Digital Economy

เฟซบุ๊กเปิดผลวิจัย ธุรกิจ 85% ไร้แผนเจาะตลาดชนชั้นกลางยุคใหม่

นายจอห์น แวกเนอร์
นายจอห์น แวกเนอร์

ในยุคดิจิทัล นอกจากการทำตลาดเพื่อเข้าถึงลูกค้ายุคใหม่จะซับซ้อนกว่าเดิมแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่แบรนด์ต่างปวดหัวไม่ต่างกันก็คือ การเข้าถึงลูกค้ากลุ่มชนชั้นกลาง “ในอนาคต”

เหตุที่กล่าวเช่นนั้น เพราะข้อมูลจากเฟซบุ๊ก ประเทศไทยเผยว่า 77% ของนักธุรกิจชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มองว่ากลุ่มผู้บริโภคที่จะก้าวขึ้นมาเป็นชนชั้นกลาง (กลุ่มใหม่) นี้จะเป็นพลังขับเคลื่อนทางธุรกิจที่สำคัญมาก แต่มีเพียง 15% เท่านั้นที่คิดว่าธุรกิจของตนมีกลยุทธ์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหลักกลุ่มนี้แล้ว ซึ่งผลการสำรวจจากเฟซบุ๊กยังพบว่า เทคโนโลยีดิจิทัลมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมและรูปแบบการซื้อของคนกลุ่มนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในต่างจังหวัด

นายจอห์น แวกเนอร์ กรรมการผู้จัดการ เฟซบุ๊ก ประเทศไทย กล่าวว่า “เราต้องการที่จะสำรวจอย่างจริงจังว่าโลกดิจิทัลเปลี่ยนชีวิตของกลุ่มที่จะก้าวขึ้นมาเป็นชนชั้นกลางกลุ่มใหม่ของประเทศไทยอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ต่างจังหวัด เราพบว่า ประชากรกลุ่มนี้เข้าถึงเศรษฐกิจผ่านการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน ธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ และโลจิสติกส์มากยิ่งขึ้น และยังใช้เทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อการพัฒนาและเติบโตในหลายๆ มิติ สิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจมากที่สุดที่เราเห็นคือ การที่คนไทยใช้ช่องทางดิจิทัลในการแสดงออกถึงตัวตนและสร้างอนาคตที่ดีขึ้น”

เฟซบุ๊กเผยด้วยว่า ภายในปี 2565 ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีประชากรชนชั้นกลางจำนวน 350 ล้านคน และรายได้ในครัวเรือน 3 แสนล้านดอลลาร์ และด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล สามารถทำให้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นอกรอบตัวเมืองสามารถมีส่วนร่วมในการสร้างเศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่ โดยคาดว่าการใช้จ่ายผ่านมือถือจะสูงถึง 3 หมื่นล้านดอลลาร์ ในขณะที่โลจิสติกส์บนอีคอมเมิร์ซ จะเติบโตขึ้นถึง 7.5 – 9 พันล้านดอลลาร์ ภายในปี 2565

นายเวทิต โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ผลการศึกษาครั้งนี้น่าสนใจสำหรับธุรกิจที่สามารถนำไปต่อยอดได้ว่าจะนำเสนอสินค้าที่มีความเฉพาะพิเศษ มีความพรีเมียมและตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่มนี้ที่มีกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นได้อย่างไร ในฐานะธุรกิจ เราต้องเข้าใจถึงไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของกลุ่มคนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นชนชั้นกลาง ซึ่งจะนำไปสู่โอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจสำหรับเรา”

เฟซบุ๊กยังพบด้วยว่า สิ่งที่ผู้บริโภคชนชั้นกลางรุ่นใหม่ให้คุณค่ามี 4 ข้อได้แก่

  • การเลือกที่จะเป็นตัวของตัวเอง เพราะเทคโนโลยีดิจิทัลช่วยให้พวกเขาเข้าถึงแหล่งข้อมูล และสามารถเลือกที่จะมีตัวตนและอัตลักษณ์ที่ทันสมัย โดยยังยึดถือคุณค่าทางวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม
  • การเลือกเข้ากลุ่มทางสังคมที่ต่างไปจากอดีต เพราะโลกออนไลน์ไร้ข้อจำกัดด้านพื้นที่กายภาพ
  • การเลือกตามความฝัน ภาวะเศรษฐกิจสังคมซึ่งจากเดิมเป็นข้อจำกัดของโอกาส แต่พื้นที่บนโลกออนไลน์ช่วยให้ความมุ่งหวังกลายเป็นความฝันที่เป็นจริงได้
  • การเลือกเติมเต็มความสุข กลุ่มผู้บริโภคที่จะก้าวขึ้นมาเป็นชนชั้นกลางมีความซับซ้อนมากขึ้นในพฤติกรรมการใช้จ่าย รวมไปถึงวิธีหรือช่องทาง คนกลุ่มนี้จะเลือกซื้อสิ่งที่เติมเต็มความสุขของพวกเขา ได้แก่ ความงาม การท่องเที่ยว ประสบการณ์ และสินค้าแบรนด์ต่างๆ

สำหรับการศึกษาครั้งนี้ เฟซบุ๊กได้ทำการสำรวจร่วมกับ Bain & Company และ Quantum ทำการศึกษาวัฒนธรรมและสังคมของผู้บริโภค 12,000 คน ในประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม โดยเป็นการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ร่วมตอบแบบสำรวจ 80 คน ภายในที่พักอาศัยของพวกเขาจากทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และการสัมภาษณ์กับกลุ่มผู้บริโภคอีกจำนวน 160 คน การศึกษาครั้งนี้ครอบคลุม 16 เมืองทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight