ในขณะที่หลาย ๆ ภาคส่วน การใช้งานหน่วยความจำแบบแฟลช เช่น ยูเอสบีสติ๊ก (USB Stick) หรือเอสดีการ์ด (SD Card) เป็นสิ่งที่ยอมรับได้ในการเคลื่อนย้ายไฟล์ข้อมูล ทว่า สต๊าฟในบริษัทไอบีเอ็ม (IBM) ได้รับการแจ้งเตือนแล้วว่า บริษัทไม่อนุญาตให้ใช้อุปกรณ์ดังกล่าวกับคอมพิวเตอร์ภายในองค์กร โดยนโยบายดังกล่าวจะมีผลอย่างเป็นทางการภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้
จากนโยบายดังกล่าวของแชมลา ไนดู (Shamla Naidoo) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายรักษาความปลอดภัยของบริษัท มีผลให้พนักงานของไอบีเอ็มที่ต้องการเคลื่อนย้ายข้อมูลต่าง ๆ นั้น ต้องกระทำผ่านระบบเน็ตเวิร์กขององค์กรเท่านั้น โดยเธอให้ความเห็นว่า มีความเป็นไปได้ที่บริษัทอาจเกิดความเสียหายด้านการเงินและชื่อเสียง หากสต๊าฟของบริษัทเกิดทำอุปกรณ์เหล่านั้นหาย หรือนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ซึ่งตัวแทนจากไอบีเอ็มระบุว่า นโยบายนี้ถือเป็นการเพิ่มมาตรฐานในการปกป้องข้อมูลของไอบีเอ็มและลูกค้าในสภาพการแข่งขันที่มีภัยคุกคามอยู่รอบตัวเต็มไปหมด
สำหรับนโยบายใหม่นั้น คาดว่าจะบังคับใช้เต็มรูปแบบภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่กฎหมาย GDPR ของสหภาพยุโรปจะเริ่มบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 25 พฤภาคมด้วยเช่นกัน
การเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งนี้ของไอบีเอ็มได้ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในฝั่งของผู้เชี่ยวชาญด้านซีเคียวริตี้ โดยบางส่วนมองว่า เป็นความกล้าหาญของไอบีเอ็มที่ออกกฏดังกล่าว เนื่องจากบรรดา USB Stick นั้นก็ทำให้ข้อมูลขององค์กรมีความเสี่ยงจริง ๆ แต่ในทางปฏิบัติ พนักงานส่วนหนึ่งอาจประสบปัญหายุ่งยากเนื่องจากต้องเปลี่ยนพฤติกรรมในการทำงาน ขณะที่บางส่วนก็มองว่า การห้ามใช้ USB Stick ไม่ได้ทำให้โอกาสที่ข้อมูลจะรั่วไหลลดลง
อย่างไรก็ดี หากยังจำกันได้ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ได้มีการพบ USB Stick ที่ภายในบรรจุข้อมูลลับ ทั้งแผนที่ วิดีโอ และเอกสารสำคัญเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยแก่พระราชินีอังกฤษ รวมถึงเส้นทางลับที่พระองค์ใช้เดินทางเข้าออกสนามบินฮีทโธร์วตกอยู่ข้างถนน ก่อนจะถูกส่งต่อให้กับสำนักข่าวชื่อดังจนนำไปสู่การสอบสวนอย่างเร่งด่วนมาแล้ว
ไม่แน่ว่าการตัดสินใจครั้งนี้ของไอบีเอ็มอาจเป็นสิ่งที่ถูกต้องก็เป็นได้
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ BBC, TheRegister