‘เสาอัจฉริยะ’ 8 in 1 โครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาเมือง สู่ ‘Smart City’ สร้างนักวิจัยรุ่นใหม่ ต่อยอดเชิงพาณิชย์
สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น (TNI) จับมือ PLANET ผู้นำด้านบริการเทคโนโลยีดิจิทัลแบบครบวงจร เปิดเวทีสนับสนุนนักศึกษาและอาจารย์ระดมสมองพัฒนานวัตกรรมเสาอัจฉริยะต้นแบบ ภายใต้โครงการ “การสร้างนวัตกรรมต่อยอดเสาอัจฉริยะ Smart Pole” หวังสร้างนักวิจัยรุ่นใหม่ ต่อยอดเชิงพาณิชย์ สู่การพัฒนายกระดับโครงสร้างพื้นฐานเมือง เป็น Smart City ในอนาคต
โครงสร้างพื้นฐาน สู่ Smart City
รศ.ดร.รัตติกร วรากูลศิริพันธุ์ รองอธิการบดีฝ่ายความร่วมมือระหว่างประเทศและทุนการศึกษา และรักษาการรองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น (TNI) เปิดเผยว่า สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น (TNI) ได้รับความร่วมมือจากบริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) ในการติดตั้ง Smart Pole บริเวณลานจอดรถหน้าอาคารวิทยาลัยนานาชาติ (TNIC) เพื่อให้การใช้งานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการพัฒนานวัตกรรม Smart Pole ต้นแบบ ให้นำสู่การต่อยอดในเชิงพาณิชย์หรือจดทรัพย์สินทางปัญญาในอนาคต ฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น (TNI) จึงเปิดโอกาสและสนับสนุนให้นักศึกษาทั้งระดับปริญญาตรี ปริญญาโท รวมถึงคณาจารย์ที่สนใจ ได้เข้าร่วมโครงการ Smart Pole เพื่อระดมไอเดียและความคิดสร้างสรรค์ (Idea and Creation) ในการคิดค้น วิจัย และพัฒนาสิ่งประดิษฐ์
ทั้งด้านระบบการบริหารจัดการ (Management system) การพัฒนาซอฟท์แวร์และฮาร์ดแวร์ หรือ Firmware ต่างๆ การพัฒนา Platform และ Mobile application ฯลฯ ที่สำคัญโครงการนี้ ยังจะเป็นการสร้างนักวิจัยรุ่นใหม่อีกด้วย
ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า เทคโนโลยีและนวัตกรรมได้เข้ามามีบทบาทและเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของมวลมนุษยชาติ การมุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อตอบสนองต่อความสะดวกสบายและเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น
Smart Pole จึงเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มุ่งหวังเพื่อพัฒนา และต่อยอดโครงสร้างพื้นฐานของเมือง ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อชีวิตประชาชนในพื้นที่ และได้รับการบริการที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว จนนำไปสู่การเป็น Smart City ในอนาคต
Smart Pole 8 in 1
สำหรับ Smart pole จะมีการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ไว้บนเสามีฟังก์ชันการใช้งานบน platform และผ่าน Application บนมือถือเพียงเครื่องเดียว สามารถตอบโจทย์เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้คน
- โคมไฟส่องสว่างแบบ LED 360 องศา โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม 120 วัตต์ ดังนั้นในเวลากลางคืนจะให้แสงสว่างในบริเวณรอบข้าง โดยใช้ไฟที่เก็บสะสมไว้ในแบตเตอรี่
- อุปกรณ์ Sensor ที่ตรวจจับฝุ่นละออง วัดระดับ PM 2.5
- ขุดตรวจวัดสารแขวนลอยในอากาศ
- อุปกรณ์สื่อสาร ต่อเชื่อมกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เพื่ออ่านค่าจาก Sensor ของกล้อง CCTV นำไปประมวลผล และแสดงบนจอ แบบ Dashboard เพื่อการบริหารจัดการพื้นที่โดยรอบ ที่ตั้งเสาอัจฉริยะ
- ลำโพงกระจายเสียงแบบดิจิทัล
- กล้องวงจรปิดสำหรับจดจำใบหน้า หรือ แผ่นป้ายทะเบียน
- มี SOS Emergency Video Call ชุดปุ่มกดขอความช่วยเหลือแบบ Video ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินไปยังศูนย์ควบคุม เพื่อให้ได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
- กล่องเก็บอุปกรณ์
Smart pole ถือเป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานในการพัฒนาเมืองให้เป็นเมืองอัจฉริยะ(Smart City) เนื่องจาก สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการและการบริหารจัดการเมือง
นวัตกรรมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้คน
ด้านนายประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANET ผู้ให้บริการเทคโนโลยีดิจิทัลแบบครบวงจร เปิดเผยว่า โครงการการสร้างนวัตกรรมต่อยอด Smart Pole ถือเป็นการตอกยํ้าการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้คน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้มีการออกแบบและทดลองติดตั้งไปแล้วในหลายพื้นที่ อาทิ ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว ซึ่งได้รับกระแสตอบที่รับที่ดีมาก ในด้านความสะดวกสบายและปลอดภัย ขณะที่ด้านการดูแลบริการประชาชนของหน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง สามารถนำไปใช้วางแผนการให้บริการได้มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ มีแผนขยายการติดตั้งเสาอัจฉริยะไปในหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- แอป ‘เป๋าตัง’ คว้ารางวัล ‘เทคโนโลยีชั้นนำแห่งปี’ จากงาน Techsauce Global Summit 2022
- กลุ่ม ปตท. ผนึก CEA ใช้เทคโนโลยี หนุน ‘Soft Power’ ไทย ยกระดับ ‘อุตสาหกรรมคอนเทนต์’ สู่เวทีสากล
- นายกฯ ปลื้ม ‘สลากดิจิทัล’ ใช้เทคโนโลยีแก้ปัญหา ‘หวยแพง’ สำเร็จ