Digital Economy

เปิดกลยุทธ์ไลน์ทูเดย์ รับมือเอเจนซีโฆษณาขยาด Fake News

เปิดกลยุทธ์ไลน์ทูเดย์
นายชรัตน์ เพ็ชร์ธงไชย์ (ซ้าย) และนายกวิน ตั้งอุทัยศักดิ์

เปิดกลยุทธ์ไลน์ทูเดย์ (LINE TODAY) ตั้งเป้าเป็นแพลตฟอร์มสื่อที่เชื่อถือได้ และมีผู้ใช้งานมากกว่า 40 ล้านคนให้เร็วที่สุด รับมือเอเจนซีโฆษณาขยาดสื่อออนไลน์ พร้อมเผยกลยุทธ์ครึ่งปีหลัง เน้นขยายความหลากหลายของคอนเทนต์ – จับมือพาร์ทเนอร์ 120 ราย

เป็นการหาช่องว่างในสถานการณ์ที่วงการโฆษณาสั่นคลอนความเชื่อถือในสื่อออนไลน์ได้ดีทีเดียว สำหรับไลน์ทูเดย์ ที่วางโพสิชันตัวเองไว้ในฐานะฮับของข่าวออนไลน์ และเป็นหนึ่งในบริการที่ LINE ประเทศไทย เปิดตัวออกมาเมื่อสองปีก่อน โดยในวันนี้มีการประกาศตัวเลขผู้ใช้งานไลน์ทูเดย์พบว่ามีเพิ่มขึ้นแตะ 32 ล้านคนต่อเดือน และยอดเสพคอนเทนต์ต่อคนต่อเดือนเฉลี่ยที่ 38 ชิ้น

โดยนายกวิน ตั้งอุทัยศักดิ์ ผู้อำนวยการธุรกิจคอนเทนต์ LINE ประเทศไทย ชี้ว่า ภาพรวมของธุรกิจสื่อในยุคปัจจุบันยังเผชิญกับความท้าทายในหลายด้าน ทั้งคู่แข่งที่มากขึ้น และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในการบริโภคข้อมูลข่าวสาร

เม็ดเงินโฆษณาในส่วนของสื่อสิ่งพิมพ์มีการลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทุกคนต้องเข้ามาแข่งขันกันบนสื่ออนไลน์ อย่างไรก็ดี บนสื่อออนไลน์ทุกวันนี้ก็เผชิญปัญหา เรามีคนที่เข้ามาเขียนคอนเทนต์ และเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตมากขึ้น ทำให้ในฝั่งของผู้บริโภคเจอกับสถานการณ์คอนเทนต์โอเวอร์โหลด นั่นคือมีคอนเทนต์มากมายจนเลือกบริโภคได้ไม่ทั้งหมด”

ในจุดนี้ LINE ประเทศไทย จึงมองว่าบริการไลน์ทูเดย์สามารถเข้ามาตอบโจทย์ทั้งฝั่งของผู้ผลิตสื่อออนไลน์ให้มีช่องทางในการเผยแพร่ที่มากขึ้น ในขณะเดียวกัน ความสามารถในการคัดกรองคอนเทนต์ที่มาจากพาร์ทเนอร์ด้านสื่อ และทำโดยพนักงานไลน์ทั้งหมดยังสามารถตอบโจทย์นักโฆษณาที่มองหาคอนเทนต์ที่เชื่อถือได้ด้วยเช่นกัน ในขณะที่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่น ๆ อาจใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการคัดกรองทำให้นักโฆษณาเกิดความไม่มั่นใจในเนื้อหา เหมือนเช่นกรณีของเฟซบุ๊ก และยูทูบที่มีการถอดโฆษณาของแบรนด์ดัง ๆ ออกไปเป็นจำนวนมากเมื่อปีก่อน

โดยบริการในลักษณะของไลน์ทูเดย์เริ่มต้นขึ้นครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น ในชื่อ ไลน์นิวส์ไดเจสต์ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก จึงมีการขยายบริการดังกล่าวมาเปิดในประเทศไทย อินโดนีเซีย ไต้หวัน และฮ่องกงในเวลาต่อมา ปัจจุบันฐานผู้อ่านไลน์ทูเดย์ในประเทศไทยถือเป็นอันดับสองรองจากญี่ปุ่น

ทั้งนี้ ไลน์ทูเดย์ในประเทศไทยมีทีมงานทั้งสิ้น 14 คน และมีการคัดคอนเทนต์ข่าวจากพาร์ทเนอร์ต่าง ๆ ขึ้นมาเผยแพร่บนแพลตฟอร์มมากกว่า 600 ชิ้นต่อวัน ซึ่งนายกวินเผยว่า มีแนวโน้มว่าจะนำผู้ช่วยอย่างปัญญาประดิษฐ์เข้ามาเสริมทัพในช่วงครึ่งปีหลังด้วย แต่จะไม่มีการลดพนักงานของทีมไลน์ทูเดย์ลงแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นบริการที่กำลังขยายตัว รวมถึงอาจมีการว่าจ้างพนักงานเพิ่มด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ดี การเติบโตในปีถัดไปของไลน์ทูเดย์อาจไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะทำตัวเลข 2 หลัก เนื่องจากปัจจุบัน ไลน์ทูเดย์มีผู้ใช้งาน 32 ล้านคนจากผู้ใช้งานแอพพลิเคชันไลน์ทั้งสิ้น 42 ล้านคน ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่สูงมากแล้ว ในตอนนี้ เป้าหมายของไลน์ประเทศไทยจึงเป็นการสร้างตัวเลขผู้ใช้งานให้ไปถึง 40 ล้านคนต่อเดือนเป็นเป้าหมายหลัก

สำหรับคอนเทนต์ที่เป็นหัวหอกในบริการไลน์ทูเดย์ ตามการเปิดเผยของนายชรัตน์ เพ็ชร์ธงไชย หัวหน้าธุรกิจไลน์ทูเดย์ ระบุว่า ประกอบด้วยสองส่วนหลัก ๆ คือ คอนเทนต์จากพาร์ทเนอร์ 95% และคอนเทนต์ที่ไลน์จับมือกับพาร์ทเนอร์ร่วมกันผลิตขึ้น ซึ่งมีโมเดลการแบ่งรายได้ค่าโฆษณากับพาร์ทเนอร์ในหลายรูปแบบ

แต่อนาคต แนวโน้มคอนเทนต์วิดีโอแบบเอ็กซ์คลูซีฟบนไลน์ทูเดย์นั้นจะเพิ่มมากขึ้น โดยจะอยู่ในรูปแบบวิดีโอสั้น ๆ ตั้งแต่ 5 – 30 นาที ซึ่งในปัจจุบันมีรายการในลักษณะดังกล่าวเปิดตัวแล้วทั้งสิ้น 3 รายการได้แก่ เฮดไลน์ทูเดย์, อาม่าแอนด์เดอะแก๊งค์ และเลือกได้เลือกดี ส่วนในครึ่งปีหลัง คาดว่าจะเปิดตัวอีก 2 – 3 รายการ รวมถึงมีการนำคอนเทนต์เหล่านี้ไปเผยแพร่ในไลน์ทีวี (LINE TV) ด้วย

นั่นจึงมาถึงบทสรุปของเรื่องนี้ ที่แสดงให้เห็นว่า นอกจากการนำเสนอคอนเทนต์ที่มีความถูกต้อง และน่าเชื่อถือแล้ว การหาช่องว่างในธุรกิจก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกแบรนด์ด้วยเช่นกัน

Avatar photo