มีการสำรวจที่น่าสนใจจาก Streetbees Research พบ 1 ใน 3 ของผู้ใช้เฟซบุ๊กในสหรัฐอเมริกา และอังกฤษ “ไม่ไว้ใจ” แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่รายนี้อีกต่อไปแล้ว แต่ในจำนวนนี้พบว่ามีถึง 98% ที่ยอมรับว่า “ก็ยังใช้เฟซบุ๊กต่อไปงั้น ๆ แหล่ะ”
โดยสิ่งที่ทำให้ผู้บริโภคไม่ไว้ใจเฟซบุ๊กมากขึ้นเรื่อย ๆ คือประเด็นเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ที่ผู้ใช้งานจำนวนมากเชื่อว่า เฟซบุ๊กไม่สามารถปกป้องข้อมูลของพวกเขาได้ แต่หากแยกเป็นประเทศ ก็ยังพบสัญญาณดีที่ว่า ประเทศอย่างอินเดีย ซึ่งมีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กมากเป็นอันดับสองของโลกรองจากสหรัฐอเมริกา ยังมีผู้ให้ความเชื่อมั่นเฟซบุ๊กมากถึง 53%
ตัวเลขการสำรวจนี้อาจทำให้แบรนด์ที่คิดจะลงโฆษณากับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต้องคิดให้มากขึ้น ซึ่ง Streetbees ยังพบด้วยว่า สาเหตุหลัก ๆ ที่คนเลิกใช้เฟซบุ๊กนั้นมาจากความเบื่อ รองลงมาคือ เพื่อนเลิกใช้ 22% เจอโฆษณามากเกินไป 7% และกังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัวจะรั่วไหล 8%
ทุกวันนี้ สิ่งที่เฟซบุ๊กกังวลน่าจะเป็นเรื่องตัวเลขผู้ใช้งานที่มีการเติบโตลดลงอย่างต่อเนื่อง และมีแค่หนึ่งในห้าของผู้ใช้งานเฟซบุ๊กที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปีเท่านั้นที่บอกว่าเฟซบุ๊กเป็นแพลตฟอร์มสุดเจ๋งในสายตาพวกเขา
อย่างไรก็ดี ในสายตาพนักงานก็มีภาพไม่ต่างกัน โดยมีพนักงานเพียง 52% มองว่าเฟซบุ๊กมีอนาคตสดใสรออยู่ ขณะที่ในปี 2560 ตัวเลขนี้อยู่ที่ 84% เลยทีเดียว
การสำรวจนี้เกิดขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2 – 3 ของปี 2561 และมีผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดกว่า 7,400 รายจาก 8 ประเทศได้แก่ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา อินเดีย จีน เคนยา ไนจีเรีย ฟิลิปปินส์ และแอฟริกาใต้
การสูญเสียความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคเป็นสิ่งที่แบรนด์ส่วนมากในยุคนี้ไม่อยากให้เกิด แต่กรณีของเฟซบุ๊กน่าจะหนักหนากว่า เพราะเฟซบุ๊กเป็นแพลตฟอร์มที่แบรนด์จำนวนมากสนใจลงโฆษณานั่นเอง ซึ่งนั่นอาจสะท้อนได้ว่า การทำการตลาดดิจิทัลในยุคถัดไป อาจต้องมองหาเครื่องมือใหม่ ๆ แทนเสียแล้ว