Digital Economy

เจาะนิยาม ‘Next Mobile Economy’ โมเดลธุรกิจใหม่ซัมซุง

samsung knox
ดร.มารุต มณีสถิตย์และนายวิชัย พรพระตั้ง.

ต้องบอกว่าน่าสนใจไม่น้อยกับแบรนด์สมาร์ทโฟนที่มีส่วนแบ่งการตลาดเบอร์หนึ่งของประเทศไทยอย่างซัมซุงที่เริ่มหันมาจัดกิจกรรมในลักษณะ Business Forum โดยในครั้งนี้เป็นการจัดขึ้นเพื่อขยายความของนิยาม “Next Mobile Economy” ที่ซัมซุงมองว่าจะกลายเป็นตลาดที่มีมูลค่ามหาศาลภายใน 3 – 5 ปีนับจากนี้

โดย “Next Mobile Economy” ในความหมายของซัมซุงเกิดขึ้นจากความพร้อม 3 ประการ นั่นคือ ความพร้อมด้านตัวเครื่อง, ความพร้อมด้านการเชื่อมต่อเครือข่าย และความพร้อมด้านข้อมูล (BigData และคลาวด์) ซึ่งจะนำไปสู่การเปลี่ยนโฉมของหลาย ๆ อุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น ภาพของสมาร์ทโฮม ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจโลจิสติกส์ หรือภาพของโรงงานอุตสาหกรรม 4.0 อีกทั้งยังเป็นภาพที่สอดรับกับนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0 ของหน่วยงานภาครัฐด้วย

นายวิชัย พรพระตั้ง รองประธานองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวถึงคีย์เวิร์ด 3 คำที่จำเป็นต่อการสร้าง Next Mobile Economy ว่าประกอบด้วย

  • Open – เปิดแพลตฟอร์มให้เชื่อมต่อกับผู้อื่นได้ และส่งผ่านข้อมูลซึ่งกันและกันได้
  • Security – ความปลอดภัยที่จะกลายเป็นหัวใจสำคัญ
  • Partnership – แทนการแข่งขัน ธุรกิจควรหันมาจับมือเป็นพันธมิตรกัน เกิดเป็น Healthy Competition แทน

“แม้ Next Mobile Economy จะเป็นโอกาสที่สำคัญสำหรับภาคธุรกิจ แต่ในขณะเดียวกันการปรับเปลี่ยนองค์กรไปสู่การทำงานบนระบบโมบายนั้นก็มาพร้อมกับความเสี่ยงในหลายด้าน หนึ่งในนั้นคือการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ซึ่งซัมซุงได้พัฒนาแพลตฟอร์ม ‘Samsung Knox’ แพลตฟอร์มรักษาความปลอดภัยที่เทียบเท่ากับเทคโนโลยีที่ใช้ทางการทหารเอาไว้รองรับในจุดนี้ และผลิตภัณฑ์ของซัมซุงมากกว่า 90% ในตลาดไทยเองก็รองรับฟีเจอร์นี้แล้วทั้งสิ้น โดยอุตสาหกรรมที่มีความพร้อมเข้าสู่ Next Mobile Economy มากที่สุดได้แก่ การเงินการธนาคาร ธุรกิจค้าปลีก หน่วยงานภาครัฐ และโลจิสติกส์” นายวิชัยกล่าว

ด้าน ดร.มารุต มณีสถิตย์ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจลูกค้าองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า “กลุ่มธุรกิจลูกค้าองค์กรเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่ซัมซุงให้ความสำคัญ โดยเราได้ออกแบบโซลูชั่นเพื่อตอบสนองความต้องการและสนับสนุนการทำงานขององค์กรในยุค Next Mobile Economy ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่า ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจต่างๆ ในประเทศไทยมีการปรับตัวเข้าสู่ Next Mobile Economy มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และกลุ่มลูกค้าองค์กรธุรกิจของซัมซุงที่มีการนำโมบายเทคโนโลยีไปใช้งานสูงสุด ได้แก่ การเงินการธนาคาร ธุรกิจค้าปลีก หน่วยงานภาครัฐ และโลจิสติกส์ ตามมาด้วย อุตสาหกรรมการผลิต โรงพยาบาล สถาบันการศึกษา และประกันภัย”

จากแผนการดังกล่าว ส่งผลให้ในปีนี้ และปีต่อ ๆ ไป เราจะได้เห็นภาพของซัมซุงและพันธมิตรในการร่วมกันผลักดันภาคธุรกิจเพื่อปรับตัวเข้าสู่ Next Mobile Economy อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการนำความสำเร็จเหล่านั้นมาบอกเล่าผ่าน Business Forum มากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยนั่นเอง

Avatar photo