Digital Economy

ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน ‘3 ไม่’ ป้องกันภัยออนไลน์

ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน ‘3 ไม่’ ป้องกันภัยออนไลน์ เผยตัวเลขปี 64 เกิดปัญหาหลอกลวงกว่า 4,239 คดี เสียหายกว่า 7,000 ล้าน

ตำรวจไซเบอร์ ร่วมกับ AIS จับมือกันแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ด้วยการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันภัยจากอาชญกรรมทางเทคโนโลยีรูปแบบต่างๆ ผ่านการสื่อสารไปยังกลุ่มประชาชนร่วมกัน

ในปี 2564 ที่ผ่านมา จากการเก็บข้อมูลของ AIS อุ่นใจ Cyber มีภัยที่เกิดขึ้นจากการใช้อินเทอร์เน็ตที่หลากหลายรูปแบบซึ่งสร้างความเสียหายให้กับคนไทยและลูกค้าเป็นอย่างมาก โดยยังคงมีคนไทยที่ตกเป็นเหยื่อเนื่องจากขาดภูมิคุ้มกันในการรับมือกับกลุ่มมิจฉาชีพที่แฝงตัวมากับสถานการณ์ของบ้านเมืองในรูปแบบต่างๆ

ภัยออนไลน์

พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมามีคดีความทางเทคโนโลยีเกิดขึ้นกว่า 4,239 คดี คิดเป็นเม็ดเงินที่สร้างความเสียหายมากกว่า 7,000 ล้านบาท

เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงออนไลน์ด้านการเงิน ด้านการขายสินค้าออนไลน์/สินค้าผิดกฎหมาย การเผยแพร่ข่าวปลอม การแฮ็กระบบ การพนันออนไลน์ หรือแม้แต่การล่วงละเมิดทางเพศ ทั้งหมดเป็นผลมาจากการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างผิดวิธี ขาดสติยั้งคิดของทั้งมิจฉาชีพและเหยื่อผู้เสียหายที่รู้ไม่เท่าทัน

ด้วยภารกิจของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี คือการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ผ่านการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ และในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสอันดีในการเริ่มต้นทำงานร่วมกับภาคเอกชนอย่าง AIS ที่เห็นความสำคัญของภัยจากการหลอกลวงทางไซเบอร์ ในการร่วมกันสื่อสารเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนไทยห่างภัยไซเบอร์

‘3 ไม่’ ป้องกันภัยออนไลน์

วันนี้อาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นเสมือนกับเชื้อโรคที่สร้างผลกระทบให้กับทั้งด้านชีวิตและทรัพย์สิน เราต้องร่วมกันฉีดวัคซีนทางความรู้ให้ประชาชนมีสติรู้เท่าทัน โดยต้องไม่เชื่อสรรพคุณอวดอ้างหรือการชักจูงในทุกรูปแบบ ไม่รีบ ตัดสินใจพูดคุยให้ข้อมูลส่วนตัวหรือตกลงเพราะความกลัว

สุดท้ายต้องไม่โอนเด็ดขาด หากเข้าใจและนำ 3 ไม่ คือ ไม่เชื่อไม่รีบไม่โอน ไปใช้ในการรับมือ ก็จะเป็นภูมิคุ้มกันชั้นดีที่ทำให้เราปลอดภัยจากโลกไซเบอร์

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo