิจฉัย และรักษาโรคด้วยวิธีการทางรังสีร่วมรักษา แบ่งเป็น 2 ระบบ ได้แก่ 1. ระบบประสาทและไขสันหลัง (Interventional Neuroradiology) 2. ระบบลำตัว (Body Interventional Radiology) อีกทั้งยังมีบทบาทในการการฝึกอบรมแพทย์เฉพาะทางรังสีร่วมรักษาด้วยหลักสูตรที่ได้การรับรองจากแพทยสภา

ศูนย์รังสีร่วมรักษาศิริราช มีความมุ่งหมายที่จะเป็นผู้นำและผู้ชี้นำด้านรังสีร่วมรักษาในระดับสากล ทั้งในด้านการให้บริการ การผลิตผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และการค้นคว้าวิจัย พัฒนาองค์ความรู้อย่างต่อเนื่อง โดยยึดประโยชน์การรักษาให้กับผู้ป่วยเป็นเป้าหมายสำคัญ

รู้จักศูนย์รังสีร่วมรักษาศิริราช

ศูนย์รังสีร่วมรักษาศิริราช (Siriraj Center of Interventional Radiology : SiCIR ) เป็น 1 ใน 19 ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ศิริราช จัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในปี 2560 ภายใต้การกำกับของโรงพยาบาลศิริราช โดยมีบทบาทในการให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยด้วยวิธีการทางรังสีร่วมรักษา และเป็นสถาบันผลิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านรังสีร่วมรักษาด้วยหลักสูตรที่ได้การรับรองจากแพทยสภา

ทั้งนี้ การรักษาด้วยวิธีทางรังสีร่วมรักษาในประเทศไทย ได้เริ่มวางรากฐานและขับเคลื่อนพัฒนาต่อเนื่องโดย ศ.เกียรติคุณ นพ.นรา แววศร ผู้ก่อตั้งหน่วยรังสีวิทยาหลอดเลือดและรังสีร่วมรักษา ซึ่งเปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ปี 2512 ภายใต้สังกัดสาขาวิชารังสีวินิจฉัย ภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

S 41934904

กระทั่งต่อมาในวันที่ 6 มิถุนายน 2560 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จึงได้มีการจัดตั้ง ศูนย์รังสีร่วมรักษาศิริราช อย่างเป็นทางการ ยกระดับขึ้นเป็น 1 ใน 19 ศูนย์ความเป็นเลิศ (SiCOE) ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

ปัจจุบัน ศูนย์รังสีร่วมรักษาศิริราช ให้บริการตรวจวินิจฉัยโรคของระบบหลอดเลือด และให้การรักษาโรคด้วยวิธีการทางรังสีร่วมรักษา โดยแบ่งได้เป็น 2 ระบบ ดังนี้

1. ระบบประสาทและไขสันหลัง (Interventional Neuroradiology)

2. ระบบลำตัว (Body Interventional Radiology)

อีกทั้งยังเป็น ศูนย์การเรียนรู้ เพื่อผลิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางรังสีร่วมรักษา และบุคลากรทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นสถานที่ศึกษาดูงานของแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์จากสถาบันต่างๆ มีการจัดประชุมทางวิชาการ และผลิตผลงานทางวิชาการและงานวิจัยอย่างต่อเนื่อง

สำหรับผู้ที่สนใจ หรือต้องการข้อมูลการรักษาเพิ่มเติม สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ศูนย์รังสีร่วมรักษาศิริราช (SiCIR)

  • สถานที่: ตึก 72 ปี ชั้น 2 ฝั่งตะวันออก (หน้าลิฟท์) โรงพยาบาลศิริราช
  • โทรศัพท์: 02- 419 – 8731
  • Website : https://www.sicir.org
  • Facebook :https://www.facebook.com/SiCIR.th
  • Line Official Account : @sicir

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo