Digital Economy

5 ธุรกิจที่สะดวกสบายขึ้นด้วยเทคโนโลยี

Disrupt เป็นคำที่ถูกพูดถึงบ่อยมากในปัจจุบัน แม้ส่วนมากจะพูดถึงในเชิง Negative กับกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจ ว่าธุรกิจส่วนใหญ่ควรเริ่มหาลู่ทางปรับตัว ก่อนที่จะถูกเทคโนโลยีเข้ามา Disrupt ซึ่งจะก่อให้เกิดรูปแบบธุรกิจใหม่ ๆ และทำให้ผู้ประกอบการที่ไม่ได้มีปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยี ต้องล้มหายตายจากกันไป แต่แท้จริงแล้ว การ Disrupt ไม่ได้มีความหมายในเชิงลบ เพราะมันคือการที่มีนวัตกรรมเกิดขึ้นมาเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจและพฤติกรรมของผู้บริโภคไปอีกแบบหนึ่ง ซึ่งมักสร้างความสะดวกสบายให้ผู้ใช้ และยังสร้างพัฒนาการให้ธุรกิจนั้น ๆ อีกด้วย

thumbnail NOCNOC Photo2

และนี่คือตัวอย่าง 5 ธุรกิจที่ถูกพัฒนาให้สะดวกสบายขึ้นด้วยนวัตกรรมทางเทคโนโลยี

1. ธุรกิจการเงิน

ต่อไปการใช้เงินธนบัตรหรือเหรียญกษาปณ์เป็นตัวกลางแลกเปลี่ยนซื้อขายก็อาจจะกลายเป็นเรื่องเก่าไปแล้ว ด้วยทุกวันนี้สังคมเข้าสู่การเป็น Cashless Society เมื่อการซื้อขายด้วยเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Money เริ่มเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในสังคม ผ่านระบบโอนเงินด้วยแอปฯ หรือสแกน QR Code ที่ทำให้เราไม่ต้องพกแม้แต่เงินสดหรือกระเป๋าสตางค์เลย ใช้เพียงแอปฯ Wallet อาทิ Ali Pay, Apple Pay, Samsung Pay หรือแอปฯ ธนาคารต่าง ๆ เป็นต้น

ถึงแม้ประเทศไทยจะยังไม่ใช่สังคมที่ใช้เงินอิเล็กทรอนิกส์ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เพราะเราก็เห็นกันจากสังคมอย่างประเทศจีนที่การใช้จ่ายด้วยเงินอิเล็กทรอนิกส์กลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตไปแล้ว

2. ธุรกิจดนตรี

การเกิดขึ้นของระบบบันทึกเสียงทำให้คนเราสามารถพกพาเสียงเพลงที่ชอบไปฟังได้ โดยไม่ต้องไปฟังสด ๆ ตามงานแสดงของศิลปิน ยุคแรก สิ่งที่ใช้บันทึกเสียงคือแผ่นเสียงที่มีความจุเพียงไม่กี่เพลง จากนั้นเปลี่ยนมาเป็นเทปคาสเซตต์ ที่บรรจุเพลงได้เป็นสิบ ๆ เพลง ต่อมาก็มีการประดิษฐ์แผ่นคอมแพกต์ดิสก์ที่มีความจุเพียงพอจะใส่เพลงได้มากกว่าร้อยเพลง

เพลงได้เปลี่ยนไปเป็นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ผ่านแผ่นดิสก์ และเมื่อมีการคิดค้นไฟล์สกุล mp3 ที่บีบอัดขนาดจนเล็ก แต่ยังคงคุณภาพเสียงที่ดีพอจะฟังได้อย่างเพลิดเพลิน การซื้อขายเพลงแบบหลายร้อยเพลง และดาวน์โหลดมาเก็บไว้ได้ครั้งละมาก ๆ ก็คือก้าวต่อมาของวงการดนตรี

จนทุกวันนี้ เทคโนโลยีพัฒนาระบบการเก็บไฟล์แบบ Cloud ขึ้นมา ซึ่งกระทบกับวงการดนตรีอย่างจัง เพราะมันทำให้เราสามารถฟังเพลงจากมือถือหรือคอมพิวเตอร์ได้โดยไม่ต้องมีไฟล์เพลงอยู่กับตัวด้วยซ้ำ แต่โหลดมาฟังผ่านระบบไวร์เลสอย่างรวดเร็ว แผ่นดิสก์หรือเทปคาสเซตต์จึงกลายเป็นวิธีการฟังที่ไม่สะดวกสบายอีกต่อไป โมเดลธุรกิจฟังเพลงแบบสตรีมมิ่ง อย่าง Spotify, Joox หรือ Apple Music จึงผุดขึ้นมากมายนับแต่นั้น

3. ธุรกิจข่าวสาร

ด้วยการเกิดขึ้นของโซเชียลมีเดียหลายเจ้า ทำให้สายตาของคนเราที่เป็นผู้เสพสื่อล้วนจับจ้องไปแต่หน้า Feed ในแต่ละแอปฯ โซเชียลมีเดีย นั่นทำให้สำนักข่าวออนไลน์หลายแห่งถือกำเนิดขึ้นมา สร้างความสะดวกให้เหล่าผู้เสพข่าว ที่ต่างก็ใช้ชีวิตในโซเชียลมีเดียอยู่แล้ว ให้ได้รู้ข่าวสารแบบเรียลไทม์โดยแทบไม่ต้องละสายตาออกไปจากหน้าจอ กลายเป็นว่าทุกวันนี้ข่าวสารออนไลน์รวดเร็วเสียยิ่งกว่าข่าวโทรทัศน์เสียอีก ไม่ต้องพูดถึงหนังสือพิมพ์ที่กว่าจะได้อ่านกันก็พรุ่งนี้เช้า ความรวดเร็วของข่าวเปลี่ยนจากหลักวัน หลักชั่วโมง มาเป็นหลักวินาที

สิ่งเหล่านี้ทำให้สำนักข่าวและสื่อมวลชนเจ้าต่างๆ ต้องปรับตัวมาเป็นสำนักสื่อออนไลน์มากขึ้นตามธรรมชาติของเทคโนโลยีและผู้เสพสื่อ ที่ล้วนใช้เวลาอยู่กับออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ของชีวิต

4. ธุรกิจโทรคมนาคม

ถ้าถามว่าทุกวันนี้ใครยังส่งจดหมายหากันอยู่บ้างก็คงได้รับคำตอบว่าน้อยเต็มที หรืออาจจะแทบไม่มีเลย แต่ในช่วงเวลา 30-40 ปีก่อน การส่งจดหมายเป็นการสื่อสารปกติที่หลายคนใช้ส่งเอกสาร ข่าวสาร ความคิดถึง หรือเรื่องราวที่อยากบอก ผ่านหน้ากระดาษไปสู่ผู้รับ

และเมื่อโทรสารกับโทรศัพท์ถูกพัฒนาขึ้นมา จดหมายก็เริ่มลดบทบาทในธุรกิจโทรคมนาคมลง ด้วยความที่เอกสารนั้นส่งผ่านโทรสารได้ ส่วนความคิดถึงก็ส่งผ่านโทรศัพท์ได้ การพูดคุยกันผ่านคลื่นสัญญาณที่มองไม่เห็น กลายเป็นเรื่องปกติของการสื่อสาร เพียงแค่รู้เลขหมายปลายทางที่ต้องการติดต่อ

ต่อมาเทคโนโลยีโทรคมนาคมก็พัฒนาขึ้นจนเราสามารถใช้อินเทอร์เน็ตในการติดต่อสื่อสารกันได้โดยแทบไม่ต้องรู้เบอร์ติดต่อแล้วก็ได้ แต่พูดคุยกันผ่านแอปฯ แชต อย่าง Whatsapp หรือ LINE ที่สามารถพูดคุยแบบตัวอักษรหรือจะโทรหาเพื่อพูดคุยด้วยเสียง หรือจะใช้กล้องพูดคุยกันแบบเห็นหน้าค่าตาเลยก็ทำได้ แม้เทคโนโลยีคลื่นสัญญาณอาจจะยังทำให้การพูดคุยติดขัดอยู่บ้าง แต่ในอนาคต ความถี่สัญญาณใหม่ ๆ อาจจะทำให้เราติดต่อเห็นแบบเห็นหน้าเห็นตากันได้โดยไม่สะดุดเลยก็เป็นได้

thumbnail NOCNOC Photo1

5. ธุรกิจวัสดุตกแต่งบ้าน

ด้วยความที่งานปรับปรุงบ้านเป็นงานจุกจิก มีรายละเอียดมาก การจะจัดการให้เรียบร้อยตั้งแต่ต้นยันจบด้วยตัวเอง จะตกแต่งบ้านให้สวยเรียบร้อยได้ คงต้องพึ่งพาผู้รับเหมาเป็นหลัก ด้วยคอนเนคชั่นที่ผู้รับเหมามีต่อสถาปนิก ช่างหลากสาขา ไปจนถึงแหล่งวัสดุ ถ้าผู้แต่งบ้านจะทำทุกกระบวนการด้วยตัวเอง ก็อาจต้องสละเวลามาคลุกคลีเป็นอย่างมาก ซึ่งอาจไม่คุ้มสักเท่าไหร่
แต่กระนั้น บางครั้งผู้รับเหมาก็ไม่อาจหาวัสดุที่ถูกใจเราได้ตลอดไป ผู้ทำบ้านหลายคนจึงต้องลงมือเสาะหาวัสดุที่ใช่และเหมาะกับสไตล์ของบ้านด้วยตัวเอง ซึ่งทำให้พวกเขาต้องเดินทางไปดูวัสดุที่หน้าร้านหลายเจ้า และยังต้องซื้อกลับมาสื่อสารกับช่างและผู้รับเหมาว่าต้องการใช้จัดแจงแบบไหน หลายครั้งผลก็ออกมาไม่ได้ดั่งใจไม่คุ้มกับเวลาที่เสียไปเช่นกัน

ร้านค้าวัสดุตกแต่งบ้านออนไลน์จึงเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ช่วยประหยัดเวลาในการหาวัสดุ โดยร้านค้าวัสดุหลายแบรนด์เลือกเปิดเว็บซื้อขายออนไลน์เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าของตัวเอง หรือเว็บไซต์อย่าง NocNoc ที่เข้ามาเติมเต็มธุรกิจวัสดุตกแต่งบ้านให้สมบูรณ์ขึ้น ด้วยการเป็นตัวกลางระหว่างร้านค้าตั้งแต่รายใหญ่ถึงรายย่อยให้มาเปิดขายวัสดุในเว็บได้ รวมทั้งผู้ซื้อเองก็อาจเจอสินค้าที่ถูกใจจากหลายร้านค้าที่อยู่ในเว็บ NocNoc อีกทั้งยังมีระบบที่จะแนะนำช่างฝีมือดีที่อยู่ละแวกบ้านให้เข้ามาพร้อมติดตั้งโดยไม่ต้องอาศัยคอนเนกชั่น หรือต้องออกไปสอบถามเสาะหาช่างฝีมือดีจากคนอื่นเลย

เข้าไปทดลองใช้เว็บ NocNoc ตลาดออนไลน์ด้านวัสดุก่อสร้างและของแต่งบ้านครบวงจรแห่งแรกของไทยได้ที่ www.nocnoc.com

อย่างที่บอกว่านวัตกรรมย่อมเข้ามา Disrupt ธุรกิจวงการต่าง ๆ ให้เดินหน้าต่อไป และในยุคนี้นวัตกรรมก็คือเทคโน โลยี ซึ่งผู้ประกอบการทั้งหลายต้องตระหนักว่าเราไม่อาจหยุดการพัฒนาของนวัตกรรมได้ แต่เราสามารถเปลี่ยนแปลงธุรกิจตนให้เป็นส่วนหนึ่งของวงการในอนาคตได้ และความสะดวกสบายทั้งหมดก็จะอยู่กับผู้บริโภคนั่นเอง

Avatar photo