แคสเปอร์สกี้ ระบุ Cyber Immunity ภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์ กุญแจสำคัญเพื่อปกป้องอนาคตแห่งยุค AI ที่จะเข้ามาสร้างการเปลี่ยนแปลงของโลก
ในงานประชุม Cybersecurity Weekend ครั้งที่ 9 ของ แคสเปอร์สกี้ (Kaspersky) บริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับโลก เผยข้อมูลเจาะลึกว่า AI จะเข้ามาป่วนโลกได้อย่างไร และผู้เชี่ยวชาญจะกำหนดแนวทางปกป้องเพื่ออนาคตที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นได้อย่างไร
AI สามารถเอาชนะมนุษย์ได้หรือไม่?
AI (Artificial Intelligence หรือ ปัญญาประดิษฐ์) ได้กลายเป็นเครื่องมืออันทรงพลังด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และอื่น ๆ การเปิดตัว ChatGPT ในเดือนพฤศจิกายน 2565 ก่อให้เกิดการสนทนาและการถกเถียง เนื่องจาก AI ส่งผลกระทบที่เห็นได้ชัดของเทคโนโลยีโครงข่ายประสาทเทียมนี้ และเผยให้เห็นศักยภาพของ AI ที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั่วโลก
แคสเปอร์สกี้จัดงานประชุมประจำปี Cyber Security Weekend สำหรับสื่อมวลชนจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) เพื่อเจาะลึกเกี่ยวกับการทับซ้อนกันระหว่าง AI และอนาคตด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์
การประชุมครั้งนี้มีชื่อว่า Deus Ex Machina: Setting Secure Directives for Smart Machines มีเป้าหมายเพื่อวางแบบแผนที่ปลอดภัย เมื่อโลกยอมรับการมาของ AI
แคสเปอร์สกี้เอง ได้ดำเนินการปฏิวัติหลายๆ สิ่งมายาวนาน โดยการค้นหาวิธีพัฒนาระบบไอทีด้วยการป้องกันตั้งแต่แรกเริ่ม นั่นคือ Cyber Immunity หรือ ภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์
ประเด็นต่าง ๆ เกี่ยวกับ ChatGPT คือ การที่อาชญากรไซเบอร์สามารถใช้ประโยชน์จาก ChatGPT เพื่อเพิ่มการโจมตีแบบฟิชชิงและมัลแวร์ได้
แนวคิด ภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์ ของแคสเปอร์สกี้ บ่งชี้ว่า การโจมตีทางไซเบอร์ส่วนใหญ่นั้นจะไม่มีประสิทธิภาพ และจะไม่สามารถส่งผลกระทบต่อฟังก์ชันที่สำคัญของระบบได้ หากเตรียมการไว้ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบแรกเริ่ม
นายยูจีน แคสเปอร์สกี้ ซีอีโอของ แคสเปอร์สกี้ กล่าวว่ Cyber Immunity ของแคสเปอร์สกี้ได้รับเครื่องหมายการค้าทั้งในสหรัฐและสหภาพยุโรป ซึ่งประกอบด้วยระบบที่ปลอดภัยตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ จึงทำให้สามารถสร้างโซลูชันที่จะไม่โดนรุกล้ำแทรกแซงได้เลย และยังลดจำนวนช่องโหว่ที่อาจเกิดขึ้น

ในยุคที่ทั้งคนดีและคนเลว สามารถใช้เทคโนโลยีได้เหมือนกัน การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์รูปแบบเดิมๆ จึงไม่เพียงพออีกต่อไป เราจำเป็นต้องปฏิวัติการป้องกันของเราเพื่อสร้างโลกดิจิทัลที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น
ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอยู่ในระดับแนวหน้าของการปฏิวัติ AI การศึกษาล่าสุดของ IDC ระบุว่าการใช้จ่ายด้าน AI ของภูมิภาคนี้จะเพิ่มขึ้นสองเท่าภายในสามปี จาก 9.8 พันล้านดอลลาร์ในปี 2566 เป็น 18.6 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2569
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการพึ่งพาทักษะทางเทคนิค เอ็นเทอร์ไพรซ์ระดับท้องถิ่นส่วนใหญ่ในเอเชียแปซิฟิกจึงตั้งค่าให้ฝัง AI ไว้ในเทคโนโลยีทางธุรกิจภายในเวลาสามปี ปัจจุบัน
ปัจจุบันขนาดของตลาด AI ในเอเชียแปซิฟิกอยู่ที่ 22.1 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะเติบโตเกือบสี่เท่าภายในปี 2571 ที่ 87.6 พันล้านดอลลาร์
นายเอเดรียน เฮีย กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แคสเปอร์สกี้ กล่าวว่า บริษัทต่าง ๆ ตระหนักถึงวิธีการใช้ประโยชน์จากพลังของ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสินทรัพย์ ปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์ รวมถึงปรับปรุงซัพพลายเชนเพื่อผลกำไรที่ดีขึ้น

ขณะที่รายงานของ IDC ระบุว่า จีน ออสเตรเลีย และอินเดียเป็นผู้นำหลักสามรายที่มีการใช้จ่ายด้าน AI ของภูมิภาค และเชื่อว่าประเทศอื่น ๆ จะดำเนินตามเช่นกัน
นั่นทำให้ขณะนี้แคสเปอร์สกี้จัดทำแผนกลยุทธ์ที่ปลอดภัยในการนำ AI ไปใช้และปรับใช้งานภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อเก็บเกี่ยวประโยชน์ของ AI โดยไม่กระทบต่อความปลอดภัยทางไซเบอร์
แคสเปอร์สกี้จะสานต่อการอภิปรายเกี่ยวกับอนาคตของความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่งาน Kaspersky Security Analyst Summit (SAS) 2023 ซึ่งจะจัดขึ้นที่จังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 25 ถึง 28 ตุลาคม 2566 นี้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ส่อง 5 เทรนด์ใหญ่ทิศทางผู้บริโภคครึ่งปีหลัง 2566 กับบทบาท ‘เทคโนโลยี AI’
- ‘Generative AI’ ยกระดับการโจมตีไซเบอร์ องค์กรควรรับมืออย่างไร เช็กที่นี่
- ทำความรู้จัก ‘ผานกู่ โมเดล 3.0’ เทคโนโลยี AI แบบใหม่จาก ‘หัวเว่ย’