Technology

ไม่ใช่จีนทำไม่ได้ กลุ่มสิทธิมนุษยชนร้องอเมซอนงดใช้ระบบจดจำใบหน้าแล้ว

amazon vs activist

ปรากฏการณ์บริษัทเทคโนโลยีปะทะกลุ่มสิทธิมนุษยชนเกิดขึ้นอีกกรณีหนึ่งแล้วในสหรัฐอเมริกา โดยเป็นการเห็นไม่ตรงกันระหว่างอเมซอน (Amazon) เจ้าของเทคโนโลยีจดจำใบหน้า (Facial Recognition) ในชื่อว่า Rekognition กับกลุ่ม American Civil Liberties Union โดยเหตุของความขัดแย้งมาจากการที่ อเมซอนขายเทคโนโลยีดังกล่าวให้กับตำรวจแล้วอย่างน้อยหนึ่งรัฐ นั่นก็คือรัฐโอเรกอนเพื่อช่วยในการระบุตัวตนของผู้คน และทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานได้ง่ายขึ้น

กรณีเช่นนี้เคยเกิดขึ้นแล้วเช่นกันในจีนแผ่นดินใหญ่ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการนำเทคโนโลยีจดจำใบหน้าของอาลีบาบา (Alibaba) เข้ามาปรับใช้กับสถานีรถไฟที่มีคนพลุกพล่าน โดยเฉพาะในช่วงที่คนจีนนิยมเดินทางกลับบ้านในช่วงเทศกาลตรุษจีน

แต่สำหรับในสหรัฐอเมริกาแล้ว การนำเทคโนโลยีในลักษณะนี้มาใช้กลับได้รับผลที่ต่างออกไป เนื่องจากมีกลุ่มสิทธิมนุษยชนออกมาเรียกร้องให้อเมซอนยุติการขายโซลูชันนี้ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงเรียกร้องให้ยกเลิกกล้องวงจรปิดตามแยกจราจรที่อนุญาตให้ตำรวจสามารถระบุตัวตน และติดตามผู้คนได้แบบเรียลไทม์

ทางกลุ่ม The American Civil Liberties Union เผยว่า “ผู้คนควรได้รับสิทธิในการเดินบนถนนอย่างอิสระ ไม่ใช่ถูกกำกับอีกทีโดยรัฐบาล และสำหรับสหรัฐอเมริกา เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าคือเทคโนโลยีที่ริดรอนอิสรภาพของประชาชน” 

อย่างไรก็ดี อเมซอน นำเทคโนโลยีนี้เข้ามาปรับใช้เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถระบุตัวตนบุคคลที่ทำผิดกฎหมายได้รวดเร็วขึ้น เช่น คนที่ลักลอบเข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย หรือนักเรียกร้องทางการเมือง เป็นต้น

อเมซอนเปิดตัวเทคโนโลยีดังกล่าวเมื่อปลายปี 2559 และได้รับความสนใจจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในวอชิงตันเคาท์ตี้ ทางตอนใต้ของเมืองพอร์ทแลนด์ รัฐโอเรกอน โดยการใช้งานนั้นพบว่า เจ้าหน้าที่มีการใช้งานเทคโนโลยีนี้ประมาณ 20 ครั้งต่อวัน และหลายคดีก็เป็นเรื่องการระบุตัวตนของผู้ลักขโมยของในร้านค้า แต่ในเดือนที่ผ่านมา ได้มีการยกระดับนโยบายในการใช้งานเทคโนโลยีดังกล่าวขึ้นไปอีกขั้น โดยเจ้าหน้าที่สามารถใช้งานเทคโนโลยีนี้ได้ หากผู้ต้องสงสัยไม่เต็มใจ หรือไม่สามารถแสดงบัตรประจำตัวได้ รวมถึงในกรณีที่มีผู้ได้รับอันตรายถึงชีวิตด้วย

สำหรับค่าใช้จ่ายในการใช้เทคโนโลยีนี้ที่ทางสถานีตำรวจจ่ายให้กับอเมซอนก็ไม่สูงมาก อยู่ที่ 400 ดอลล่าร์ และค่าธรรมเนียมรายเดือนอีกเดือนละ 6 ดอลล่าร์

นอกจากนั้นยังมีอีกหลายธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีนี้ของอเมซอน เช่น สวนสนุกใช้ในการตามหาเด็กหาย, สื่ออังกฤษอย่างสกายนิวส์ (Sky News) ใช้เทคโนโลยีนี้ในการระบุตัวตนของเซเลบริตี้ที่เข้าร่วมพิธีเสกสมรสของเจ้าชายแฮรี่ และเมแกน มาร์เคิล เป็นต้น

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ BusinessInsider

Avatar photo