การบุกตลาดจีนเพื่อนำระบบเสิร์ชเอนจินของกูเกิลเข้าไปใช้งานภายใต้นโยบายจำกัดการเข้าถึงอย่างเข้มงวดเป็นอันว่ายุติลงแล้วอย่างเป็นทางการ โดยมีการเปิดเผยจากกูเกิลที่ชัดเจนว่า ไม่มีแผนจะเปิดบริการเสิร์ชเอนจินในจีนเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ต้องยุติโปรเจคในชื่อ ดรากอนฟลายนั้น รายงานจากบีบีซีระบุว่าเป็นเพราะกูเกิลถูกบังคับให้ปิดระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่บริษัทจะใช้นำส่งดาต้าเข้าไปในโปรเจ็คนั่นเอง เมื่อระบบไม่สามารถได้ โปรเจค ดรากอนฟลายจึงต้องถือว่ายุติการพัฒนาลงไปด้วย
สำหรับโปรเจคดรากอนฟลาย (Project Dragonfly) นั้น มีเอกสารเอกสารภายในระบุว่า เริ่มขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิเมื่อปีที่ผ่านมา (2560) และมีนักพัฒนาอยู่ราว 100 คน ก่อนจะได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็วหลังจากพบกันของซีอีโอกูเกิล และเจ้าหน้าที่ระดับสูงในจีน เมื่อเดือนธันวาคม 2560 โดยมีการพัฒนาแอพชื่อ Maotai และ Longfei ขึ้นเพื่อหวังจะเปิดตัวในจีนภายใน 9 เดือนหากทางการจีนอนุมัติแผนการ
อย่างไรก็ดี ทีมวิศวกรจากกูเกิลพบว่ามีรายชื่อเว็บไซต์นับพันแห่งที่ระบบต้องห้ามไม่ให้มีการเข้าถึง ซึ่งรวมถึงเว็บข่าวอย่างบีบีซี และวิกิพีเดียด้วย และจากการประชุมที่เกิดขึ้นหลายครั้ง มีการแจ้งทีมวิศวกรกูเกิลว่าพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าใช้ดาต้าจาก 265.com เพื่อพัฒนาโปรเจคดรากอนฟลาย อีกต่อไป
ในจุดนี้ เดฟ ลี (Dave Lee) นักวิเคราะห์จากบีบีซีระบุว่า เขาไม่คิดว่ากูเกิลจะเลิกล้มความพยายามในการบุกตลาดจีนอย่างแน่นอน โดยเฉพาะซีอีโออย่างซุนดาร์ พิชัย นั้น ชัดเจนว่า เขาเห็นตลาดจีนว่ามีความสำคัญมาก และถึงแม้โปรเจคดรากอนฟลายจะไม่ได้ไปต่อ ก็เชื่อว่าทางทีมจะหาแนวทางใหม่เพื่อเจาะตลาดจีนต่อไป โดยเฉพาะในยุคที่สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกากำลังตอบโต้กันอย่างรุนแรงแบบทุกวันนี้