ควีนเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จขึ้นครองราชย์ในวัยเพียง 27 พรรษา หลังการสวรรคตของสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6
นับตั้งแต่วันที่พระองค์ขึ้นเป็นกษัตริย์เมื่อ 2 มิถุนายน 2496 จนกระทั่งวันสวรรคตเมื่อ 8 กันยายน 2565 พระองค์ คือ 1 ใน 3 ของสตรีที่ครองราชย์อย่างยาวนาน และมีอิทธิพลมากที่สุด ต่อจากควีนเอลิซาเบธที่ 1 ครองราชย์ 44 ปี และควีนวิกตอเรีย ครองราชย์ 63 ปี
ในช่วงรัชสมัยของพระองค์ มีนายกรัฐมนตรีถึง 15 คน นับตั้งแต่เซอร์วินสตันเชอร์ชิล มาจน ถึงนางลิซ ทรัสส์ ที่ได้เข้าเฝ้าเพื่อรับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษคนที่ 15 ที่ปราสาทบาลมารัล ในสกอตแลนด์เพียง 2 วันก่อนพระองค์จะเสด็จสวรรคต
ระยะเวลาบนบัลลังก์ 70 ปี ที่ยาวนานที่สุดแห่งราชวงศ์อังกฤษของพระองค์ ทรงผ่านมาทั้งความรุ่งโรจน์และตกต่ำ ทรงพบกับอุปสรรคและการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอื้อฉาวในครอบครัว ความรัก สงคราม สันติภาพ โรคระบาด เศรษฐกิจที่เฟื่องฟูและถดถอย รวมถึงการสูญเสียพระสวามีที่ทรงครองคู่กันมาถึง 74 ปี เมื่อปีที่ผ่านมา
อะไรคือสิ่งที่ทำให้ ควีนเอลิซาเบธที่ 2 เดินอยู่บนเส้นทางนี้ได้อย่างสง่างาม และได้รับการสรรเสริญจากผู้นำ และคนทั้งโลก
นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะผู้นำหลายสำนักวิเคราะห์ไว้ว่า พระองค์ทรงมีคุณลักษณะหลายประการที่โดดเด่น ในฐานะประมุขของชาวสหราชอาณาจักร และเครือจักรภพ แต่สิ่งหนึ่งซึ่งนับว่าสำคัญ และเราควรนำมาเป็นแบบอย่างคือ การทำงานด้วยความรัก และยืดหยุ่น (Passion & Resiliency)
Lisa DeFrank-Cole ผู้อำนวยการโครงการศึกษาความเป็นผู้นำของ West Virginia University บอกว่า “พระองค์ทรงหลงใหลในงานที่ทำ ทรงรัก และทุ่มเทในงานที่รับผิดชอบ และทำได้ดีในทุกสภาวะการณ์ รวมถึงต้องตัดสินใจอย่างหนัก ไม่ต่างจากผู้นำธุรกิจทั้งหลาย”
ใครก็ตามหากมี Passion ในสิ่งที่ทำ แม้ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายที่ไม่คาดฝัน ถ้าใจรักและสนุกอยู่กับงาน มันจะผ่านไปได้ แม้จะสะดุดหกล้มบ้าง ก็พร้อมจะลุกขึ้นใหม่ และบอกตัวเองให้ “Keep Calm and Carry On” ซึ่งพสกนิกรของพระองค์คุ้นเคยกับสโลแกนนี้เป็นอย่างดี และเห็นพระองค์ทรงปฏิบัติเช่นนี้เสมอ
ในแง่ของความยืดหยุ่น ไม่ว่าจะเป็นด้านสงคราม ปัญหาครอบครัว หรือบทบาทของสื่อมวลชนที่เปลี่ยนไป พระองค์ก็ทรงเรียนรู้วิธีก้าวไปข้างหน้า และคงความสัมพันธ์ที่ดีเอาไว้
นอกจากนี้ ยังทรงเป็นนักฟังที่ดี ให้ความสำคัญกับความเห็นของคนรอบข้าง ซึ่งช่วยให้พระองค์สามารถเอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ ได้
Gemma Leigh Roberts นักจิตวิทยาและเจ้าของหนังสือ Mindset Matters กล่าวว่า เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความท้าทาย หลายครั้งพระองค์ก็ไม่ได้เพิกเฉย หรือปล่อยผ่าน แต่จะทรงปรับเปลี่ยนแนวทางของพระองค์ ซึ่งการไม่ยึดติดนี้ ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของการเป็นผู้ที่มีความยืดหยุ่นอย่างแท้จริง
วันนี้แม้ไม่มีควีนเอลิซาเบธที่ 2 ให้เห็นอีกต่อไป แต่ยังมีแบบอย่างที่ดีเอาไว้ให้เราจดจำ
หากอยากเป็นผู้นำที่สง่างาม และคนรอบข้างสรรเสริญ จงรักในสิ่งที่ทำ และยืดหยุ่น เหมือนอย่างที่พระองค์ทรงแสดงให้เห็นมาตลอด 70 ปี
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- อย่าให้ ‘ความคิดบวก’ เป็นแค่ ‘ภาพลวงตา’
- ‘ภาวะผู้นำ’ หลัง ‘ถอดแมสก์’
- เหตุผลที่ ‘ผู้นำ’ ต้อง ‘รู้จักตัวเอง’