Digital Economy

โอกาสของหุ้นอะไร? เมื่อ ‘Nvidia’ เตรียมบุกลงทุนในไทย

โดย Park Kathawut 28 ตุลาคม 2567

Nvidia เตรียมลงทุนในไทย! คาดใช้เงินกว่า 6 พันล้านบาท พร้อมเจาะหุ้นได้ประโยชน์หาก Nvidia ลงทุนจริง

กลายเป็นกระแสฮือฮาทีเดียวในโลกธุรกิจการลงทุน เมื่อสำนักข่าว Bloomberg รายงานจากการให้สัมภาษณ์ของ “นายพิชัย นริพทะพันธุ์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ว่า Jensen Huang (เจนเซน หวง) CEO ของ Nvidia บริษัทชิปเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลก ที่มีมูลค่า Market Cap. กว่า 3.53 ล้านล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 127 ล้านล้านบาท เตรียมที่จะเดินทางมาเยือนประเทศไทยในช่วงเดือนธันวาคม 2567

โดยการเดินทางมาไทยในครั้งนี้ Nvidia จะมีการเปิดเผยรายละเอียดแผนการลงทุนในไทย จะเป็นแรงผลักดันสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย และอาจนำไปสู่การลงทุนเพิ่มเติมจากกลุ่มที่เกี่ยวข้องอย่าง Semiconductor, Data Center และ AI

ทั้งนี้ Nvidia เป็นผู้นำในการผลิตชิปประมวลผลสำหรับ AI โดยมีธุรกิจหลักอยู่ 4 อย่าง ได้แก่

1. ชิป Data Center

2. ชิป Gaming

3. ชิปงานภาพขั้นสูง

4. ชิปยานยนต์ เรียกได้ว่าธุรกิจของ Nvidia เปรียบเสมือนมันสมองในการประมวลผลเบื้องหลัง AI และมีลูกค้าเป็นบริษัทชั้นนำของโลก อาทิ Amazon, Google, Meta, Microsoft และ Tesla เป็นต้น

“Nvidia” ลงทุนในไทย คาดเงินสะพัด 6 พันล้านบาท

บทวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ระบุว่า Nvidia เตรียมประกาศแผนการลงทุนในไทย ฝ่ายวิจัยประเมินว่าเม็ดเงินลงทุนจะใกล้เคียงกับการลงทุนในประเทศอินโดนีเซีย ราว 200 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 6,700 ล้านบาท แต่คาดว่าคงไม่เท่าระดับของมาเลเซียที่ 4,300 ล้านดอลลาร์

โดยการลงทุนของ Nvidia น่าจะมาในรูปแบบของ Data center และ AI Center เน้นไปที่โครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาคน มีโอกาสที่จะจับมือกับบริษัทใหญ่ในไทยอย่าง WHA และ GULF ในการพัฒนาโครงการ AI ขนาดใหญ่ รวมถึงอาจมีการลงทุนร่วมกับบริษัทอื่นๆ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและคลาวด์ในไทย

เจาะหุ้นได้ประโยชน์หาก Nvidia ลงทุนในไทย

มุมมองการลงทุนของ บล.บัวหลวง คาดกลุ่มที่ได้ประโยชน์จะเป็นกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน เช่น นิคมอุตสาหกรรม ได้แก่ WHA, AMATA ตลอดจนกลุ่มของ GULF Group เช่น GULF, ADVANC ส่วนเฟสต่อไปคือกลุ่มผู้ให้บริการ System Integrato เช่น LTS ในด้านของกลุ่มชิ้นส่วนคาดได้ Sentiment เชิงบวก โดย DELTA มีความเกี่ยวข้องมากที่สุด เนื่องจาก DELTA Taiwan อยู่ใน Supply chain นี้อยู่แล้ว

ในขณะที่มุมมองของ บล.กรุงศรี มองว่าประเด็นนี้จะเป็นการตอกย้ำภาพเชิงบวกด้านความเชื่อมั่นนักลงทุนต่อการลงทุนธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีในประเทศไทยในอีกหลายปีข้างหน้า และปริมาณการขยาย Data Center ใน 4-5 ปีข้างหน้าของไทย มีโอกาสเห็นโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่ประเมินปีละ 45-50% เมื่อเทียบกับภาพรวมในโลกปีละ 8-10%

อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามความชัดเจนของแผนธุรกิจ NVIDIA เพื่อประเมินอีกครั้ง ทั้งนี้ เบื้องต้นมองบวกต่อหุ้นในธีมโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยี ได้แก่ WHA, GULF, GPSC, STPI, DELTA, ADVANC, TRUE, INSET, BE8, BBIK, LTS เป็นต้น

ต้องบอกว่าประเด็นนี้ถือเป็นโมเมนตัมเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยในภาพรวม ทั้งในด้านการลงทุนทางตรงของต่างชาติ รวมไปถึงสัญญาณของการย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ซึ่งย่อมเป็นผลบวกต่อเศรษฐกิจไทยในระยะยาวไม่มากก็น้อย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่