COLUMNISTS

วอลโว่มาแรง จะขาย EV ให้มากถึง 50% ภายในปี 2025

Avatar photo
แอดมินเพจ Tesla News Thailand นำเสนอเรื่องราวบริษัทเทสล่า และความเคลื่อนไหวในวงการรถยนต์ยุคใหม่ และพลังงานไฟฟ้ายั่งยืน [email protected]
95

สาธารณชนได้ทราบข่าวประกาศจากทางวอลโว่เมื่อปีที่แล้วว่าทางบริษัทตั้งเป้าให้รถทุกรุ่นทุกคันที่จะขายเป็นรถที่ติดตั้งระบบไฟฟ้าเพื่อช่วยขับเคลื่อน (electrified) ในปี 2019 เป็นต้นไป

มาในปีนี้วอลโว่ได้ประกาศให้ทราบถึงความชัดเจนในรายละเอียดมากขึ้นว่า 50% ของยอดขายจะเป็นรถไฟฟ้าล้วนๆ (EV – รถที่ไม่มีเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมัน) ภายในปี 2025

นี่คือเป้าหมายที่แสดงถึงความเอาจริงมากกว่าการพูดคร่าวๆ ด้วยการใช้คำว่า Electric ที่เป็นเพียงออปชั่นของเครื่องยนต์ ซึ่งจะหมายถึงรถไฮบริด หรือปลั๊กอินไฮบริดที่ใช้มอเตอร์มาเสริมกำลังขับเคลื่อน หรือใช้ขับเคลื่อนรถแทนเครื่องยนต์ในโหมดไฟฟ้านั่นเอง

Håkan Samuelsson ประธานและซีอีโอวอลโว่แถลงข่าวนี้ด้วยตนเองที่งานปักกิ่ง มอเตอร์ โชว์ ว่า

“ปีที่แล้วเราได้ให้พันธสัญญาว่าจะเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้า และวันนี้เราขอประกาศความมุ่งมั่นที่ชัดเจนมากขึ้นเพื่อตลาดที่เป็นผู้นำโลกแห่งยุครถยนต์พลังงานไฟฟ้าว่า อนาคตของยุคแห่งพลังงานขับเคลื่อนไฟฟ้าของจีนก็คืออนาคตของวอลโว่เช่นเดียวกัน”

2018 4 27 news

สำหรับแบรนด์วอลโว่นั้น แม้ว่าในปัจจุบันจะยังไม่มีรถรุ่นที่เป็นรถไฟฟ้าแท้ๆ แต่ก็คาดว่าจะมีเวอร์ชั่นไฟฟ้าล้วนของรุ่น XC 40 ซึ่งเป็นรถ SUV ขนาดเล็กที่ขายดีออกมาให้เลือกซื้อกันภายในเวลาอันไกล้นี้ ซึ่งจะมาพร้อมกับตัวเลือกขุมพลังขับเคลื่อนที่มีทุกแบบไม่ว่าจะเป็นแบบไฮบริด ปลั๊กอินไฮบริด หรือแบบมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียวด้วย โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นไป

สิ่งที่น่าสนใจมากๆ ของการใช้ตัวถังเดียวแต่มีตัวเลือกเครื่องยนต์ครบทุกแบบก็คือการตั้งราคาที่ต้องอยู่พื้นฐานของกำไรต้นทุน

ในวันนี้ที่เราทราบกันดีว่าราคาของแบตเตอรี่คิดเป็น 1 ใน 3 ของราคารถ ซึ่งบวกลบคูณหารแล้ว ยังไงราคารถแบบไฟฟ้าล้วนๆ ก็จะต้องแพงที่สุด

แต่สิ่งที่จะเป็นข้อดีที่เป็นพระเอกก็คือการไม่ปล่อยไอเสียออกมาเลย แต่การที่ผู้บริโภคโดยทั่วไปที่มักจะไม่ได้คำนึงถึงเรื่องนี้สักเท่าไหร่ ซึ่งเป็นลูกค้าส่วนใหญ่ จะตัดสินใจเลือกอะไรนั้นคงต้องขึ้นอยู่กับบริษัทว่า จะมุ่งเน้นที่เป้าหมาย 50% อย่างจริงจังขนาดไหน

ถ้าเอาจริงมากที่สุดก็อาจจะต้องยอมเฉือนเนื้อเอากำไรน้อย กับราคาขายของรุ่นไฟฟ้าล้วนๆ รวมทั้งมาตรการจูงใจทางอ้อมอื่นๆ ที่จะช่วยให้ลูกค้าหันมาสนใจรถไฟฟ้าล้วนมากกว่าตัวเลือกอื่น โดยอาจจะมีการสื่อสารไปที่เรื่องค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่น้อยกว่ามากๆ หรือ เรื่องปัญหาจุกจิกจากเครื่องยนต์ที่จะน้อยกว่าออปชั่นอื่น เพราะไม่มีเครื่องยนต์กลไกที่ซับซ้อนมากๆ ก็ได้

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราอาจจะมองว่านี่คือการเอาจริงเอาจังที่ดูแตกต่างไปจากบริษัทคู่แข่งขนาดไม่ใหญ่เจ้าอื่นๆ ในโลก เพราะเจ้าของตัวจริงคือบริษัท Geely ที่เป็นของจีนซึ่งกำลังจะใช้โอกาสที่มีครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ช่วงเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ เพื่อก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นตัวสำคัญในโลกใหม่แห่งการขับเคลื่อน ขณะที่บริษัทรถยนต์ใหญ่ๆ อย่างบริษัททางฟากญี่ปุ่นยังคงออกท่าทางไม่ชัดเจนเท่าไหร่

นี่คือช่วงเวลาที่บันทึกทางประวัติศาสตร์กำลังถูกเขียนอย่างมีสีสัน เพราะความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จะนำมาซึ่งการเอาตัวรอดของทุกส่วน ที่มีความเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมรถยนต์ ดูแล้วไม่ต่างจากอุตสหกรรมมือถือที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว

น่าลุ้นน่าติดตามชมครับ

ที่มา : https://goo.gl/2Mya9w