Digital Economy

‘สภาผู้บริโภค’ ยื่นคำขาด ‘OPPO-Realme’ ชี้แจงปมแอปฯ ‘Fineasy’ และ ‘สินเชื่อความสุข’

“สภาผู้บริโภค” ยื่นคำขาด “OPPO-Realme” ชี้แจงปมแอพฯ “Fineasy” และ “สินเชื่อความสุข” ติดตั้งมาได้อย่างไร พร้อมถอนแอปออกจากเครื่องทันที

กรณีเพจ “คุณลุงไอที” จุดประเด็นว่ามีแอปฯ กู้เงินเถื่อนที่ชื่อ ‘Fineasy’ และ ‘สินเชื่อความสุข’ แอบติดตั้งมาพร้อมกับโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ OPPO และ Realme โดยที่ผู้บริโภคไม่ได้ยินยอม และแอปฯ เหล่านี้ไม่สามารถถอนการติดตั้ง ทำให้เกิดความกังวลเรื่องการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวและอาจสร้างความเสียหายทางการเงินแก่ผู้บริโภค

18 1

ล่าสุด นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา รองเลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค เรียกร้องบริษัท OPPO และ Realme ชี้แจงภายใน 3 วัน ว่าแอปพลิเคชันกู้เงินเถื่อนดังกล่าว ติดตั้งมาบนอุปกรณ์ได้อย่างไร พร้อมเรียกร้องให้ถอนแอปออกจากเครื่องโดยทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้บริโภคต้องตกเป็นเหยื่อซ้ำ และต้องไม่ให้เป็นการผลักภาระให้ผู้บริโภคต้องเดินทางไปที่ศูนย์บริการเอง

นายอิฐบูรณ์ ระบุว่า การชี้แจงของบริษัท จะถือเป็นการสะท้อนความโปร่งใสและความรับผิดชอบต่อสาธารณะ หากยังนิ่งเฉย สภาผู้บริโภคจะดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

“เรียกร้องให้บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแสดงความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยออกมาตรการเยียวยาอย่างเป็นรูปธรรม และขอย้ำว่า การติดตั้งแอปพลิเคชันโดยไม่ได้รับความยินยอม ถือเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานในมาตรา 4 (2) ของพ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ที่ผู้บริโภคต้องมีสิทธิเลือกใช้สินค้าและบริการโดยไม่ถูกบังคับ และต้องได้รับปลอดภัย โปร่งใส ที่สำคัญผู้บริโภคไม่ควรต้องตกเป็นเหยื่อการกระทำที่ขาดความรับผิดชอบ” อิฐบูรณ์ ระบุ

รองเลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค ระบุว่า ขอเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายโดยด่วนกับกรณีที่เกิดขึ้น โดยภายในสัปดาห์นี้สภาผู้บริโภคจะส่งหนังสืออย่างเป็นทางการถึงหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

1. สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ต้องตรวจสอบและดำเนินการคุ้มครองผู้บริโภคตามอำนาจหน้าที่ โดยเฉพาะประเด็นสินค้าและบริการที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อทรัพย์สินของประชาชน หากพบว่ามีการละเมิด ต้องดำเนินการลงโทษและเยียวยาผู้บริโภคทันที

2. สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) ต้องตรวจสอบการละเมิดสิทธิข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดขึ้น พร้อมบังคับใช้กฎหมายพีดีพีเอ (PDPA) อย่างจริงจัง

3. คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ต้องตรวจสอบผู้รับใบอนุญาต เช่น ค่ายมือถือ ที่ปล่อยให้แอปฯ อันตรายติดตั้งมากับสมาร์ทโฟน โดยประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง มาตรการคุ้มครองสิทธิของผู้ใช้บริการโทรคมนาคมเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลสิทธิในความเป็นส่วนตัว และเสรีภาพในการสื่อสารถึงกันโดยทางโทรคมนาคม พ.ศ.2566 กำหนดชัดเจนว่าผู้รับใบอนุญาตต้องมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลและความปลอดภัยของผู้บริโภค

4. กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ต้องเรียกบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและแพลตฟอร์ม เช่น เพลย์สโตร์ (Play Store) เข้าหารือ เพื่อกำหนดมาตรการคัดกรองและบล็อกแอปพลิเคชันผิดกฎหมาย

5. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องเร่งออกมาตรการควบคุมการปล่อยสินเชื่อผิดกฎหมาย และดำเนินการปราบปรามแอปฯ กู้เงินเถื่อนร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ด้าน ภัทรกร ทีปบุญรัตน์ รองหัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค สภาผู้บริโภค เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมาสภาผู้บริโภคได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับแอปฯ กู้เงินเถื่อน อย่างสินเชื่อความสุข แล้วกว่า 1,800 ราย พบว่าผู้บริโภคถูกละเมิดสิทธิชัดเจนตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค และ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ทั้งยังเกิดความไม่ปลอดภัยต่อทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งสภาผู้บริโภคได้ส่งรายชื่อแอปพลิเคชันต้องสงสัยให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ตรวจสอบและดำเนินคดีต่อไปแล้ว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo