เป็นอีกหนึ่งดีลที่แสดงให้เห็นว่าตลาดคลาวด์มีความสำคัญสำหรับการแข่งขันในอนาคตอย่างมาก เมื่อยักษ์ใหญ่ไอบีเอ็ม ที่ประกาศควักเงิน 34,000 ล้านดอลลาร์ซื้อกิจการของเรดแฮท (Red Hat) บริษัทยักษ์ใหญ่อายุ 25 ปี รับความท้าทายใหม่บนตลาดคลาวด์
สำหรับเรดแฮท ปัจจุบันนอกจากจะเป็นที่รู้จักในด้านผู้พัฒนาโอเพ่นซอร์สซอฟต์แวร์ให้กับอุตสาหกรรมการเงิน โทรคมนาคม ไปจนถึงภาครัฐแล้ว ในอีกด้านหนึ่งเรดแฮทยังมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับไฮบริดคลาวด์ด้วย ซึ่งผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัททำให้เรดแฮทมีรายได้แตะ 2 พันล้านดอลลาร์เป็นบริษัทแรกในกลุ่มโอเพ่นซอร์ส และในปี 2561 ก็พุ่งขึ้นเป็น 3 พันล้านดอลลาร์ด้วย โดยหนึ่งในธุรกิจที่ใช้บริการของเรดแฮทในไทยขณะนี้คือทรูมันนี่ แพลตฟอร์มการชำระเงินของแอสเซนด์ มันนี่นั่นเอง
อย่างไรก็ดี ผลประกอบการล่าสุดของเรดแฮทกลับไม่เป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดหวัง โดยพบว่ารายได้จากบริการแบบสมาชิกยังคงมีส่วนแบ่งแค่ 20% ของรายได้ทั้งหมด และมาจากการเช่าใช้อินฟราสตรักเจอร์เป็นหลัก ส่วนที่น่ายินดีจึงอาจเป็นรายได้จากการพัฒนาแอพพลิเคชัน ที่พบว่าเติบโตขึ้น 31% คิดเป็นมูลค่า 196 ล้านดอลลาร์
สำหรับการซื้อกิจการครั้งนี้ มีความกังวลเช่นกันจากนักพัฒนากลุ่มโอเพ่นซอร์สที่เกรงว่าไอบีเอ็มจะเข้ามาครอบงำความเป็นโอเพ่นซอร์สให้หายไป ซึ่งมีการยืนยันออกมาแล้วว่า เรดแฮทจะยังคงให้บริการภายใต้แบรนด์เดิมต่อ ไม่ได้ถูกควบรวมเข้าไปในไฮบริดคลาวด์ของไอบีเอ็ม
ที่ผ่านมา สื่อตะวันตกมองว่าแพลตฟอร์มคลาวด์ของไอบีเอ็มลดความร้อนแรงลงไปมาก โดยกระแสตกไปอยู่กับอเมซอน เว็บเซอร์วิส, กูเกิลคลาวด์ และไมโครซอฟท์อาชัวร์ การออกมาประกาศซื้อกิจการของเรดแฮท จึงเป็นการเสริมแกร่งแพลตฟอร์มคลาวด์ของไอบีเอ็มให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
